ดอกTam giac mach(photo internet)

 จากฮานอยไปกาวบั่งสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข3ผ่านจ.ท้ายเงวียนและบั๊กก๋านหรือทางหลวงหมายเล1จากจ.หลางเซินผ่าน ดงเค เทิดเค ถึงกาวบั่ง โดยในแต่ละฤดูกาวบั่งจะมีบรรยากาศที่สวนงามไม่ซ้ำกันดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล แต่จากประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวหลายคนที่เคยเที่ยวกาวบั่งหลายครั้ง ช่วงที่ถือว่าน่าเที่ยวที่สุดคือเดือนสิงหาคม-กันยายนที่น้ำตกบ๋านยกสวยงามที่สุดและเดือนพฤษจิกายน-ธันวาคมช่วงฤดูดอกไม้ป่าเช่น ดอกTam giac mach และดอกบัวตองบานสะพรั่งเติมแต่งสีสันให้แก่เขตป่าเขาแห่งนี้

น้ำตกบ๋านยก

ที่กาวบั่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อหลายแห่งและจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดคือ น้ำตกบ๋านยก ถ้ำเหงื่อมงาว หรือ สระทางแฮน เป็นต้น คุณหว่างทิหงอกแอง ชาวท้องถิ่นเผยว่า เมื่อมาเที่ยวกาวบั่ง สถานที่แรกที่ทุกคนจะแนะนำและมักจัดอยู่ในโปรแกรมเที่ยวคือน้ำตกบ๋านยก ซึ่งจะสวยที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม โดยจะเห็นภาพน้ำตกที่แบ่งออกเป็นชั้นๆพร้อมกระแสน้ำที่ไหลลงมากระทบเบื้องล่างแตกกระจายเป็นฟองฝอยอย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีกระท่อมเพื่อให้บริการตกปลาด้านล่างน้ำตกด้วย น้ำตกบ๋านยกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามอันดับ4ของโลกที่ตั้งอยู่ในเขตชายแดนและเป็นน้ำตกธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ก็ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่มีโอกาสมาเยือน ห่างจากน้ำตกบ๋านยกเพียง3กิโลเมตรคือถ้ำเหงื่อมงาวที่ยังคงเป็นธรรมชาติโดยเฉพาะเหล่าหินงอกหินย้อยที่ส่องประกายระยิบระยับสามารถจิตนาการเป็นรูปต่างๆได้มากมายที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

(photo internet)

ในการมาเที่ยวกาวบั่งซึ่งเป็นถิ่นปฏิวัติที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม สถานที่ที่ต้องแวะเยือนคือลำธาร เลนิน ตามการตั้งชื่อของประธานโฮจิมินห์และถ้ำปั๊กบ๊อ สถานที่ที่ท่านเลือกใช้เป็นที่ทำงานและชี้นำการปฏิวัติเวียดนามภายหลังการเดินทางไปแสวงหาหนทางกูชาติในต่างประเทศมากว่า30ปี ในสมัยที่ประธานโฮจิมินห์ใช้ชีวิตที่นี่ ท่านได้ใช้เตานี้เพื่อหุ้งข้าวและทำอาหาร นี่คือเตียงนอนจำลองเพราะเตียงที่ท่านใช้จริงถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ในถ้ำนี้หน้าหนาวอากาศอุ่นส่วนหน้าร้อนอากาศเย็นสบาย จุดท่องเที่ยวในโปรแกรมเที่ยวกาวบั่งนั้นยังมีหมู่บ้านฟุกเเซนของชาวชนเผ่าหนุ่งพร้อมชุดประจำชนเผ่าที่ออกเป็นสีหม้อห้อมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะพร้อมอาชีพหลักที่ชาวบ้านทำกันมาเป็นร้อยปีคือการตีเหล็กคุณหว่างทิหงอกแอง ชาวท้องถิ่นเผยว่า ชีวิตที่นี่ยังเป็นธรรมชาติดั้งเดิมโดยชุดประจำชนเผ่าที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านต้องผ่านขั้นตอนการทำและย้อมสีที่ยุ่งยาก ส่วนอาชีพการตีเหล็กก็มีมานานโดยเฉพาะการทำมีด ซึ่งมีคุณภาพดีจนสร้างชื่อเสียงให้แก่มีดฟุกแซน

ก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยว (photo internet)

            ภายหลังใช้เวลาค้นคว้ากาวบั่งมาทั้งวัน วัฒนธรรมอาหารการกินถิ่นกาวบั่งจะเป็นอีกอย่างที่สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นLẩu หรือคล้ายกับจิ้มจุ่มของไทยที่มีผักสดหลากหลายชนิดที่มีเฉพาะในกาวบั่ง ก๋วยเตี๋ยวเปรี้ยว ข้าวต้มตัวอ่อนผึ้ง เป็ดย่าง หน่อไม้ดองพริก เป็นต้นต่างก็ทำให้ผู้ที่มีโอกาสลิ่มลองรู้สึกอิ่มท้องอิ่มใจ ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายมาเที่ยวถิ่นปฏิวัติกาวบั่งสักครั้งยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่แปลกใหม่กำลังรออยู่แล้วท่านจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน./.