ผลักดันการส่งออกเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6 ในปีนี้

(VOVWORLD) - ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของเวียดนามประสบอุปสรรคมากมาย และสินค้าส่งออกหลักหลายรายการลดลง แต่การฟื้นตัวของสินค้าเกษตร เช่น ข้าวและผัก ได้ช่วยให้การส่งออกในเดือนพฤษภาคมมีการเติบโตสูงกว่าเดือนเมษายน และช่วยให้ตัวเลขเกินดุลการค้าใน 5 เดือนแรกบรรลุเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาวะเงินเฟ้อในบางตลาดลดลง ความต้องการสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น ควบคู่กับความพยายามของสถานประกอบการ สมาคมและอุตสาหกรรมสินค้าโภคภัณฑ์ของเวียดนาม มีการคาดการณ์ว่า กิจกรรมการส่งออกของเวียดนามจะฟื้นตัวในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปีนี้
ผลักดันการส่งออกเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6 ในปีนี้ - ảnh 1moit.gov.vn)

ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าของเวียดนามบรรลุกว่า 2 แสน 6 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเกือบร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 11.6  สินค้าส่งออกของเวียดนามได้ลดลงในช่วงต้นปีเนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศและภูมิภาค จึงทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าลดลง แต่อย่างไรก็ตาม การส่งออกของเวียดนามตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นปีได้รับการคาดการณ์ว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกบรรลุกว่า 2 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 4.3  เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน โดยภาคเศรษฐกิจภายในประเทศบรรลุ 7.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1  การลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงน้ำมันดิบ บรรลุ 2 หมื่น 1 พัน 2 ร้อย 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5  และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมแปรรูป รวมทั้ง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์กลับมาเติบโตได้ดี สินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกบางชนิดมีมูลค่าเพิ่มในระดับสูง ข้าวของเวียดนามสามารถเจาะตลาดหลายแห่งที่มีมาตรฐานเข้มงวดในสหภาพยุโรปหรืออียู โดยเฉพาะ สินค้าส่งออกหลายรายการได้ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของข้อตกลงการค้าเสรีรุ่นใหม่เป็นอย่างดี ดุลการค้ายังคงเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตามความเห็นของนาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออกของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม นี่ถือเป็นจุดเด่นในกิจกรรมการส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

“เราคาดว่า ผลการนำเข้าและส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกจะเกินดุลการค้าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าจะช่วยรักษาเสถียรภาพของการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในภาพรวม เราจะเห็นว่า ดุลการค้าอยู่ในระดับที่มั่นคง”

สินค้าเกษตรและผลไม้ของเวียดนามได้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว โดยลิ้นจี่เริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บผลผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ และบริษัทต่าง ๆ ของเวียดนามได้พยายามส่งเสริมการส่งออกลิ้นจี่ หลุกหง่านของจังหวัดบั๊กยาง ไปยังตลาดต่าง ๆ  เช่น ญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐ ตัวแทนของสำนักงานการค้าเวียดนามในต่างประเทศเผยว่า ข้อกำหนดของตลาดส่งออกมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะข้อกำหนดเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหาร ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานการก่อมลพิษ นาย กาวซวนทั้ง ตัวแทนของสำนักงานการค้าเวียดนามในสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า

“กระทรวง สำนักงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น สมาคมและสถานประกอบการต้องบริหารกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวดตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้สินค้าเกษตรและอาหารเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณภาพการส่งออก นี่เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเราปฏิบัติกิจกรรมส่งเสริมการค้า แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากสินค้าของเราไม่ได้ค้ำประกันข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณภาพก็จะเจาะตลาดได้ยาก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว และเมื่อเจาะตลาดได้แล้ว สถานประกอบการก็ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อค้ำประกันว่า ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสม่ำเสมอและตอบสนองข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณภาพของประเทศนำเข้า”

ผลักดันการส่งออกเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6 ในปีนี้ - ảnh 2นาง เลหั่ง ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสมาคมส่งออกและแปรรูปสัตว์น้ำเวียดนาม (VNA)

สำหรับสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่เกือบ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเกือบร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะเมื่อปีที่แล้ว หน่วยงานสัตว์น้ำของเวียดนามเติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยบรรลุเกือบ 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบรรลุเป้าหมายมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ หน่วยงานสัตว์น้ำของเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการเพิ่มความหลากหลายของตลาดส่งออก ผลักดันการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซ นาง เลหั่ง ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสมาคมส่งออกและแปรรูปสัตว์น้ำเวียดนามหรือ VASEP เผยว่า ข้อตกลงการค้าเสรีไม่เพียงแต่เปิดโอกาสในการส่งออกเท่านั้น หากยังช่วยให้เวียดนามเป็นฝ่ายรุกเกี่ยวกับวัตถุดิบสำหรับการผลิตอีกด้วย หน่วยงานสัตว์น้ำกำลังพยายามเพื่อมีส่วนร่วมต่อเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกของเวียดนามในปีนี้    

“เวียดนามมีข้อได้เปรียบสำคัญคือมีแหล่งวัตถุดิบ ในขณะที่เรากำลังขาดแคลนอุปทานภายในประเทศ โดยเฉพาะสัตว์น้ำ ซึ่งทำให้การส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างๆ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงปี 2022-2023”

ขณะนี้ ภาวะเงินเฟ้อในบางตลาดได้คลี่คลายลงและความต้องการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคสามารถฟื้นตัวได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออกของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้แสดงความเห็นว่า ด้วยการเป็นฝ่ายรุกและความพร้อมของสถานประกอบการ  สินค้าส่งออกของเวียดนามจะเจาะตลาดได้อย่างรวดเร็ว

“เราเห็นว่า ปัญหาความต้องการที่ลดลงในปัจจุบันมาจากปัจจัยด้านตลาดเป็นหลัก แต่ภายในประเทศกำลังการผลิตของสถานประกอบการยังดีมาก ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ  เช่น โรคระบาด หรือการชะงักของการจัดสรรวัตถุดิบ ซึ่งเป็นข้อสะดวกเพื่อช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามเตรียมพร้อมฟื้นฟูการผลิตและการส่งออกเมื่อตลาดฟื้นตัว”

ในสภาวการณ์ที่ประสบความยากลำบากมากมาย ความสนใจ การแลกเปลี่ยนและการประสานงานระหว่างสำนักงานการค้าเวียดนามกับกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆจะช่วยให้สถานประกอบการเกาะติดการเปลี่ยนแปลงและข้อมูลในตลาด ช่วยให้กิจกรรมการส่งออกสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำสินค้าของเวียดนามไปสู่ตลาดต่างๆ ทั่วโลก มีส่วนร่วมทำให้มูลค่าการส่งออกบรรลุตามเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 6  บรรลุประมาณ 3 แสน 9 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด