ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรจำเป็นต้องจัดระเบียบการผลิตใหม่อย่างรวดเร็วและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ (nhandan.vn)

การส่งออกสินค้าเกษตรได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษี 0% แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการเวียดนามกำลังประสบปัญหาในการเลือกรูปแบบการส่งออก เนื่องจากต้องพึ่งพาคู่ค้าจากจีน ตามข้อกำหนดของฝ่ายจีน สถานประกอบการจีนต้องจ่ายภาษีถ้าหากนำเข้าสินค้าเกษตรผ่านช่องทางที่เป็นทางการ ดังนั้น รูปแบบของการนำเข้าสินค้าผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการตามชายแดนยังคงได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ นาย ดิงวันท้าย เจ้าของสถานประกอบการด้านสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกในจังหวัดหล่างเซินกล่าวว่า

“ผมส่งออกสินค้าเกษตรต้องเสียภาษี 0% แต่สำหรับคู่ค้าชาวจีน เมื่อรับซื้อต้องจ่ายค่าภาษีนำเข้าในประเทศจีน ภาษีนำเข้าสูงถึงสองเท่า บางครั้ง แก้วมังกร 1 กล่อง ถ้าหากนำเข้าผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการต้องใช้เงิน 2 หยวนเท่านั้น แต่ถ้าหากนำเข้าผ่านช่องทางที่เป็นทางการจะแพงเป็นสองเท่า ประมาณ 5 หยวน ถึงแม้ว่าอาจเผชิญความเสี่ยง เช่น ความแออัดของสินค้าในเขตชายแดนและเรื่องคุณภาพ แม้พรมแดนยังไม่ปิด แต่เมื่อคำนวณแล้ว การส่งออกยังคงทำกำไรให้แก่ผม”

ผู้ประกอบการของทั้งสองฝ่ายมักเลือกการส่งออกผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการเนื่องจากไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ แหล่งกำเนิดและประเภทของสินค้าเกษตรยังมีความหลากหลาย แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงต่อสถานประกอบการเวียดนามให้เหลือน้อยที่สุด เมื่อสำนักงานที่เกี่ยวข้องของจีนมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับสินค้าเกษตรนำเข้า สถานประกอบการเวียดนามต้องเปลี่ยนแนวคิด "จีนเป็นตลาดที่ง่าย" นาย เหงียนดิ่งด่าย ผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์และอุตสาหกรรมจังหวัดหล่างเซินกล่าวว่า  สิ่งที่สำคัญคือพ่อค้าและสถานประกอบการส่งออกสินค้าเกษตรต้องจัดระเบียบการผลิตใหม่อย่างรวดเร็ว ปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์เพื่อมุ่งสู่การส่งออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการ

“การส่งออกผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการขึ้นอยู่กับระดับการผลิตและการปรับโครงสร้างการผลิตทางการเกษตรเป็นอย่างมาก เราต้องปรับปรุงการผลิตเพื่อค้ำประกันกระบวนการและคุณภาพของผลิตภัณฑ์และสินค้า จากนั้นจึงจะสามารถนำไปส่งออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการที่ยั่งยืนตามกระบวนการและมาตรฐานของประเทศผู้นำเข้า”

สินค้าส่งออกผ่านด่านชายแดนเตินแทง จังหวัดหล่างเซิน (VNA)

นาย มายซวนแถ่ง รองอธิบดีทบวงศุลกากรแสดงความเห็นว่า ศักยภาพของสินค้าเกษตร รวมทั้งตลาด กำลังการผลิตและการบริโภคของเวียดนามยังมีมาก แต่ปัจจุบันยังคงเน้นในท้องถิ่นที่ติดกับเขตชายแดน ดังนั้น เพื่อทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น หน่วยงานศุลกากรต้องการให้สำนักงานและสมาพันธ์สถานประกอบการมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อเปลี่ยนมาเป็นการส่งออกสินค้าเกษตรอย่างรวดเร็วและผ่านช่องทางที่เป็นทางการ

“ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า รูปแบบการส่งออกสินค้าผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการได้มีส่วนร่วมส่งเสริมการเกษตรในเวลาที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม รูปแบบนี้อาจมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ในระยะยาว สถานประกอบการต้องบริหารจัดการอย่างเข้มงวดมากขึ้น ค้ำประกันคุณภาพ พัฒนาชื่อเสียงและหุ้นส่วนจากจีนต้องปฏิบัติเหมือนกัน เพื่อให้เราสามารถลงนามในสัญญาจัดสรรสินค้าได้อย่างสม่ำเสมอ มุ่งสู่การประกอบธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น และในเวลาที่จะถึงต้องส่งเสริมแนวโน้มนี้ ถ้าหากธำรงมูลค่าการซื้อขายให้เพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยก็ทำได้ด้วยวิธีเดิม นอกจากการส่งออกสินค้าผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการแล้ว เราต้องส่งเสริมการค้าเนื่องจากผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนามยังคงมีศักยภาพสูง”

ในการประชุมสรุปหน่วยงานการเกษตรปี 2021 และปฏิบัติแผนการในปี 2022 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้สั่งให้จัดทำแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาในการส่งออกสินค้าเกษตรโดยมีการเข้าร่วมของหลายฝ่าย ตั้งแต่กระทรวง สำนักงาน สถานประกอบการ ไปจนถึงพ่อค้าและเกษตรกร เพราะการส่งออกสินค้าเกษตรไม่สามารถปฏิบัติผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการได้ อีกทั้ง สั่งให้กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมส่งเสริมการเปิดตลาดและขยายรายการสินค้าเกษตรของเวียดนามที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ท้องถิ่นต่างๆส่งเสริมการตรวจสอบ การบริหารและการใช้รหัสพื้นที่ปลูก ลงโทษการกระทำที่ละเมิดขั้นตอนเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อย่างเด็ดขาดเพื่อค้ำประกันให้สินค้าเกษตรตอบสนองมาตรฐานส่งออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการไปยังประเทศจีน ขยายไปยังตลาดใหญ่ๆในโลก เช่น ยุโรป สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐและญี่ปุ่น.