กาวบั่ง- ถิ่นปฏิวัติเวียดนาม
Vĩnh Phong + Tuấn Trọng -  
(VOVWORLD) -กาวบั่ง (Cao Bằng) เป็นดินแดนแห่งเกียรติประวัติแห่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์การปฏิวัติที่รุ่งโรจน์ด้วยจำนวนโบราณสถานต่างๆกว่า 214 แห่ง ซึ่งมีโบราณสถาน 3 แห่ง ถูกจัดอันดับรับรองเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์พิเศษแห่งชาติ ได้แก่ โบราณสถานพิเศษแห่งชาติ ป๊ากบ๊อ (Pac Bo) โบราณสถานพิเศษแห่งชาติป่าธรรมชาติ เจิ่นฮึงด๋าว (Tran Hung Dao) และโบราณสถานพิเศษแห่งชาติแห่งชัยชนะในยุทธนาการณ์ต่อสู้ในชายแดนปี 1950
แหล่งโบราณสถานพิเศษแห่งชาติ ป๊ากบ๊อ |
ในการเดินทางเยี่ยมชมถิ่นปฏิวัติกาวบั่ง แหล่งโบราณสถานพิเศษแห่งชาติ ป๊ากบ๊อ ตั้งอยู่ในชุมชน เจืองฮา อำเภอ ฮากว๋าง จังหวัด กาวบั่ง จะเป็นจุดหมายแรกที่ของเยือน โดยอยู่ห่างจากนคร กาวบั่ง ไปทางทิศเหนือ52 กม. ในภาษาของเผ่าไตและหนุ่งในท้องถิ่นนี้ คำว่า ป๊ากบ๊อ หมายถึง "ต้นน้ำ" ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประธานโฮจิมินห์ได้เดินทางมาถึงในช่วงที่ท่านได้กลับบ้านเกิดครั้งแรกปี1942 ภายหลังกว่า 30 ปี ที่เดินทางผ่านหลายประเทศทั่วโลกเพื่อหาหนทางกู้ชาติ เมื่อมาที่นี่ นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่มีโอกาสได้รับรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาสำคัญในชีวิตการเคลื่อนไหวของประธานโฮจิมินห์และการปฏิวัติเวียดนามเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสได้ชื่นชมภาพธรรมชาติ ด้วยลำธารเลนินที่ไหลมาจากต้นน้ำ ป๊ากบ๊อ น้ำใสเย็นที่ไหลคดเคี้ยวเหมือนสายไหมล้อมรอบเชิงเขา คาร์ลมาร์กซ์ ที่ตั้งตระหง่านกลางป่าเขียว ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าลำธาร อย่าง (Giang )หรือลำธาร หย่องฉึ่ง ที่นี่มีถ้ำ ก๊กบ๊อ (Coc Bo) ซึ่งเป็นที่พำนักชั่วคราวของประธานโฮจิมินห์ในช่วงนั้น มีแท่งไม้ที่ใช้เป็นเตียงนอน มีกองเตาฟืนเพื่อสร้างความอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเย็นยามค่ำคืนในป่าลึกหรือโต๊ะหินที่ท่านมักนั่งทำงาน โดยเขตโบราณสถานปั๊กบ๊อได้รับการรับรองจากรัฐ เป็นโบราณสถานพิเศษแห่งชาติเมื่อปี 2012 คุณ Bế Thị Mai ผู้ดูแลวิหารประธานโฮจิมินห์ กล่าวว่า “ทหารทุพพลภาพหลายคนที่มาเยี่ยมชมโบราณสถานแห่งนี้ต่างก็พยายามไปเยี่ยมชมสถานที่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับประธานโฮจิมินห์เมื่อตอนที่ท่านพำนักทำการเคลื่อนไหวในอดีต เมื่อมาถึงทางเข้าถ้ำที่พักของท่านทุกคนต่างก็ร้องไห้เพราะสงสารลุงโฮ พวกเขาบอกว่าความเจ็บปวดทางร่างกายที่พวกเขาต้องทนรับจากการถูกทารุณตอนเป็นนักโทษการเมืองในอดีตนั้นก็ไม่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับความยากลำบากของประธานโฮจิมินห์ตอนที่ท่านได้อยู่ที่นี่”
จุดหมายต่อไปในการเดินเที่ยวคือป่าธรรมชาติ เจิ่นฮึงด๋าว ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Slam Cao ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและการเคลื่อนไหวปฏิวัติของนายพล หวอเงวียนย้าป (Vo Nguyen Giap) โดย ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อ 77 ปีที่แล้วคือเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ปี1944 นายพล หวอเงวียนย้าป ได้ประกาศจัดตั้งกองกำลังเวียดนามประชาสัมพันธ์เพื่อการปลดปล่อย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของกองทัพประชาชนเวียดนามในปัจจุบัน โดยผู้ชมจะมีโอกาสได้เห็นสถานที่ทำงานและฝึกอบรมของกองกำลังฯนี้พร้อมจุดที่จารึกชัยชนะสองครั้งแรกหลังจากได้รับการก่อตั้งกองกำลังเวียดนามประชาสัมพันธ์เพื่อการปลดปล่อยคือ สถานที่เปิดตัวกองกำลังฯในป่าบนยอดภูเขา Slam Cao ถ้ำ เขา ซึ่งเป็นจุดรับส่งการสื่อสารและพลาธิการ ป้อมพายคัดและป้อม หน่าเหงิ่น สนามรบแห่งแรกที่กองกำลังเวียดนามประชาสัมพันธ์เพื่อการปลดปล่อยได้รบชนะศัตรู เป็นต้น นายเลบิ่ง นักท่องเที่ยวจากฮานอยเผยว่า“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเที่ยวกาวบั่งและได้เยี่ยมชมโบราณสถานที่มีความหมายเหล่านี้ ซึ่งเมื่อก่อนรู้แต่ผ่านรายการทีวีและหนังสือพิมพ์เท่านั้น ผู้รู้สึกตื้นตันใจมากและยิ่งมีความเคารพศรัทธาต่อความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยวและการเสียสละของบรรพบุรุษเพื่อเอกราชของชาติในทุกวันนี้ โดยเฉพาะชีวิตการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์และพลเอกหวอเงวียนย้าป”
ในการเดินทางสู่ถิ่นรากเหง้าของการปฏิวัติ ต้องไม่พลาดการเยือนเขตอนุสรณ์สถานพิเศษแห่งชาติ ซึ่งเป็นสนามรบที่สร้างชัยชนะการต่อสู้ในเขตชายแดนปี 1950 ในเขตอำเภอแถกอาน ซึ่งมีความหมายสำคัญที่ผูกพันธ์กับช่วงเวลาหนึ่งของการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์และนายพล หวอเงวียนย้าป และชัยชนะของการสู้รบในเขตชายแดนในปี1950 นี่เป็นสถานที่เดียวในประวัติศาสตร์แห่งสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและจักรวรรดินิยมสหรัฐอเมริกาที่ประธานโฮจิมินห์ได้มาชี้นำการต่อสู้โดยตรงในภาคสนาม เมื่อมาที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้พิชิตยอดเขา บ๊าวดง จุดสังเกตการณ์และเป็นที่บัญชาการการต่อสู้ในเขตชายแดน โดย ณ จุดนี้ได้มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์ประธานโฮจิมินห์ที่ชี้นำการสู้รบดงเค
ทั้งนี้แหล่งโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่มีความหมายต่างๆในกาวบั่งถือเป็นสถานที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อภารกิจการปฏิวัติของเวียดนามและเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อให้ผู้คนมุ่งมั่นเดินทางสู่รากเหง้า เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์และเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในเกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติที่รุ่งโรจน์ของประชาชาติแก่คนรุ่นต่อๆไป.
Vĩnh Phong + Tuấn Trọng