ในช่วงต้นปีซึ่งคือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศดีเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเกาะลี้เซินในจังหวัดกว๋างหงาย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ทางการท้องถิ่นได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อส่งเสริมจุดแข็งและศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวทะเลและเกาะเพื่อให้ลี้เซินกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

เกาะลี้เซินยังมีอีกชื่อที่เรียกว่า กู่ลาวแร้ ซึ่งประกอบด้วยเกาะสองแห่งชื่อว่าเกาะน้อยและเกาะใหญ่ ห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ๒๕กิโลเมตร ธรรมชาติที่สวยงามของลี้เซิน ร่องรอยของภูเขาไฟบนเกาะ งานเทศกาลที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมของชาวประมงเช่นงานแข่งเรือ งานเซ่นไหว้ปลาโอง เป็นต้น ได้เป็นแรงดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่ชอบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ความเป็นธรรมชาติของทะเลและเกาะและอยากศึกษาค้นคว้าความหลากหลายของวัฒนธรรมท้องถิ่น โดย ในช่วงฤดูท่องเที่ยวแต่ละวันลี้เซินต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ๓พันคน คุณเจิ่นถิถวีและคุณเจิ่นวันแถง นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอยได้แสดงความประทับใจที่ได้มาเที่ยวลี้เซิน

“ครอบครัวของดิฉันมาที่นี่ช่วงต้นปีใหม่ ชาวบ้านมีอัธยศัยดี อากาศปลอดโปร่ง ธรรมชาติสวยงามแสนโรแมนติก ที่น่าสนใจคือร่องรอยของภูเขาไฟในอดีต ซึ่งดิฉันรู้สึกประทับใจมากๆ”

“นักท่องเที่ยวก็สนใจงานเทศกาลพื้นเมืองต่างๆของท้องถิ่น ซึ่งผมเห็นชาวเกาะลี้เซินได้ร่วมกันอนุรักษ์เอกลักษณ์ประเพณีพื้นบ้านเอาไว้อย่างสมบูรณ์และมันมีความสำคัญมากในการร่วมพัฒนาท้องถิ่นแห่งนี้”

ทะเลลี้เซิน

ด้วยลักษณะของชุมชนที่เป็นการผสมผสานระหว่างอารยธรรมสามยุคคือ ซาหวิ่ง จำปา เวียด ทำให้เกาะลี้เซินเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมทางทะเลและเกาะที่มีชีวิตชีวาที่สะท้อนผ่านมรดกวัฒนธรรมรูปธรรมและนามธรรมต่างๆที่ได้รับการสืบทอดอนุรักษ์ให้คงอยู่จนทุกวันนี้ ซึ่งทั้งนี้คือเหตุผลให้ทางการจังหวัดกว๋างหงายเลือกลี้เซินเพื่อพัฒนาเป็นสวนธรณีวิทยาโลกและเมื่อได้รับการรับรองการท่องเที่ยวลี้เซินจะมีโอกาสพัฒนาอย่างยั่งยืน นายเหงวียนมิงห์ชี้ ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดกว๋างหงายเผยว่า

“นักท่องเที่ยวรู้จักกว๋างหงายจากชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมยุค ซาหวิ่ง และสวนธรณีวิทยาเกาะลี้เซิน ดังนั้นทางการจังหวัดกำลังเน้นการลงทุนพัฒนาสองจุดหมายนี้เพื่อส่งเสริมการใช้ศักยภาพทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเกาะลี้เซิน”

ชาวบ้านประกอบอาชีพทำประมงเป็นหลัก

ปัจจุบันนี้บนเกาะลี้เซินยังคงเก็บรักษาร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอธิปไตยของเวียดนามต่อหมู่เกาะสองแห่งคือหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่ ซึ่งทางจังหวัดกว๋างหงายก็ได้ให้ความสนใจต่อการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ควบคู่กับการอนุรักษ์โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ นายเหงวียนเวียดวี เลขาธิการพรรคสาขาอำเภอเกาะลี้เซินเผยว่า ทางอำเภอลี้เซินกำหนดแนวทางเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น ซึ่งที่สำคัญคือการพัฒนานี้ได้เปิดโอกาสสร้างงานทำใหม่และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนบนเกาะแห่งนี้ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและปลูกหอมแดงและกระเทียมเพื่อดำรงชีพ

ความเรียบง่าย ความเป็นกันเองของชาวท้องถิ่นบวกกับความสวยงามอย่างน่าทึ่งของธรรมชาติคือปัจจัยที่ช่วยให้ลี้เซินมีแรงดึงดูดใจนักท่องเที่ยวและหากใครที่ได้มีโอกาสมาแล้วสักครั้งก็ต้องประทับใจแน่นอน.