เวียดนามพยายามแก้ไขสถานการณ์การจับปลาอย่างผิดกฎหมาย

ในที่ประชุมสรุปผลการปฏิบัติโครงการ “สถานประกอบการด้านประมงให้คำมั่นต่อต้านการจับปลาตามข้อกำหนดไอยูยู” ที่มีขึ้น ณ นครโฮจิมินห์เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้บริหารกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้ยืนยันว่า ผลที่น่ายินดีคือชาวประมงเวียดนามมีความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับการห้ามจับปลาในเขตทะเลที่อยู่ในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน มีการจัดทำสมุดบันทึกการทําประมง ติดตั้งระบบติดตามเรือประมงและระบบจีพีเอส

ในจังหวัดเกียนยาง ซึ่งเป็นท้องถิ่นริมฝั่งทะเลที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากใบเหลืองของอียู นับตั้งแต่ต้นปีที่กฎหมายการทำประมงปี 2019 มติที่ 26 มติที่ 42 และเอกสารแนะนำทางนิตินัยต่างๆ มีผลบังคับใช้ ทางการจังหวัดฯได้ผลักดันการติดตั้งระบบติดตามเรือประมงและเชื่อมโยงกับศูนย์ควบคุมบนแผ่นดินใหญ่เพื่อเพิ่มการควบคุมการทำประมงอย่างเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งถึงปลายเดือนกันยายน ทั้งจังหวัดฯ มีเรือประมงกว่า 2,900 ลำที่ติดตั้งระบบติดตาม และชาวประมงมีความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ นาย เหงียนแทงเคียด กัปตันเรือประมงในจังหวัดเกียนยางแสดงความคิดเห็นว่า            “ชาวประมงจำเป็นต้องติดตั้งระบบติดตามเพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่จับปลาในเขตทะเลของประเทศอื่น เพราะอาจถูกจับติดคุก ต้องทำบันทึกการทำประมงเป็นประจำเพื่อระบุแหล่งที่มาของสัตว์น้ำและรายงานการจับสัตว์น้ำ”

ในด้านการบริหาร ทุกๆเดือน คณะกรรมการที่ดูแลท่าเรือของจังหวัดเกียนยางจะสรุปรายชื่อเรือประมงที่ส่งบันทึกการทำประมง สมุดบันทึกการซื้อปลา การขนส่งและรายงานการจับปลาให้แก่กรมสัตว์น้ำตามกฎระเบียบ นอกจากนี้ ก่อนที่จะเข้าเทียบท่าเรือ 1 ชั่วโมง เรือประมงทุกลำต้องแจ้งให้คณะกรรมการฯ ทราบเพื่อทำการตรวจสอบ นาย โด๋ซวนวิงห์ ผู้อำนวยการสะพานปลาจังหวัดเกียนยางยืนยันว่า            “เมื่อทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องตรวจสอบว่า เรือประมงลำนั้นอยู่ในรายชื่อเรือประมงที่ทำประมงอย่างผิดกฎหมายตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของทบวงสัตว์น้ำเวียดนามหรือไม่ ถ้าอยู่ในรายชื่อดังกล่าว ก็จะห้ามทำการขนถ่ายสัตว์น้ำที่จับได้และถูกลงโทษตามกฎหมาย”

ส่วนสถานประกอบการด้านประมงได้เป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติมาตรการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมเรียกร้องให้อียูยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนาม โดยจนถึงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีสถานประกอบการด้านประมงกว่า 60 แห่งได้ให้คำมั่นต่อต้านการจับปลาตามข้อกำหนดไอยูยูโดยจะซื้อสัตว์น้ำจากเรือประมงที่มีใบอนุญาต มีบันทึกการทำประมงและใบรับรองจากท่าเรือ

อาจกล่าวได้ว่า ความพยายามของเวียดนามให้อียูยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำได้ประสบความคืบหน้าแต่ก็ยังคงมีหลายเรื่องที่ต้องทำต่อไป เพราะว่า ถ้าหากมองในภาพรวม ยังคงมีชาวประมงบางส่วนที่ยังไม่ตระหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากเข้าไม่ถึงการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ แต่แม้จะยากแค่ไหน เวียดนามก็จะพยายามแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ นาย ฝุ่งดึ๊กเตี๊ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทย้ำว่า            “แม้ยังมีความยากลำบากต่างๆ แต่ต้องยืนยันว่า เราได้ปรับปรุงระบบกฎหมาย กลไกและนโยบายให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งการบริหารเรือประมงมีความเป็นระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะมีความคืบหน้าในการตรวจสอบแหล่งที่มาของสัตว์น้ำ”

จากความตั้งใจและการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมือง ทางการบริหารท้องถิ่น สถานประกอบการและชาวประมงทุกคน เวียดนามเชื่อมั่นว่า จะสามารถทำให้อียูยกเลิกใบเหลืองได้โดยเร็ว.