นาย หวูจ่องต่าย ผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท RX Tradex (nguonluc.com.vn)

กรมการลงทุนต่างประเทศของกระทรวงวางแผนและการลงทุนเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน มีโครงการใหม่กว่า 578 โครงการที่ได้รับใบรับรองการลงทุน นักลงทุนต่างชาติได้ลงทุนใน 18 ด้านจากจำนวนทั้งหมด 21 ด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีหลายโครงการของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์  กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ เช่น FOXCONN Samsung โดยเฉพาะ Apple ได้เริ่มผลิตไอแพดในเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เมื่ออุปสรรคจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ค่อยๆหมดไป ความต้องการเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนด้านการค้าและการฟื้นตัวของการผลิตนับวันเพิ่มมากขึ้น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามกำลังมีโอกาสที่ดีเพื่อพัฒนาและเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกในเชิงลึกมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 14-16 กันยายน ณ กรุงฮานอย ในกรอบงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ - NEPCON Vietnam 2022 บริษัท RX Tradex ได้ประสานกับสมาพันธ์สถานประกอบการอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม และสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์สิงคโปร์จัดฟอรั่มอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม 2022 ภายใต้หัวข้อ "การผลิตแบบลีน 4.0 และการพัฒนาที่ยั่งยืน" ในโอกาสนี้ ได้มีโครงการเชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆและกิจกรรมสนับสนุนสถานประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ในการผลิต ขยายตลาดและเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจระหว่างประเทศ ตลอดจนเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานระดับโลก นาย หวูจ่องต่าย ผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท RX Tradex กล่าวว่า

“งานนิทรรศการ Nepcon 2022 เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการระดับโลกในด้านอุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยให้สถานประกอบการที่เข้าร่วมงานและผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมมีมองในภาพรวมเกี่ยวกับอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ตลอดจนแนวโน้มล่าสุด ดังนั้น นี่ถือเป็นเวทีสำหรับการพบปะระหว่างผู้ขาย-ผู้ซื้อ แลกเปลี่ยนข้อมูล อัพเดทเทคโนโลยีและแนวโน้มของตลาดโลก แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อการยกระดับ แน่นอนว่า สถานประกอบการต้องพิจารณาการลงทุนด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ในระยะยาวเพื่อเพิ่มผลผลิต ประสิทธิภาพและคุณภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น นอกจากเทคโนโลยีและอุปกรณ์แล้ว การบริหารข้อมูลตลาดก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ดังนั้น Nepcon จึงตั้งเป้าที่จะให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนเพื่อให้สถานประกอบการสามารถเชื่อมโยงและเปิดโอกาสทางธุรกิจได้ดีขึ้นสำหรับทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ”

นาง โด๋ถิถุยเฮือง สมาชิกคณะกรรมการบริหารของสมาพันธ์สถานประกอบการอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม (nguonluc.com.vn)

ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ภายหลังการระบาด อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวียดนามต้องมีก้าวกระโดดเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตแบบลีนและการดำเนินงานของตลาดเพื่อช่วยให้สถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมการผลิตได้ สถานประกอบการขนาดใหญ่หลายแห่งได้ย้ายฐานการผลิตมาเวียดนาม เช่น นักลงทุนไต้หวัน ประเทศจีน ในซัพพลายเชนได้มาแสวงหาโอกาสการเชื่อมโยงกับสถานประกอบการเวียดนาม เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท Boeing ได้จัดการประชุมอวกาศ Boeing ด้วยความปรารถนาที่จะสร้างระบบนิเวศของซัพพลายเออร์ส่วนประกอบให้แก่บริษัท Boeing ในเวียดนาม ซึ่งเป็นการเปิดแนวทางใหม่สำหรับเวียดนามในการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ไฮเทค นอกจากนี้ การย้ายฐานการลงทุนนี้ สถานประกอบการเวียดนามมีโอกาสมากมายในการขยายการผลิตและแสวงหาหุ้นส่วนและลูกค้าใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการจะต้องพยายามเป็นอย่างมากเพราะยังมีความท้าทายอีกมากมาย โดยเฉพาะการแข่งขันกับซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมเดียวกันที่กำลังเข้าสู่ตลาดเวียดนาม สถานประกอบการต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีให้มีความสมบูรณ์เพื่อตามให้ทันซัพพลายเออร์ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เพื่อให้ซัพพลายเออร์ชั้นนำสามารถเข้าถึงสถานประกอบการเวียดนามได้ นาง โด๋ถิถุยเฮือง สมาชิกคณะกรรมการบริหารของสมาพันธ์สถานประกอบการอิเล็กทรอนิกส์เวียดนามกล่าวว่า

“สถานประกอบการเวียดนามส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตในซัพพลายเชนของสถานประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามเป็นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เงื่อนไขในการปรับปรุงเทคโนโลยีและการเงินมีจำกัด และสถานประกอบการต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐ รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนสถานประกอบการให้เข้าถึงแหล่งกู้และสินเชื้อที่เหมาะสมและสะดวก ประการที่สองคือ สถานประกอบการต้องการการสนับสนุนจากรัฐในด้านการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยีและแหล่งสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใหม่ด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลในการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ในห่วงโซ่อุปทานของสถานประกอบการอิเล็กทรอนิกส์”

โครงการลงทุนล่าสุดในเวียดนามส่วนใหญ่เน้นด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามมีโอกาสมากขึ้นในการเข้าถึงและเรียนรู้แนวโน้มของตลาดใหม่ ๆ ความสำเร็จด้านเทคนิคและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ตลอดจนพบปะและแลกเปลี่ยนกับหุ้นส่วนที่มีศักยภาพจากทั่วโลก หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามได้มีก้าวกระโดดเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตแบบลีนและการดำเนินงานของตลาดเพื่อช่วยให้สถานประกอบการ โดยเฉพาะ สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมการผลิตได้.