โอกาสเพื่อยืนยันเครื่องหมายการค้าของข้าวเวียดนาม

(VOVWORLD) - ในหลายเดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกข้าวของเวียดนามได้บรรลุกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสภาวการณ์ที่แหล่งจัดสรรข้าวของโลกลดลงเนื่องจากบางประเทศยังคงจำกัดการส่งออกข้าวและสภาพอากาศที่แปรปรวนได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณการเก็บเกี่ยว ดังนั้น จึงคาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวของเวียดนามจะประสบผลที่น่ายินดีและสามารถเจาะตลาดใหม่ๆ
โอกาสเพื่อยืนยันเครื่องหมายการค้าของข้าวเวียดนาม - ảnh 1นาย เจิ่นแทงนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท (VNA)

ตามข้อมูลสถิติของทบวงศุลกากรเวียดนาม เมื่อปี 2023 มูลค่าการส่งออกข้าวได้บรรลุกว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและมูลค่า ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมข้าวเวียดนาม ส่วนในไตรมาสแรกของปีนี้ การส่งออกข้าวของเวียดนามได้บรรลุผลที่น่าประทับใจ คือเกือบ 2.2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายในราคาเฉลี่ย 653 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นในด้านปริมาณกว่าร้อยละ 17 และมูลค่ากว่าร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและยังคงครองส่วนแบ่งตลาดหลักๆ ต่อไป

สัญญาณที่น่ายินดีเกี่ยวกับการส่งออกข้าวในช่วงต้นปีนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่สถานประกอบการส่งออกข้าวเวียดนามสามารถใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสามารถเข้าถึงตลาดที่มีมาตรฐานเข้มงวด เช่น ยุโรป แต่นาย เลแทงตุ่ง รองอธิบดีกรมการเพาะปลูก สังกัดกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า มีอีกปัจจัยที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวเวียดนามคือพันธุ์ข้าวกว่าร้อยละ 80 เป็นพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพและให้ผลผลิตสูง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการในการส่งออก เวียดนามไม่เพียงแต่ให้ความสนใจถึงการส่งออกข้าวเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญต่อการค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหารของประเทศอีกด้วย ในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเขตปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม กำลังเน้นทำการผลิตข้าวแบบยั่งยืน ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยแปลงของสภาพภูมิอากาศและมาตรฐานที่เข้มงวดต่างๆ ของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

ส่วนนาย เจิ่นเจืองเติ๊นต่าย ผู้อำนวยการบริษัท ข้าวเวียดนาม จำกัด เผยว่า ปัจจุบัน ทางบริษัทกำลังส่งออกข้าวไปยัง 13 ประเทศยุโรปในราคาสูงกว่า 980 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่เพื่อสามารถเข้าถึงตลาดยุโรปและขายได้ในราคาสูง สถานประกอบการเวียดนามควรเน้นลงทุน 5 ด้าน คือ เครื่องหมายการค้า เทคโนโลยี แหล่งบุคลากร การเชื่อมโยงและบทบาทของสมาพันธ์สินค้าต่างๆ ในห่วงโซ่มูลค่าของข้าวเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพของแหล่งวัตถุดิบ โดยสมาชิกในเครือข่ายต้องแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันเพื่อสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าของข้าวเวียดนาม

“เพื่อสร้างห่วงโซ่การเชื่อมโยง จำเป็นต้องมีการเข้าร่วมของทางการปกครองท้องถิ่นและความพยายามขยายพื้นที่ปลูกวัตถุดิบของสถานประกอบการ ซึ่งจะช่วยพัฒนาแหล่งวัตถุดิบ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เกษตรกรในท้องถิ่นต้องตระหนักถึงความยากลำบากของท้องถิ่นและสถานประกอบการเพื่อให้การสนับสนุน โดยเฉพาะในขณะที่ราคาข้าวผันผวน”

ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท การส่งออกข้าวส่วนใหญ่มาจากเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยในปีนี้ คาดว่า จะบรรลุ 7.3 ล้านตัน คิดเป็นกว่าร้อยละ 90 ในจำนวนข้าวส่งออกของเวียดนาม นาย เจิ่นแทงนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเผยว่า

“คาดว่า ในปีนี้ เราสามารถส่งออกข้าวได้ 7.3 ล้านตัน โดยใน 6 เดือนแรกจะส่งออกได้ประมาณ 4.3 ล้านตัน ซึ่งตอบสนองความต้องการของการส่งออก ทางกระทรวงฯ ขอยืนยันว่า การส่งออกข้าวยังบรรลุแผนที่วางไว้”

กรมนำเข้าและส่งออกสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ประเมินว่า จากสัญญาณที่น่ายินดีดังกล่าว สามารถยืนยันได้ว่า สถานประกอบการได้ฟันฝ่าอุปสรรคและใช้โอกาสได้อย่างเต็มที่เพื่อการส่งออกและสร้างพื้นฐานในการเจาะตลาดที่มีศักยภาพในสภาวการณ์ที่หลายประเทศยังคงจำกัดการส่งออกข้าว

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อใช้โอกาสจากตลาด ผลักดันการผลิตและส่งออกข้าวในสภาวการณ์ปัจจุบัน หน่วยงานการเกษตรเวียดนามจะปฏิบัติมาตรการต่างๆ ต่อไปเพื่อผลักดันการเชื่อมโยง สร้างสรรค์เขตปลูกวัตถุดิบและทำการผลิตอย่างโปร่งใสเพื่อบรรลุมาตรฐานที่เข้มงวดต่างๆ ช่วยยกระดับมูลค่าของข้าวเวียดนามในตลาดโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด