ท่านเหงวียนซินห์ซักเกิดเมื่อปี1862ที่หมู่บ้านกิมเลียน อ.นามด่าน จ.เหงะอาน ตอนอายุ 3ขวบ ท่านกำพร้าพ่อและตอน 4 ขวบก็กำพร้าแม่ ซึ่งตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เหงวียนซินห์ซักได้แสดงให้เห็นว่าเป็นเด็กที่มีความสามารถจึงได้ถูกรับเป็นลูกบุญธรรมของครูหว่างซวนเดื่องและก็ได้รับการส่งเสียให้ไปเรียนหนังสือ หลังสอบจอหงวนได้สำเร็จครูหว่างซวนเดื่องก็ให้แต่งงานกับลูกสาวของท่านชื่อ หว่างถิลวาน ซึ่งก็คือมารดาของประธานโฮจิมินห์ ท่านเหงวียนซินห์ซักเคยสอบได้อันดับสองในการสอบ ดร.และได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางในสมัยราชวงศ์เหงวียน ในช่วงบั้นปลายของชีวิตท่าน เหงวียนซินห์ซัก ลาออกจากตำแหน่งเพื่อกลับบ้านเกิดประกอบอาชีพเป็นครูและเป็นแพทย์แผนโบราณที่หมู่บ้านหว่าอาน นครกาวแหลง จังหวัดด่งทาป ท่านเสียชีวิตเมื่อปี1929 ซึ่งเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณของท่าน ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างสุสานในท้องถิ่นเพื่อบูชา ตอนแรกนั้นสุสานของ ท่านเหงวียนซินห์ซักเป็นเพียงหลุมฝังศพเล็กๆ ต่อมาหลังจากปท.รวมเป็นเอกภาพทางการท้องถิ่นได้ซ่อมแซมใหม่ให้ใหญ่กว่าและมีความมั่นคงถาวร โดยสุสานหันหน้าไปทิศตะวันออก บนสุสานมีการวางกระถางกำยานที่ทำจากหินจากภูหงูแห่งเซินในนครดานัง ในบริเวณสุสานมีการปลูกต้นไม้ ดอกไม้และผลไม้พันธุ์หายากที่ปชช.จากหลายท้องถิ่นนำมาปลูก ด้านหน้าสุสานคือสระบัวรูปดาวห้าแฉก ตรงกลางมีเจดีย์ดอกบัวขาวสูง7 เมตร ที่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่สมถของท่านและดอกบัวก็เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดด่งทาปด้วย คุณเตวี๊ยดญี เจ้าหน้าที่ของเขตอนุสรณ์สถานบิดาของลุงโฮ-ท่านเหงวียนซินห์ซักได้เล่าว่า "แหล่งประวัติศาสตร์นี้แบ่งเป็น5ส่วนได้แก่ ส่วนของสุสาน อาคารจัดแสดง วิหารบูชา บ้านไม้ยกพื้นประธานโฮจิมินห์และหมู่บ้านหว่าอาน รวมพื้นที่เกือบ 9 เฮกต้า สุสานถูกก่อสร้างใหม่เมื่อปี1975และใช้เวลาปรับปรุงก่อสร้างใหม่เกือบ2ปี ส่วนของสุสานออกแบบเป็นเหมือนบ้านหลังคาทรงโค้งรูปดอกบัว ปูด้วยหิน มีการประดับด้วยมังกร9ตัวที่เป็นสัญลักษณ์ของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงที่คอยปกป้องคุ้มครองรักษาเขตสุสานแห่งนี้"

หลังคาสุสานประดับด้วยมังกร9ตัว

จุดที่โดดเด่นน่าสนใจของแหล่งประวัติศาสตร์นี้คือส่วนจำลองหมู่บ้านหว่าอานสมัยที่ท่ายเหงวียนซินห์ซักพำนักอาศัยโดยเฉพาะได้มีการตั้งบ้านไม้ยกพื้นที่เสมือนเรือนไม้ของประธานโฮจิมินห์ในทำเนียบประธานประเทศ"เมื่อได้มาเที่ยวแหล่งประวัติศาสตร์นี้ก็รู้สึกประทับใจกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามของสถานที่แห่งนี้รวมทั้งมีความเคารพนับถือส่วนอุทิศที่ยิ่งใหญ่ของท่าน ถ้ามีโอกาส ผมก็จะกลับมาที่นี่อีก"

ในเวลาข้างหน้าจะมีการเพิ่มกิจการหลายส่วนโดยเฉพาะอาคารจัดแสดงข้อมูลสิ่งของเกี่ยวกับชีวิตและภารกิจการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์ด้วยเป้าหมายพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อให้การศึกษาเกียรติประวัติให้แก่คนรุ่นหลัง นางฟานถิหวูเกวียน ผู้อำนวยการแหล่งประวัติศาสตร์ท่านเหงวียนซินห์ซักเผยว่า"สำนักงาน หน่วยงานต่างๆได้เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายเพื่อจัดประชุม จัดพิธีรับสมาชิกพรรคใหม่ กิจกรรมยกย่องสดุดีบุคคลดีเด่นในการปฏิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งท่านเหงวียนซินห์ซักเป็นปัญญาชนรักชาติและใฝ่ศึกษาดังนั้นทางการจังหวัดจึงตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาโดยใช้ชื่อท่านเพื่อให้เด็กๆสำนึกในเกียรติประวัติของบ้านเกิด แต่ละปีแหล่งประวัติศาสตร์ของเราต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศราว5แสนคน"

ในช่วงเทศกาลตามประเพณีหรือวันงานสำคัญของประเทศ แหล่งประวัติศาสตร์ท่านเหงวียนซินห์ซักได้ดึงดูดผู้ที่มาเยี่ยมชมและจุดธูปสักการะจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบัน   วันครบรอบ วันถึงแก่อสัญกรรมของท่านเหงวียนซินห์ซักได้รับการรับรองให้เป็นงานเทศกาลระดับจังหวัดที่จัดขึ้นเป็นเวลา3วันตั้งแต่วันที่25-27เดือนสิบจันทรคติและชาวจังหวัดด่งทาปก็มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมแรงร่วมใจดูแลส่วนสุสานของบิดาประธานโฮจิมินห์.