เวียดนามมุ่งสู่เป้าหมายการขยายตัวด้านการส่งออกที่ร้อยละ 6 ในปี 2023

(VOVWORLD) - ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกในปี 2022 ของเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 7 แสน 3 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เวียดนามติดกลุ่มเศรษฐกิจชั้นนำในด้านการค้าระหว่างประเทศ และเป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านการส่งออกที่ร้อยละ 6 ในปี 2023
เวียดนามมุ่งสู่เป้าหมายการขยายตัวด้านการส่งออกที่ร้อยละ 6 ในปี 2023 - ảnh 1นาง ฟาน ถิ แทง ซวน เลขาธิการใหญ่สมาคมเครื่องหนัง รองเท้า และกระเป๋าถือเวียดนาม (daibieunhandan.vn)

สำหรับยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออก 7 แสน 3 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นถือว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2021 โดยมูลค่าการส่งออกบรรลุประมาณ 3 แสน 7 หมื่น 1 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5บรรลุเป้าหมายที่สภาแห่งชาติและรัฐบาลได้กำหนดไว้ ปริมาณสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8  มีสินค้า 39 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสินค้า 9 รายการที่มียอดการส่งออกสูงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมแปรรูปยังคงเป็นสินค้าหลักของการส่งออก โดยคิดเป็นกว่าร้อยละ 86 ของยอดมูลค่าการส่งออก อุตสาหกรรมหลัก เช่น อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนัง รองเท้าและเฟอร์นิเจอร์เติบโตในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของหน่วยงานอุตสาหกรรม สร้างงานทำจำนวนมาก ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเวียดนาม นาง ฟาน ถิ แทง ซวน เลขาธิการใหญ่สมาคมเครื่องหนัง รองเท้า และกระเป๋าถือเวียดนาม กล่าวว่า

“ในปี 2022 มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าบรรลุประมาณ 2 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเติบโตกว่าร้อยละ 30 นี่เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่สูงกว่าแผนการที่อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าวางไว้ และเป็นความพยายามอันยิ่งใหญ่ของสถานประกอบการเวียดนาม”

ในปี 2022 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรบรรลุกว่า 5  หมื่น 3 พัน  2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3  เมื่อเทียบกับปี 2021 ภาคการเกษตรยังคงมีสินค้า 11 รายการที่มียอดมูลค่าการส่งออกบรรลุกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลิตภัณฑ์และกลุ่มผลิตภัณฑ์ 7 รายการที่มีมูลค่าการซื้อขายกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ กุ้ง กาแฟ ข้าว ยางพารา ผักและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลงานนี้มาจากการประสานงานของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆในการขยายตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมและแก้ไขอุปสรรคด้านการค้า นาย เจิ่นแทงนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท เผยว่า

“จนถึงขณะนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมการเกษตรอยู่ที่ประมาณกว่าร้อยละ 3 มูลค่าการส่งออกบรรลุเกือบ 5 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น เกินดุลที่ประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และได้รับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพจากทูตการค้าของประเทศต่าง ๆ ในการแก้ไขอุปสรรคในตลาด”

มูลค่าการนำเข้าและส่งออกยังคงเติบโตในระดับสูง และได้เปรียบดุลการค้าซึ่งเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจในปี 2022 ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อน นาย เจิ่นก๊วกแค้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมกล่าวว่า พร้อมกับการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศ การค้าภายในประเทศยังคงมีการเติบโตในระดับสูง ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีบรรลุกว่าร้อยละ 8  ในปี 2022 ช่วยให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตของการส่งออก

“เวียดนามได้เปรียบดุลการค้าเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยเกินดุลเกือบ 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดภายในประเทศฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง มีการเติบโตอยู่ในระดับสูง คาดว่า ยอดการขายปลีกสินค้าและรายได้การบริการจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 สูงกว่า 2.7 เท่าเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ สามารถตอบสนองสินค้าพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับประชาชน มีส่วนร่วมควบคุมอัตราเงินเฟ้อในสภาวการณ์ที่ความต้องการอุปโภคบริโภคฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งภายหลังการแพร่ระบาดและตลาดโลกมีความผันผวนเป็นอย่างมาก หลายประเทศต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง”

เวียดนามมุ่งสู่เป้าหมายการขยายตัวด้านการส่งออกที่ร้อยละ 6 ในปี 2023 - ảnh 2นาย เหงียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม (nhandan.vn/)

ในปี 2023 หน่วยงานพาณิชย์และอุตสาหกรรมตั้งเป้าไว้ว่า ยอดมูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2022 และเวียดนามจะยังคงได้เปรียบดุลการค้าในการส่งออก นาย เหงียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมแสดงความเห็นว่า คาดว่า ในปี 2023  สถานการณ์โลกยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อน การส่งออกของเวียดนามจะเผชิญกับความยากลำบากมากมายเนื่องจากตลาดที่แคบลง คำสั่งซื้อและการแข่งขันในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ดังนั้น สถานประกอบการเวียดนามต้องปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA ที่ได้มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมเพรียงเพื่อขยายและเพิ่มความหลากหลายของตลาด ห่วงโซ่อุปทานและสินค้านำเข้าและส่งออก

“ต้องส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากตลาดใกล้เคียงและมีศักยภาพ มุ่งสู่การส่งออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการควบคู่กับการสร้างเครื่องหมายการค้าและผลักดันการส่งออกที่ยั่งยืน เป็นฝ่ายรุกในการทบทวนและให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจาและลงนามกลไกความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีใหม่ ๆ อีกทั้งส่งเสริมบทบาทของระบบสำนักงานตัวแทนการค้าเวียดนามในต่างประเทศต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมสนับสนุนท้องถิ่นต่างๆและสมาคมสถานประกอบการเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่ลงนามอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อขยายและเพิ่มความหลากหลายของตลาดห่วงโซ่อุปทานและผลิตภัณฑ์ส่งออก เน้นสนับสนุนท้องถิ่นและสถานประกอบการในการเปลี่ยนแปลงการผลิตและการส่งออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการอย่างเข้มแข็ง ควบคู่กับการสร้างเครื่องหมายการค้าและส่งเสริมการส่งออกที่ยั่งยืน”

เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโต  นอกจากต้องเน้นแก้ไขอุปสรรคและสนับสนุนสถานประกอบการเพื่อฟื้นฟูการผลิตและประกอบธุรกิจแล้ว หน่วยงานพาณิชย์และอุตสาหกรรมยังต้องสนับสนุนสถานประกอบการในการแสวงหาตลาดนำเข้าและส่งออกวัตถุดิบ อะไหล่ และส่วนประกอบสำหรับการผลิตและเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอย่างลึกซึ้งอีกด้วย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด