ทำเนียบท้งเญิ้ต-โบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพิเศษ
Lan Anh-VOV5 -  
( VOVworld )-ช่วงนี้ จำนวนนักท่องเที่ยมที่มาเที่ยวชมทำเนียบท้งเญิ้ตหรือเอกภาพเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว พวกเขามาที่นี่เพื่อเยี่ยมชม ศึกษาประวัติศาสตร์และกลับมาสถานที่ที่เป็นพยานแห่งความล่มสลายของรัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนามในนาทีสุดท้าย ทุกวันนี้ทำเนียบท้งเญิ้ตได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกประวัติศาสตร์พิเศษระดับชาติเนื่องจากมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม
( VOVworld )-
ช่วงนี้ จำนวนนักท่องเที่ยมที่มาเที่ยวชมทำเนียบท้งเญิ้ตหรือเอกภาพเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว พวกเขามาที่นี่เพื่อเยี่ยมชม ศึกษาประวัติศาสตร์และกลับมาสถานที่ที่เป็นพยานแห่งความล่มสลายของรัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนามในนาทีสุดท้าย ทุกวันนี้ทำเนียบท้งเญิ้ตได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกประวัติศาสตร์พิเศษระดับชาติเนื่องจากมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม
ทำเนียบท้งเญิ้ต
ทำเนียบท้งเญิ้ตตั้งอยู่ในใจกลางของนครโฮจิมินห์ที่รายรอบด้วยสวนขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีสวนหญ้าเขียวขจีที่มีน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลาง อาคาร ถูกออกแบบและก่อสร้างด้วยฝีมือของคนเวียดนาม ปัจจุบัน ทำเนียบท้งเญิ้ตเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวนครโฮจิมินห์ ปีค.ศ.๑๙๖๒ ประธานาธิบดีโง ดิ่งห์ เหยียมของทางการไซ่ง่อนได้สั่งให้ก่อสร้างทำเนียบดกเหลิบหรืออิสรภาพซึ่งปัจจุบันคือทำเนียบท้งเญิ้ตในบริเวณที่เคยเป็นทำเนียบของผู้ว่าการชาวฝรั่งเศสที่เรียกว่า ทำเนียบโนโรดม ( Norodom Palace ) โดยการออกแบบของสถาปนิกโงเวียดถู่ ซึ่งเป็นชาวเวียดนามคนแรกและคนเดียวที่ได้รับรางวัลปรีซ์ เดอโรม สาขาสถาปัตยกรรม นายเหงวียนเวียดถูออกแบบสถาปัตยกรรมอาคารอิสรภาพให้มีความกลมกลืนระหว่างศิลปะสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับสถาปัตยกรรมตะวันออก อาคารแห่งประวัติศาสตร์หลังใหญ่นี้ถูกก่อสร้างในพื้นที่ ๑๒ เฮกต้าร์ มี ๓ ชั้น ดาดฟ้าเป็นที่จอดเฮลิคอปเตอร์และยังมีชั้นใต้ดิน ด้วยและถูกออบแบบตัวอักษรก๊าตในภาษาจีนซึ่งหมายความว่า เป็นมงคลและนำโชคลาภมาให้
เวลา ๑๑.๓๐.น วันที่ ๓๐ เมษายนค.ศ.๑๙๗๕ ธงของแนวร่วมประชาชาติปลดปล่อยภาคใต้เวียดนามได้โบกสะบัดบนดาดฟ้าทำเนียบอิสรภาพ นายเงวียนหิวโจว์ อดีตเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุปลดปล่อยเล่าว่า “ ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินข่าวกองกำลังรักษาความมั่นคงของเราสามารถปักธงบนดาดฟ้า พวกเราแต่ละคนจดจำวินาทีแห่งประวัติศาสตร์ที่ธงของแนวร่วมโบกสบัดบนดาดฟ้าเพราะมันต้องแลกด้วยความเสียสละเลือดเนื้อ หากไม่สามารถปกป้องได้เราก็จะมีความผิด ”
ทุกวันนี้ทำเนียบดกเหลิบหรืออิสรภาพได้รับการรักษาให้อยู่ในสภาพเดิม โดยทุกสิ่งทุกอย่างถูกทิ้งไว้เหมือนสภาพเดิมในวันที่ ๓๐ เมษายนค.ศ.๑๙๗๕พร้อมกับรถถัง ๘๔๓ และ ๓๙๐ของกองทัพประชาชนเวียดนามที่พุ่งชนประตูทางเข้าหลักของทำเนียบฯ ศิลปินประชาชนแทงฮวาหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ตนร่วมกับกองทัพปลดปล่อยเดินทัพเข้าทำเนียบอิสรภาพว่า “ พวกเราร้องเพลงด้วยกัน พวกเรายืนอยู่ในทำเนียบและร้องเพลงแล้วเพลงเล่าและกอดกันแสดงความสุขอย่างสุดซึ้งเพราะนับแต่นั้นมาไม่มีสงครามอีกแล้ว พวกเราได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ”
เดือนพฤศจิกายนค.ศ.๑๙๗๕ ณ ทำเนียบอิสรภาพหรือดกเหลิบได้มีการประชุมเจรจาทางการเมืองเพื่อรวมภาคเหนือกับภาคใต้เป็นหนึ่งเดียว ต่อจากนั้น ทำเนียบดกเหลิบถูกเปลี่ยนชื่อเป็น หอประชุมท้งเญิ้ตหรือหอประชุมรวมชาติ และปีค.ศ.๑๙๗๖ ทำเนียบท้งเญิ้ตได้ขึ้นทะเบียนป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพิเศษระดับชาติและกลายเป็นจุดนัดพบที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยว คุณเหงวียนถิ่ทูเหี่ยนเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์เปิดเผยว่า แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้าชมหลายพันคน คุณเหี่ยนกล่าวว่า “ ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจต่อโบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติแห่งนี้ ทำเนียบดกเหลิบหรืออิสรภาพเป็นพยานหลักฐานแห่งหลักหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติเวียดนาม ทุกวันนี้ ทำเนียบดกเหลิบหรืออิสรภาพได้กลายเป็นโบราณสถานประวัติศาสตร์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งจิตใจสามัคคีชนทั้งชาติ สิ่งของวัตถุและภาพที่จัดแสดง ณ ที่นี่ทำให้ดิฉันเข้าใจสงครามที่โชกโชนของประเทศเมื่อ ๔๐ ปีก่อน ”
เชิญท่านมาเที่ยวชมทำเนียบท้งเญิ้ตหรือเอกภาพเพื่อจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่บริสุทธิ์และเย็นสบายท่ามกลางแมกไม้ ชมสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เวียดนาม สิ่งของวัตถุและข้อมูลแต่ละชิ้นที่จัดแสดงในอาคารทำเนียบเอกภาพล้วนผูกพันกับประวัติศาสตร์ระยะหนึ่งของนครที่มีชื่อประธานโฮจิมินห์ ./.
Lan Anh-VOV5