ดร. เกิ๊นวันหลึก ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ (vnexpress)

เพื่อรับมือการแพร่ระบาดและแก้ไขผลเสียหายจากโรคโควิด-19 ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม เวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายเกี่ยวกับงบประมาณ การเงินและนโยบายมหภาคต่างๆอย่างพร้อมเพียงเพื่อแก้ไขผลเสียหายและสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สภาแห่งชาติเวียดนามได้ประกาศมติที่กำหนดขอบเขตนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคม งบประมาณ การกู้เงินและการชำระหนี้สาธารณะ การลงทุนภาครัฐและแผนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจระยะปี 2020 ถึงปี 2025 ในการประชุมครั้งที่ 2 สภาแห่งชาติเวียดนามสมัยที่ 15 สภาแห่งชาติได้ประกาศมติที่มอบหมายหน้าที่ให้รัฐบาลจัดทำและปฏิบัติโครงการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19โดยทั่วไป ตามแนวทาง "ปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัวและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ" พร้อมทั้งจัดทำและปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจแบบบูรณาการ มติของสภาแห่งชาติยังมอบหมายหน้าที่ให้รัฐบาลจัดทำงบประมาณและการเงินเพื่อสนับสนุน 2 โครงการดังกล่าว สนับสนุนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติพิจารณา

ดร. เกิ๊นวันหลึก ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจกล่าวว่า ในเวลาที่จะถึง การจัดทำนโยบายงบประมาณและการเงินต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อทั้งอุปทานและอุปสงค์ สามารถปฏิบัติได้จริงอย่างรวดเร็ว เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสามารถประสานงานกับนโยบายอื่นๆ ในด้านนโยบายการเงิน จำเป็นต้องปฏิบัติมาตรการที่สนับสนุนให้สถาบันการเงินลดดอกเบี้ยเงินกู้ ตั้งแต่ร้อยละ 0.5 – ร้อยละ 1 เพื่อเป็นการช่วยให้ประชาชนและสถานประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อฟื้นฟูการผลิต

“สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน เราเสนอให้เพิ่มการลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 150 ล้านล้านด่งเพื่อสนับสนุนโครงการและกิจการหลัก ซึ่งตามนั้น วงเงินสนับสนุนงบประมาณจะอยู่ที่ 278 ล้านล้านหรือคิดเป็นร้อยละ 3.41ของ GDP ปี 2021 การขยายตัวจะอยู่ที่ร้อยละ 2”

แต่อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ใช่จากวิกฤตเศรษฐกิจ-การเงิน ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างเด็ดขาด จำเป็นต้องใช้มาตรการแก้ไขทางการแพทย์เป็นหลักและใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคเป็นมาตรการสนับสนุน โดยในระยะสั้น ควรสงวนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ สวัสดิการสังคมและสนับสนุนสถานประกอบการ ส่วนในระยะยาว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควรเปลี่ยนจากการสนับสนุนเงินโดยตรงมาเป็นการสนับสนุนด้านนโยบายเพื่อมุ่งสู่การผลักดันนวัตกรรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน ศาสตราจารย์ ดร. เหงียนดึ๊กเคือง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของมหาวิทยาลัย IPAG กรุงปารีส แสดงความคิดเห็นว่า นอกจากปฏิบัตินโยบายงบประมาณและการเงินแล้ว  เวียดนามยังต้องพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อผลักดันการเพิ่มผลิตภาพเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม

“การสนับสนุนจากรัฐและรัฐบาลควรเน้นการฝึกอบรมบุคลากร สนับสนุนเงินทุน  แบ่งปันความเสี่ยงกับสถานประกอบการ ช่วยให้สถานประกอบการปฏิบัติยุทธศาสตร์เพื่อรับมือความท้าทายใหญ่ 5 ประการ เช่น ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ การลงทุนด้านเทคโนโลยี บิ๊กดาต้า สามารถเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีขึ้น การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เป็นต้น ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องถึงทรัพยากรมนุษย์”

สำหรับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล รองศาสตราจารย์ ดร. บุ่ย กวาง ต๊วน ผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามกล่าวว่า นี่เป็นโอกาสทองให้เวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

“จำเป็นต้องเพิ่มการลงทุน ทั้งในด้านการเงิน แหล่งบุคลากรและปรับปรุงกลไกระเบียบให้มีความสมบูรณ์ โดยมีการทดลองในด้านนวัตกรรม ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังgเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วรอบตัวเราเพื่อการอยู่รอดและพัฒนาในอนาคต”