งานด้านสังคมสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากจน
Kim Dung- Thu Hoa -  
(VOVWORLD) - ปัจจุบัน ผู้ป่วยยากจนได้มีโอกาสรักษาพยาบาลและเอาชนะความเจ็บป่วยเพื่อกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยพวกเขาไม่เพียงแต่ได้รับการสนับสนุนค่ารักษาเท่านั้น หากยังได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ได้รับความเข้าใจและการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากผู้ที่ปฏิบัติงานด้านสังคมสงเคราะห์ในโรงพยาบาลต่างๆซึ่งถือเป็นที่พึ่งของผู้ป่วยยากจน
ผู้ป่วยยากจนหลายคนได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ของโรงพยาบาลเจอะไหร |
ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. นาย เหงียนญือหุ่ง จากจังหวัดบิ่งเยือง ได้เคาะประตูเรียกนาย เลมิงเหียน หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลเจอะไหร พร้อมรอยยิ้มแห่งความดีใจและบอกว่า ภรรยาของเขาเพิ่งฟื้นหลังจากการผ่าตัดเนื้องอกก้อนใหญ่บริเวณขาขวาที่ติดตัวเป็นเวลา 12 ปี
ภรรยาของนาย หุ่ง เป็นพี่สาวของผู้ป่วย เลแทงหวู ซึ่งหลายคนเรียกว่า "มนุษย์กลายพันธุ์" โดยเธอตรวจพบเนื้องอกขนาดใหญ่ 4 ก้อน น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน โดยบริเวณหลังมี 3 จุดและที่บริเวณแขนซ้าย เมื่อปี 2012 ทีมผ่าตัดของโรงพยาบาลเจอะไหรได้ผ่าตัดเนื้องอกบนหลังให้แก่คุณ หวู โดยได้รับการสนับสนุนค่าผ่าตัดจากแผนกสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลเจาะไหรและการประชาสัมพันธ์หาเงินช่วยเหลือของสำนักงานสื่อสารมวลชนต่างๆ จนถึงขณะนี้ พี่สาวของคุณ หวู ก็ได้รับการสนับสนุนจากแผนกสังคมสงเคราะห์เพื่อผ่าตัดเอาเนื้องอกก้อนใหญ่ออก นาย เหงียนญือหุ่ง เผยว่า
“เมื่อมาที่นี่ ผมแค่ต้องการพาภรรยามาตรวจเท่านั้นเพราะผมไม่มีเงินผ่าตัด แต่หมอบอกว่าให้ admit และเรียกร้องให้ผู้ที่มีใจกุศลมาช่วยเหลือผ่าตัดให้แก่ภรรยา ตอนนี้ ภรรยาของผมได้รับการผ่าตัด ผมมีความสุขมาก”
ครอบครัวและญาติของนาย เหงียนญือหุ่ง เป็นเพียงหนึ่งในผู้ป่วยยากจนหลายพันคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากแผนกสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลเจาะไหรเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที นาย เลมิงเหียน หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์เผยว่า ทุกเดือน แผนกได้รับการเอกสารขอความช่วยเหลือด้านค่ารักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยหรือครอบครัวยากจนกว่า 100 ชุด บางปี ได้เรียกร้องให้สนับสนุนผู้ป่วยยากจนที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง โดยระดมเงินสนับสนุนได้ประมาณ 2 หมื่นล้านด่ง แผนกสังคมสงเคราะห์ยังเชื่อมโยงกับองค์กรการกุศล สนับสนุนอาหารมังสวิรัติฟรี 4,500 มื้อตั้งแต่เช้าตรู่ถึงช่วงค่ำทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันหยุดหรือช่วงตรุษเต๊ตให้แก่ญาติผู้ป่วย ที่นี่ยังปฏิบัติโครงการดูแล เดินพร้อมกับผู้ป่วยมะเร็ง เตรียมน้ำเย็นและหนังสือพิมพ์ให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องทำเคมีบำบัด นาย เลมิงเหียน เผยว่า
“จากการตระหนักได้ดีว่า ผู้ป่วยต้องการอะไรหรือมีความกังวลยอะไร พวกเราก็จะพยายามให้ความช่วยเหลือถึงแม้เป็นสิ่งเล็กๆ เพื่อแบ่งเบาภาระและลดอุปสรรค”
เจ้าหน้าที่ของแผนกสังคมสงเคราะห์มาช่วยเหลือผู้ป่วยในเขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญ |
ส่วนสำหรับนาง เจิ่นถิเตวี๊ยดมาย อายุ 65 ปี เจ้าหน้าที่ของแผนกสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลเด็กหมายเลข 1 ในนครโฮจิมินห์ แรงผลักดันเพื่อให้เธอมีความผูกพันกับอาชีพนี้คือกิจกรรมเชื่อมโยงกับผู้ที่มีใจกุศลซึ่งได้ช่วยให้ผู้ป่วยเด็กหายจากความเจ็บป่วย ได้ไปโรงเรียนและเล่นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ด้วยประสบการณ์ในการใช้ชีวิตและการสัมผัสกับงานด้านสังคมสงเคราะห์เป็นเวลา 7 ปี เธอสามารถระบุถึงกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อเชื่อมโยงและเรียกร้องการสนับสนุนให้ถูกต้องตามเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสจากน้ำใจของผู้ที่มีใจกุศล นาง มาย เผยว่า
“ตอนนี้ ดิฉันยังมีสุขภาพแข็งแรงและสามารถให้การช่วยเหลือเด็กๆ ดิฉันมีความประสงค์จะไปยังเขตห่างไกลความเจริญเพื่อพาเด็กยากจนที่นั่นที่ไม่มีเงินมารักษาที่โรงพยาบาลเพราะเราไม่ต้องการรอให้เด็กป่วยหนักถึงจะพามาโรงพยาบาล”
สำหรับโรงพยาบาลเขต 2 ในนครโฮจิมินห์ งานด้านสังคมสงเคราะห์เป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยยากจนอย่างเต็มที่ เป็นการเดินทางเพื่อช่วยเหลือด้านการกุศลให้แก่ผู้ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ นาย เจิ่นกวางโจว์ หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลเขต 2 ได้เผยว่า ทุกครั้ง เมื่อได้รับข้อมูลจากแผนกผู้ป่วยว่า มีผู้ป่วยที่สามารถรักษาให้หายดีได้ แต่ครอบครัวยากจนไม่มีเงิน แผนกสังคมสงเคราะห์ก็พยายามอย่างสุดความสามารถ ขอความร่วมมือจากสำนักงานสื่อสารมวลชนเพื่อประชาสัมพันธ์หาแหล่งเงินช่วยเหลือผู้ป่วย โดยเฉพาะ แผนกฯได้จัดคณะแพทย์อาสาไปยังท้องถิ่นและเขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญเพื่อตรวจรักษาและแจกยาให้แก่ประชาชน 1-2 ครั้งต่อเดือน
ถึงแม้ไม่ได้รักษาผู้ป่วยโดยตรง แต่จากการตระหนักได้ดีถึงภาระค่าใช้จ่ายอันหนักหน่วงในการรักษาและเห็นอกเห็นใจกับความเจ็บปวดทางจิตใจของผู้ป่วยยากจน ผู้ที่ปฏิบัติงานด้านสังคมสงเคราะห์ในโรงพยาบาลต่างๆกลายเป็นที่พึ่งและนำโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นมาให้แก่ผู้ป่วยยากจน.
Kim Dung- Thu Hoa