Hien Phuong-Thu Hang -  
( VOVworld )-มีผู้ชายคนหนึ่งที่โชคร้ายเพราะขาและแขนทั้งสองข้างลีบ การเดินเหินต้องใช้รถวิลล์แชร์แต่ด้วยความพยายามสู้กับชีวิตที่อับโชคเขาสามารถใช้ปากเขียนตัวหนังสือได้อย่างสวยงามบรรจงจนกลายเป็นครูสมัครเล่นของเด็กในพื้นที่ ผู้ชายคนนั้นคือนายฝุ่งวันเจื่อง อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเญินหลี ตำบลนามเฟืองเตี๊ยน อำเภอเจืองหมี กรุงฮานอย
( VOVworld )-
มีผู้ชายคนหนึ่งที่โชคร้ายเพราะขาและแขนทั้งสองข้างลีบ การเดินเหินต้องใช้รถวิลล์แชร์แต่ด้วยความพยายามสู้กับชีวิตที่อับโชคเขาสามารถใช้ปากเขียนตัวหนังสือได้อย่างสวยงามบรรจงจนกลายเป็นครูสมัครเล่นของเด็กในพื้นที่ ผู้ชายคนนั้นคือนายฝุ่งวันเจื่อง อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเญินหลี ตำบลนามเฟืองเตี๊ยน อำเภอเจืองหมี กรุงฮานอย
ครูเจื่องกับนักเรียน
นี่คือเสียงท่องจำคำพังเพยเกี่ยวกับความพยายามของคนเราที่จะนำไปสู่ความสำเร็จไม่ว่าจะได้รับคำชื่นชมหรือถูกติติงก็ตามของเด็กในห้องเรียนฟรีของครูพิการฝู่งวันเจื่อง นายเจื่องเป็นโรคเส้นลีบมาแต่กำเนิดทำให้เขามีขาลีบทั้งสองข้างและต้องใช้รถวิลล์แชร์ในการเดินทางแต่เจื่องยังคงไปเรียนหนังสือจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีที่ ๓ แต่ก็เกิดแขนทั้งสองข้างลีบจนทำให้เจื่องต้องเลิกเรียนกลางคัน เมื่อชมรายการ “ การศึกษาเล่าเรียนของบุคคลรู้จักสู้ชีวิต ”ทางสถานีโทรทัศน์เกี่ยวกับนายเหงวียนหงอกกี๊ที่ได้พยายามสู้ชีวิตฝึกเขียนตัวหนังสือด้วยฝ่าเท้าและได้กลายเป็นครู นายเจื่องคิดในใจว่าตนต้องเขียนตัวหนังสือเหมือนครูหงอกกี๊ให้ได้ นายเจื่องคุยว่า “ ผมชมรายการโทรทัศน์ได้เห็นว่า ครูหงอกกี๊เสียแขนสองข้างแต่ยังมีขาอยู่และยังไปโรงเรียน ครูหงอกกี๊ได้ฝึกเขียนตัวหนังสือด้วยฝ่าเท้า ผมเห็นว่าครูหงอกกี๊ทำได้ผมก็ต้องทำได้ ครูหงอกกี๊เป็นตัวอย่างที่ผมจะเดินตาม ผมต้องพยายามฝึกเขียนตัวหนังสือด้วยปาก ”
ตอนแรกนายเจื่องฝึกคาบปากกาแล้วฝึกเขียนทีละขั้น แม้จะยาก ต้องการความอดทนและต้องใช้เวลาแต่นายเจื่องไม่ย่อท้อ เขาฝึกเขียนด้วยความอดทนและในที่สุดสามารถเขียตัวหนังสือได้ภายในไม่กี่เดือน นายฝู่งวันเจื่องเปิดเผยว่า “ พอผมฝึกคาบปากกาได้แล้วก็ฝึกคาบปากกาให้แน่นเพื่อเขียนให้ได้ตามความต้องการ โดยคาบปากกาด้วยฟันให้แน่นแล้วให้คอเคลื่อนไหวตามตัวอักษร ”
ครูเจื่องเขียนตัวหนังสือด้วยปากอย่างบันจง
นายเจื่องไม่เพียงแต่สามารถเขียตัวหนังสือได้เท่านั้นหากยังเขียนบรรจงอีกด้วย นายเจื่องได้ฝึกเขียนตัวหนังสือให้กับเด็กๆในครอบครัว ต่อมาเด็กในหมู่บ้านมาขอฝึกเขียนตัวหนังสือเพิ่มมากขึ้น เมื่อเด็กเลิกเรียนจะไปที่บ้านครูเจื่องเพื่อฝึกเขียนตัวหนังสือและทบทวนบทเรียนที่ได้เรียนมา ปัจจุบัน นายเจื่องกำลังสอนเด็ก ๑๐ คนตั้งแต่ป.๑ถึงป.๕ เด็กชายหว่างวันตว่านนักเรียนป.๔เปิดเผยว่า “ ผมรักและเคารพคุณลุงเจื่องจึงมาเรียน ผมเรียนคณิตศาสตร์ ฝึกเขียนและอ่าน ผมเรียนได้กว่า ๑ เดือนเท่านั้นและผลการเรียนดีขึ้น โดยสามารถเข้าใจและทำโจทย์คณิตศาสตร์และการออกเสียงชัด อ่านคล่องแคล่ว คุณลุงเจื่องสอนเข้าใจง่าย ผมจะพยายามเรียนให้ดี ”
ครูเจื่องกับภรรยาและลูก
แม้จะเป็นห้องเรียนสมัครเล่น แต่ชาวบ้านและนักเรียนต่างเรียกนายเจื่องด้วยความเคารพรักว่าครู ผู้ปกครองต่างอยากให้ลูกๆไปเรียนกับนายเจื่องเพื่อเรียนหนังสือและฝึกฝนตนเองตามตัวอย่างของครูเจื่อง ./.
Hien Phuong-Thu Hang