เรื่องราวของเด็กหญิงหายอาน อายุ 7 ขวบที่บริจาคกระจกตาหลังจากเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมองในกรุงฮานอยได้สร้างความตื้นตันใจและช่วยผลักดันให้ประชาชนหลายล้านคนลงทะเบียนบริจาคอวัยวะ การบริจาคกระจกตาของเด็กหญิงหายอานได้ช่วยให้ผู้ป่วยโรคกระจกตาอีก 2 คนสามารถมองเห็นและทำให้จำนวนผู้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้นจากปรกติถึง 100 เท่า

นาง เหงวียนถิมิงเติม อยู่ที่ถนนมิงคาย เขตฮายบ่าจึง

จากเรื่องการบริจาคกระจกตาที่ซาบซึ้งใจของเด็กหญิงหายอาน ในตลอด 10วันที่ผ่านมา ได้มีประชาชน 650 คนลงทะเบียนบริจาคอวัยวะที่โรงพยาบาลเหวียดดึ๊ก นาง เหงวียนถิมิงเติม อยู่ที่ถนนมิงคาย เขตฮายบ่าจึงได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะ โดยได้กล่าวว่า“หลังจากเสียชีวิต ถ้าหากฝังศพ หรือ เผาศพ ก็จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆในขณะที่อวัยวะของเราจะสามารถช่วยชีวิตคนอื่นได้ ดังนั้น ดิฉันได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะ ในตอนแรก ดิฉันคิดจะบริจาคอวัยวะบางส่วนเท่านั้น แต่เมื่อคิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจบริจาคอวัยวะทุกส่วนเพราะเส้นเอ็น หนังและกระดูกก็ล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและนักศึกษาแพทย์”

เรื่องราวของเด็กหญิงหายอานถือเป็นแรงจูงใจให้นาย เหงวียนกวางเตี๊ยน ในแขวงดิ่งกง เขตหว่างมาย กรุงฮานอยตัดสินใจบริจาคร่างกายตามความปรารถนาของคุณพ่อตอนที่ท่านยังมีชีวิต นายกวางเตี๊ยน กล่าวว่า“ตอนที่เสียชีวิต พ่อของผมมีความประสงค์ที่จะบริจาคร่างกายเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม แต่ผมไม่ได้ปฏิบัติตาม หลังจากทราบเรื่องราวของเด็กหญิงหายอาน ผมได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะของตัวเพื่อปฏิบัติตามความปรารถนาของท่าน”

นาย เหงวียนกวางเตี๊ยน ในแขวงดิ่งกง เขตหว่างมาย กรุงฮานอย

ส่วนนาย เหงวียนหว่างฟุก รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติได้เผยว่า เรื่องราวของเด็กหญิงหายอานได้ทำให้ผู้ที่กำลังลังเลใจในการบริจาคอวัยวะสามารถตัดสินใจบริจาคอวัยวะได้ง่ายขึ้น“ผู้ที่ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะต่างรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำและรู้สึกมีความสุขเนื่องจากสามารถช่วยชีวิตคนอื่นหลังจากเสียชีวิตและสามารถเอาชนะความกลัวตาย”

ศูนย์ประสานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติได้เผยว่า จนถึงปัจจุบัน จำนวนผู้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้นเป็น 100เท่าเมื่อเทียบกับปรกติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความหมายของความเป็นมนุษย์ของการบริจาคอวัยวะที่ได้รับการจุดประกายในสังคม

ปัจจุบัน เวียดนามมีผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะกว่า 10.000 คนและมีผู้ที่ลงทะเบียนรอรับกระจกตา 300.000 คน ดังนั้นการบริจาคอวัยวะหลังจากเสียชีวิตถือเป็นสิ่งที่สูงส่งที่ควรได้รับการปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งสำหรับผู้ที่มีความประสงค์บริจาคอวัยวะ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะสังกัดโรงพยาบาลเจอะไหร่ในนครโฮจิมินห์และศูนย์ประสานการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติสังกัดโรงพยาบาลเหวียดดึ๊กในกรุงฮานอย.