(VOVworld) –  การเกษตรถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยเฉพาะ ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกและเวียดนามยังคงประสบความยากลำบากจากวิกฤติ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างพืชและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์เกษตรที่ส่งออก โดยเฉพาะ ข้าวเป็นปัญหาที่เวียดนามกำลังให้ความสนใจ

ทุ่งนาขนาดใหญ่ (Photo : VOV )

ฤดูข้าวนาปรังปี๒๐๑๓–ปี๒๐๑๔ก็เป็นอีกฤดูที่เกษตรกรในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งเป็นอู่ข้าวที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามสามารถเก็บเกี่ยวได้ผลดีโดยผลผลิตข้าวในหลายท้องถิ่นเฉลี่ยเกือบ๗ตันต่อเฮกต้าร์และมีท้องถิ่นบางแห่งผลผลิตอยู่ที่๑๐ตันต่อเฮกตาร์ แต่ควบคู่กับความปลื้มปิติยินดีที่การเก็บเกี่ยวได้ผลดีก็คือความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาข้าวที่ตกต่ำ เมื่อกลางเดือนมีนาคม รัฐบาลได้ปฏิบัติโครงการรับจำนำข้าว๑ล้านตันเพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนของเกษตรกรและพยุงราคาข้าว แต่การรับจำนำข้าวจะช่วยให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำลดอีกเท่านั้นหากไม่สามารถทำให้ราคาข้าวเพิ่มขึ้นในขณะที่ตลาดส่งออกมีการแข่งขันอย่างดุเดือดทำให้ราคาข้าวของเวียดนามต่ำกว่าประเทศส่งออกข้าวอื่นๆ  ขณะนี้ จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเก็บเกี่ยวข้าวได้๗แสนตัน และคาดว่า จนถึงเดือนเมษายนจะเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวข้าวกว่า๑ล้าน๖แสนตัน ท่านเหงวียนฟองกวาง รองหัวหน้าคณะกรรมการประจำคณะกรรมการชี้นำเขตตะวันตกภาคใต้เผยว่า“การผลิตที่มากและเก็บเกี่ยวได้ผลส่งผลให้ราคาลดลง เกษตรกรจึงเป็นผู้ที่ประสบความลำบากที่สุด  นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต้องศึกษาวิจัย โดยเฉพาะ ต้องมีมาตรการรับจำนำข้าวในเชิงรุกเพื่อพยุงราคาตั้งแต่ต้นถึงปลายฤดูซึ่งถือเป็นมาตรการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพของรัฐ”

นอกจากการเพิ่มมูลค่า แสวงหาตลาดรองรับข้าวและค้ำประกันผลกำไรให้แก่เกษตรกรแล้ว เวียดนามยังมียุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในเชิงรุก โครงการปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรตามแนวทางผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างพืชและสร้างสรรค์ทุ่งนาขนาดใหญ่ ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผลิตเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ส่งออกถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่ได้รับการปฏิบัติในระยะยาวเพื่อให้การเกษตรของเวียดนามพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ จากสถานการณ์ที่เป็นจริงในท้องถิ่นหลายแห่งแสดงให้เห็นว่า การพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นรูปแบบการผลิตรวมศูนย์โดยมีนักธุรกิจเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งกำลังยืนยันถึงผลสำเร็จทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น ราคาต้นทุนลดลง ผลผลิตและคุณภาพเพิ่มขึ้น สามารถมุ่งสู่การสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ข้าวแต่ยังคงสามารถค้ำประกันผลกำไร โดยเฉพาะ คุณภาพชีวิตของเกษตรกรได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเข้าร่วมรูปแบบการผลิตนี้ นายเหงวียนวันตั๊ก ที่ตำบลหวิงบิ่ง อำเภอโจว์แถ่ง จังหวัดอานยางเผยว่า“ผมและเกษตรกรคนอื่นๆให้การสนับสนุนรูปแบบการผลิตของทุ่งนาขนาดใหญ่ เพราะ มูลค่าข้าวเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรได้รับประโยชน์มากมายจากการสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าของข้าวที่ส่งออก”

การสร้างสรรค์รูปแบบความร่วมมือในการผลิตเกษตรระหว่างรัฐ นักวิทยาศาสตร์ นักธุรกิจและเกษตรกรนับวันยิ่งมีความแน่นแฟ้นมากขึ้นซึ่งผ่านสัญญาฉบับต่างๆ สถานประกอบการได้จัดสรรพันธุ์พืช  ปุ๋ย ยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการผลิตข้าวและเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว สถานประกอบการก็ให้คำมั่นรับซื้อข้าวของเกษตรกรในราคาที่เหมาะสม  เมื่อเทียบกับแปลงข้าวที่ไม่อยู่ในทุ่งนาขนาดใหญ่ การปฏิบัติในรูปแบบนี้ให้ผลกำไรสูงกว่า นายเหงวียนวันเกื่อง เกษตรกรที่ผลิตข้าวในทุ่งนาขนาดใหญ่หวิงบิ่งโดยบริษัทปกป้องพืชอานยางลงทุนเผยว่า“เมื่อก่อนนี้  การเก็บเกี่ยวได้ผลดีแต่ราคาตกต่ำ แต่ปัจจุบัน จากการร่วมมือกับบริษัท  ผู้ผลิตข้าวมีสิทธิ์ขายข้าวเมื่อราคาเหมาะสม ถ้าราคาตกต่ำก็ไม่ขาย นำไปอบแล้วเก็บไว้ในโกดัง รอราคาสูงขึ้นค่อยขาย”

เวียดนามได้กลายเป็นประเทศชั้นนำของโลกในการส่งออกข้าวและสินค้าเกษตรอีกบางชนิด หน่วยงานเกษตรก็คำนึงถึงปัจจัยต่างๆที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัว เช่น ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดิน แหล่งแรงงาน รวมทั้งการปรับปรุงโครงสร้างพืช และสัตว์และการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การเกษตรยืนยันถึงประสิทธิภาพในสัดส่วนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ./.