ประมวลความสัมพันธ์เวียดนาม-ไทยประจำเดือนสิงหาคมปี 2021
(VOVWORLD) - ขอต้อนรับท่านเข้าสู่รายการประมวลความสัมพันธ์เวียดนาม-ไทยประจำเดือนสิงหาคมปี 2021 เราขอเริ่มด้วยข่าวกิจกรรมรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-ไทยซึ่งตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม
|
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝามมิงชิ่งห์ ได้ส่งโทรเลขแสดงความยินดีถึงนายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม บุ่ยเเทงห์เซิน ส่งโทรเลขอวยพรถึงนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยก็ได้ส่งโทรเลขอวยพรถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามด้วยเช่นกัน ในข้อความแสดงความยินดี ผู้นำของทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมผลงานอันยิ่งใหญ่ของทั้งสองประเทศในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา และแสดงความเชื่อมั่นว่าด้วยความสามัคคีและความเห็นพ้องในระดับสูง ผู้นำและประชาชนของทั้งสองประเทศจะฟันฝ่าความท้าทายโดยเร็ว ร่วมกันพัฒนาประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างเวียดนามกับไทย ให้แข็งแกร่งมั่นคง มีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก.เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม สถาบันวิจัยระหว่างประเทศและความมั่นคงสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ของไทย และสถาบันวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์สังคมศาสตร์เวียดนามได้จัดการสัมมนาเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทยและเวียดนาม โดยมีนักวิชาการของทั้งสองประเทศเข้าร่วม ในการสัมมนา บรรดานักวิชาการได้อภิปรายหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือเวียดนาม – ไทยในทุกด้านตั้งแต่การเมือง - ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน การผลักดันความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและการสนับสนุนกันในกลไกพหุภาคี ในปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ นอกจากนั้น ทั้งสองประเทศยังมีโอกาสร่วมมือมากมายในด้านเศรษฐกิจ การเมือง การเชื่อมโยง แรงงาน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนทั้งในกรอบทวิภาคีและระดับภูมิภาค ในวันเดียวกัน ดร.เจืองถิหั่ง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และดร. นคร เสรีรักษ์ อาจารย์จากวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเทศไทย ได้เปิดตัวหนังสือชื่อ "45 ปีความสัมพันธ์เวียดนาม-ไทย (1976-2021): มรรคาแห่งประวัติศาสตร์". ซึ่งจัดพิมพ์เป็น 2 ภาษา คือภาษาเวียดนามและภาษาไทย.
การสัมมนาออนไลน์ในโอกาสรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-ไทย |
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการสัมมนาออนไลน์ในโอกาสรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-ไทย บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการสัมมนาได้แสดงความเห็นว่า ในตลอดเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์เวียดนาม-ไทยนับวันพัฒนากว้างลึกมากขึ้น ผลักดันความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในทุกด้าน มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้น 35 เท่าภายในเวลา 23ปี จาก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 1995 ขึ้นเป็น 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 เมื่อปี 2020 ถึงแม้เผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่มูลค่าการค้าต่างตอบแทนยังคงบรรลุเกือบ 1หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 30 ของมูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับอาเซียน ไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยวเวียดนามและเวียดนามก็เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยวไทย มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 11.5 ตั้งแต่ปี 2011-2019 ปัจจัยทั้งหมดนี้ได้มีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาใกล้ชิดมากขึ้น
บรรยากาศการสนทนาระหว่างสองฝ่าย |
บ่ายวันที่ 30 สิงหาคม นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้สนทนาออนไลน์กับนาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย โดยเสนอให้ไทยสนับสนุนเวียดนามปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปี 2021 ให้ประสบความสำเร็จ ร่วมมือในการรับมือกับการแพ่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป นาย เวืองดิ่งเหวะ หวังว่า ทั้งสองประเทศจะยังคงประสานงานและสนับสนุนกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคี และไทยจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเวียดนามเพื่อส่งเสริมจุดยืนร่วมกันของอาเซียนในปัญหาทะเลตะวันออก ค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในภูมิภาคบนพื้นฐานของกฎหมายสากล ส่วนนาย ชวน หลีกภัย ได้สนับสนุนความเห็นของนาย เวืองดิ่งเหวะ เกี่ยวกับความสัมพันธ์พหุภาคี ซึ่งเน้นถึงความสำคัญของการธำรงสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของภูมิภาค และย้ำว่า ไทยและเวียดนามเป็นสองประเทศเพื่อนบ้านที่ยังคงส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า พยายามลดอุปสรรคและกระชับความสัมพันธ์นี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.
ชมรมชาวเวียดนามในประเทศไทยบริจาคเงินกว่า 1 พันล้านด่งเพื่อสนับสนุนกองทุนวัคซีนป้องกันโควิด-19 |
สำหรับกิจกรรมช่วยเหลือและสนับสนุนกันในสภาวการณ์ที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างซับซ้อน สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้จัดพิธีรับเงินสนับสนุนกองทุนวัคซีนเวียดนามซึ่งบริจาคโดยชมรมชาวเวียดนามในประเทศไทย รวมยอดเงินสนับสนุนเกือบ 1 ล้าน 5 แสนบาทหรือ คิดเป็นกว่า1 พันล้านด่ง ในการกล่าวปราศรัยในพิธี เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ฟานชี้แถ่งได้แสดงความซาบซึ้งต่อน้ำใจและการช่วยเหลือจุนเจือกันของชมรมชาวเวียดนามในประเทศไทยที่มุ่งใจสู่ประเทศอยู่เสมอ และจะส่งมอบเงินบริจาคนี้ให้แก่แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามโดยเร็วที่สุด
ในขณะเดียวกัน นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์ ได้มอบเงิน 220 ล้านด่ง (ประมาณ 300,000 บาท) พร้อมหน้ากากอนามัยภายใต้โครงการ “หน้ากากแห่งความเมตตา” โดยบริษัท CP Vietnam Corporation จำนวน 50,000 ชิ้น ในนามสถานกงสุลใหญ่ฯ ภาคเอกชนและชุมชนไทยในนครโฮจิมินห์ เพื่อสนับสนุนนครโฮจิมินห์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีนาง โตถิบิ๊กโจว์ ประธานคณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามประจำนครโฮจิมินห์เป็นผู้รับมอบ และนาย เจิ่นเฟือกแอง รักษาการอธิบดีกรมความสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ร่วมเป็นสักขีพยาน.
ภาพของงาน (Photo:สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์) |
วันที่ 20 สิงหาคม ได้มีการจัดพิธีมอบทุนการศึกษา จำนวน 20 ทุน รวมมูลค่า 100 ล้านด่งให้แก่นักศึกษาภาควิชาไทยศึกษาที่มีผลการเรียนดีในปีการศึกษา 2021-2022 ของมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์หรือ USSH มหาวิทยาลัยแห่งชาตินครโฮจิมินห์ โดยจัดขึ้นผ่านระบบทางไกล ซึ่งมีนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ไทยณ โฮจิมินห์และตัวแทนของมหาวิทยาลัยเข้าร่วม
ในวันเดียวกัน ได้มีการจัดพิธีมอบทุนการศึกษาจำนวน 20 ทุน รวมมูลค่า 100 ล้าน ด่งให้แก่นักศึกษาเอกวิชาภาษาไทยของมหาวิทยาลัยดานัง วิทยาเขตภาษาต่างประเทศที่มีผลการเรียนดีเด่นในปีการศึกษา 2021-2022 สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์ ได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาเอกวิชาภาษาไทยที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัยดานัง วิทยาเขตภาษาต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องกว่า 9 ปี รวม 83 ทุน มูลค่ากว่า 471,000,000 ด่ง เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนเยาวชนเวียดนามในการเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทย รวมถึงการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทยในเวียดนามในระดับอุดมศึกษา และส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและวัฒนธรรม ระหว่างไทยและเวียดนาม./.