“นี่เป็นวิหารบูชากษัตริย์หลีแองตง ซึ่งเมื่อก่อนเป็นวิหารเล็กๆสร้างด้วยไม้ ผ่านการบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายครั้งก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเหมือนที่เห็นทุกวันนี้”

ในการเดินทางจากท่าเรือ ก๊ายโหร่ง เพื่อเที่ยวชมเกาะที่มีชื่อเสียงต่างๆอย่าง เกาะกวานหลาน เกาะหงอกหวื่ง หรือเกาะโกโต นั้นมีน้อยคนที่ทราบว่ามีวิหารเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาหินซึ่งเป็นที่บูชากษัตริย์หลีแองตง ที่เป็นผู้ออกพระราชกฤษฎีกาให้จัดตั้งเขตเวินโด่นเมื่อปี 1149 ทำให้เวินโด่นกลายเป็นท่าเรือพาณิชย์แห่งแรกของประเทศด๋ายเวียด และได้มีการพัฒนารุ่งเรืองในช่วงสมัยราชวงศ์ เจิ่นและเลเซอ โดยมีการดำเนินกิจการทางการค้ามาเกือบ 7 ศตวรรษคือจนถึงปลายศตวรรษที่18 ท่าเรือเวินโด่นไม่เป็นเพียงแต่แหล่งแลกเปลี่ยนสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นแต่ยังมีบทบาทสำคัญในเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศที่เชื่อมระหว่างเอเชียเหนือและเอเชียใต้ ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นาย เหงวียนมินจาง อดีตประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอเวินโด่นเผยว่า ด้วยสถานะยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ เวินโด่นเคยเป็นสมรภูมิที่จารึกชัยชนะที่รุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษในภารกิจการสร้างและปกป้องประเทศ ตัวอย่างเช่นเหตุการณ์นายพลเจิ่นแค้งยือ รบชนะขบวนเรือเสบียงกรังของเหล่าทัพหยวนหมิง ทำให้กองทัพของศัตรูต้องล่าถอยออกไปและถูกไล่โจมตีจนพ่ายแพ้ที่ปากแม่น้ำ แบกดั่ง ซึ่งทุกวันนี้พิธีจำลองเหตุการณ์ชัยชนะแบกดั่งด้วยพิธีกรรมแข่งเรือยังคงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในงานวิหารกวานหลาน ซึ่งนับเป็นหนึ่งในคุณค่าวัฒนธรรมที่สร้างความเป็นอัตลักษณ์ของชาวเวินโด่น

จากวิสัยทัศน์ของบรรพบุรุษ ในปี 2007 นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจเวินโด่นและเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 อนุมัติการปรับแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจเวินโด่นจนถึงปี 2040 โดยมีการวางแผนสร้างสรรค์เวินโด่นให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจทางทะเลแบบพหุภาค เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีทั้งการบริการคาสิโน การท่องเที่ยวระดับพรีเมียมและการบริการอื่นๆ เป็นประตูสู่การค้าระหว่างประเทศ สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์และทันสมัยด้วยคุณภาพสูง มีแบรนด์เนมและมีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล นายดว่านหิวโหมก อาศัยในอำเภอเมืองก๊ายโหร่งมาเกือบ 20 ปี กล่าวว่า “อำเภอของเรามีการพัฒนาเจริญรุ่งเรืองจากการท่องเที่ยว เมื่อมีการวางผังพัฒนาและมีนโยบายก่อสร้างสนามบินและทางไฮเวย์ รูปโฉมของท้องถิ่นก็เปลี่ยนแปลงไปทันที โครงสร้างพื้นฐานต่างๆด้านคมนาคมมีความทันสมัย ดึงดูดโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนก่อสร้างท่าเรือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งชาวบ้านมีความหวังในอนาคต ไม่ต้องฝันอีกต่อไป”

จากที่เคยเป็นพื้นที่ริมฝั่งที่เต็มด้วยแสมทะเล มาจนถึงปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาเป็นตัวเมืองที่ทันสมัยพร้อมเป็นศูนย์กลางบริการการท่องเที่ยว จุดที่เคยเป็นแหล่งรับเรือพาณิชย์จากญี่ปุ่น เกาหลี และจีนในช่วงศตวรรษที่ 12 ในปัจจุบันได้พัฒนาเป็นสนามบินนานาชาติสำหรับรับเที่ยวบินจาก 5 ทวีป จากความเป็นเอกลักษณ์ทางภูมิศาสตร์และพร้อมการมีนโยบาย พิเศษต่างๆ ทางจังหวัดกว๋างนิงห์กำลังพัฒนาปรับเปลี่ยนเวินโด่นให้เป็นเหมือน “แม่เหล็ก" ดึงดูดโครงการลงทุนใหญ่ๆ การพัฒนารีสอร์ตและศูนย์บันเทิงระดับพรีเมียม ศูนย์คอมเพล็กซ์ไฮเทค  และตัวเมืองอัจฉริยะ ที่ใช้เงินทุนมากกว่า 6หมื่น ล้านล้านด่ง เฉพาะในปี 2021 มีเงินทุนเกือบ 6 ล้านล้านด่งได้รับการเบิกจ่ายเพื่อดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาต่างๆในเวินโด่น

เวินโด่น กำลังใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบและศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างก้าวกระโดด

นอกจากเศรษฐกิจแล้ว คุณค่าทางประวัติศาสตร์และศักยภาพทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นก็ได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็งโดยในช่วงต้นปี 2021 จังหวัดกว๋างนิงห์ได้อนุมัติร่างแผนการใหญ่ในการจัดทำเอกสารทางวิทยาศาสตร์เพื่อเสนอให้รัฐบาลขึ้นทะเบียนแหล่งอนุสรณ์สถานแห่งชาติพิเศษสำหรับเขตท่าเรือพาณิชย์เวินโด่นด้วยความคาดหวังที่จะนำสถานที่แห่งนี้กลับสู่ตำแหน่งและสถานะที่มากด้วยคุณค่าดั้งเดิมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ที่เป็นอัตลักษณ์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น นายด่าววันหวู รองประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอเวินโด่นเผยว่า  “ในอนาคตข้างหน้าจะเน้นการฟื้นฟูโบราณสถานแห่งประวัติศาสตร์ต่างๆในเวินโด่น เช่นวิหารกวานหลานและเทศกาลกวานหลาน เน้นวิจัยและเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ ฟื้นฟูท่าเรือพาณิชย์โบราณบนเกาะหงอกหวื่งและเกาะทั้งเหลย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับแรกเพื่อพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะพิเศษที่สอดคล้องกับการวางแผนพัฒนาเวินโด่นตามแนวทางตัวเมืองแห่งหมู่เกาะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตัวเมืองอัฉริยะและพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ในปี 2022 ถนนไฮเวย์เวินโด่น-ม๊องก๊ายจะเปิดใช้งาน ซึ่งจะเป็นการเสร็จสิ้นโครงการพัฒนาแนวระเบียงถนนไฮเวย์เวียดนาม-จีนและในอาเซียน อันเป็นการยืนยันสถานะที่เป็นก้าวกระโดดของเวินโด่นในแผนการพัฒนาของจังหวัดกว๋างนิงห์ ที่ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือพาณิชย์ในอดีตเท่านั้น หากยังมีการเปิดน่านฟ้า เปิดเส้นทางคมนาคมทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อมุ่งพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าและการบริการที่ทันสมัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมจากวิสัยทัศน์และแนวความคิดมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลของบรรพบุรุษ./.