เมืองท่าไฮฟองเป็นประตูสู่ภาคเหนือและมีความเชื่อมโยงกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคและโลก มีศัยภาพสูงในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมด้วยระบบท่าเรือที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดในภาคเหนือของเวียดนาม ในหลายปีที่ผ่านมา เมืองท่าไฮฟองให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆถึงการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ทันสมัยที่สุดของประเทศ จากการมีศักยภาพและความได้เปรียบในการให้บริการด้านท่าเรือ การให้บริการโลจิสติกส์ก็นับวันพัฒนาเช่นกันผ่านการก่อสร้าง ยกระดับและเปิดให้บริการกิจการต่างๆอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะการเปิดตัวของเขตท่าเรือนานาชาติ แหลกเหวียนที่สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่และเข้าถึงเส้นทางทะเลระหว่างประเทศ นาย บุ่ยวันกวิ่ รองผู้อำนวยการบริษัทเตินก๋างไฮฟองหรือท่าเรือใหม่ไฮฟอง ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์โลจิสติกส์ขนาดใหญ่ของเมืองท่าไฮฟองให้ข้อสังเกตว่า

“การพัฒนาท่าเรืองส่งผลดีเป็นอย่างมาก ซึ่งสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาโลจิสติกส์ นับตั้งแต่ปี 2018 ที่ท่าเรือแหลกเหวียน ท่าเรือหมายเลข 1และ 2 ของบริษัทเตินก๋างไฮฟองเปิดให้บริการได้ช่วยให้เมืองท่าไฮฟองสามารถรับเรือขนาดใหญ่ ปัจจุบันนี้ เราสามารถรองรับเรือที่มีน้ำหนักกว่า 130 ตัน ซึ่งมีความจุมากและมีเส้นทางเดินเรือทะเลที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคที่อยู่ไกล เช่น ยุโรปและสหรัฐ”

ปัจจุบันนี้ ในไฮฟอง มีสถานประกอบการกว่า 500 แห่งกำลังประกอบธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกบวกกับการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ คาดว่า สินค้าที่ขนถ่ายผ่านท่าเรือไฮฟองจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมให้นับวันทันสมัยและพร้อมเพรียงมากขึ้นได้ช่วยให้บริการด้านโลจิสติกส์ในเมืองท่าไฮฟองมีโอกาสพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ นาย เจิ่นเตี๊ยนหยุง ประธานคณะกรรมการผู้บริหารและผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนและการลงทุนซาวอ๊าให้ข้อสังเกตว่า“คาดว่า ในเวลาข้างหน้า เมืองท่าไฮฟองจะก่อสร้างสะพานนับร้อยแห่งเพื่อเชื่อมกับท้องถิ่นต่างๆภายในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งมณฑลต่างๆทางทิศตะวันตกของประเทศจีน ซึ่งจะช่วยให้เมืองท่าไฮฟองธำรงและพัฒนาการให้บริการโลจิสติกส์ ยืนยันบทบาทสำคัญของการเป็นศูนย์โลจิสติกส์ระดับโลก”

เหงียนดึ๊กเถาะ รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครไฮฟอง (haiphong.gov.vn)

ตามแนวทางกำหนดการพัฒนาโลจิสติกส์ของนครไฮฟองถึงปี 2025 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2030 ทางนครฯจะพัฒนารูปแบบการให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างหลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่บริการโลจิสติกส์ต่อสินค้าในการขนถ่ายผ่านท่าเรืองต่างๆ ซึ่งในระยะปี 2020-2030 ทางนครฯตั้งเป้าไว้ว่า จะพัฒนารูปแบบการให้บริการโลจิสติกส์อีก 17 รูปแบบ พร้อมทั้งลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ที่ทันสมัยอย่างพร้อมเพรียง ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ ยกระดับคุณภาพของแหล่งบุคลากรในด้านนี้ ตรวจสอบและจัดทำกลไกและนโยบายเฉพาะเพื่อพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ผ่านนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ เช่น การเคลียร์พื้นที่ การลดหรือยกเลิกค่าเช่าที่ดินสำหรับโครงการที่ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์โลจิสติกส์ ตลอดจนวิจัยพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ในนครฯ ควบคู่กับการวางผังพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับลักษณะและสถานการณ์เศรษฐกิจของไฮฟอง เชื่อมโยงกับศูนย์โลจิสติกส์อื่นๆในภูมิภาคเพื่อผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น นาย เหงียนดึ๊กเถาะ รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครไฮฟองยืนยันว่า “ตามมติที่ 45 นครไฮฟองได้วางผังพัฒนาโลจิสติกส์และประกาศโครงการปฏิบัติโดยตั้งเป้าไว้ว่า ถึงปี 2025 อัตราการขยายตัวด้านโลจิสติกส์จะบรรลุร้อยละ 30-35 มีส่วนร่วมต่อจีดีพีร้อยละ 20-25 และถึงปี 2030 จะมีส่วนร่วมต่อจีดีพีถึงร้อยละ 30 ในเวลาที่จะถึง โลจิสติกส์ของนครไฮฟองจะมีก้าวพัฒนาตามแนวทางที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน”