ช่างตีเหล็กที่รักษาเปลวไฟให้แก่ถนนหล่อแหร่นในกรุงฮานอย
Hoa Ha - To Tuan - VOV5 -  
(VOVworld) – ในอดีต ย่านถนนโบราณ36สายในกรุงฮานอยล้วนมีความผูกพันธ์กับอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นถนนแต่ละสายจึงถูกตั้งชื่อตามอาชีพนั้นๆ อย่างเช่น ถนนห่างบาก ทำเครื่องเงิน ถนนหล่อแหร่นทำอาชีพตีเหล็ก เป็นต้น ผ่านกาลเวลาที่ผันผวนมานับร้อยปี แม้จะมีอาชีพบางอย่างได้สูญหายหรือเกือบสูญหายไปแล้วแต่ก็ยังมีหลายอาชีพยังได้รับการสืบทอดและพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ในรายการสารคดีของเราวันนี้ ขอเชิญท่านพบปะกับช่างตีเหล็กคนสุดท้ายในย่านถนนโบราณ 36 สายเหงียนเฟืองหุ่งผ่านบทความเรื่อง " ช่างตีเหล็กที่รักษาเปลวไฟให้แก่ถนนหล่อแหร่นในกรุงฮานอย”
(VOVworld) – ในอดีต ย่านถนนโบราณ36สายในกรุงฮานอยล้วนมีความผูกพันธ์กับอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นถนนแต่ละสายจึงถูกตั้งชื่อตามอาชีพนั้นๆ อย่างเช่น ถนนห่างบาก ทำเครื่องเงิน ถนนหล่อแหร่นทำอาชีพตีเหล็ก เป็นต้น ผ่านกาลเวลาที่ผันผวนมานับร้อยปี แม้จะมีอาชีพบางอย่างได้สูญหายหรือเกือบสูญหายไปแล้วแต่ก็ยังมีหลายอาชีพยังได้รับการสืบทอดและพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ในรายการสารคดีของเราวันนี้ ขอเชิญท่านพบปะกับช่างตีเหล็กคนสุดท้ายในย่านถนนโบราณ 36 สายเหงียนเฟืองหุ่งผ่านบทความเรื่อง " ช่างตีเหล็กที่รักษาเปลวไฟให้แก่ถนนหล่อแหร่นในกรุงฮานอย”
ช่างตีเหล็กที่รักษาเปลวไฟให้แก่ถนนหล่อแหร่นในกรุงฮานอย
(Photo nguoihanoi.com.vn) |
ในยุคอุตสาหกรรมนี้ ดูเหมือนทุกคนจะลืมไปแล้วว่า มือของมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด แต่ในบ้านเลขที่ 26 ถนนหล่อแหร่นในกรุงฮานอย ช่างตีเหล็กเหงียนเฟืองหุ่งยังคงทุ่มเทแรงกายแรงใจให้แก่อาชีพตีเหล็กที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ เขาเป็นคนสุดท้ายที่ยังคงทำอาชีพนี้ในถนนหล่อแหร่น ซึ่งเคยเป็นย่านตีเหล็กที่คึกคักในอดีต
ยากที่จะจินตนาการได้ว่า ท่ามกลางเสียงเครื่องเชื่อมและเครื่องตัดที่อึกทึกในถนนหล่อแหร่น ยังมีโรงตีเหล็กที่เหลือเพียงแห่งเดียวบนถนนสายนี้ คราบถ่านหินเต็มใบหน้า รอยแผลไฟไหม้บนแขนสองข้าง เสื้อเก่าๆที่เต็มไปด้วยเหงื่อและน้ำมัน ดูคุณเหงียนเฟืองหุ่งเหมือนช่างตีเหล็กที่พบเห็นได้ทั่วไปในสมัยก่อน อาจเพราะมีความคุ้นเคยกับการแวะมาเยือนของนักท่องเที่ยวในทุกวัน คุณหุ่งจึงมีความเป็นกันเองเมื่อพูดคุยกับพวกเราในระหว่างการทำงาน “ตั้งแต่ช่วงปี 1990 เมื่อการเปิดประเทศดำเนินไปอย่างเข้มแข็ง เอกลักษณ์ของถนนสายนี้ค่อยๆสูญหายไป รุ่นของผมเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงทำอาชีพนี้อยู่ คนอื่นไม่ทำแล้ว พวกเขาทำการค้าขายแทน แต่ผมคิดว่า ถ้าหากเรามีความหลงไหลกับอาชีพ อาชีพจะสามารถเลี้ยงเราได้ ถ้าประสบความลำบากก็ต้องพยายามฟันฝ่าให้ได้ ตอนนี้ผมประกอบอาชีพนี้คนเดียว ผมชอบและหลงไหลอาชีพนี้ และมองเห็นข้อดีของอาชีพนี้ ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่มือของผมสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์”
ในการเดินไปตามถนนหล่อแหร่น ถ้าหากเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับกรุงฮานอย จะเห็นได้ว่า ถนนหล่อแหร่นในปัจจุบันมีความแตกต่างกับอดีตมาก เพราะปัจจุบันมีร้านขายเหล็กและวัสดุก่อสร้างแทนโรงตีเหล็ก และการผลิตเหล็กก็ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนกันหมดแล้ว ดังนั้น นี่คือโรงตีเหล็กแห่งเดียวที่ยังคงใช้กรรมวิธีตีเหล็กแบบดั้งเดิมในย่านถนนโบราณ 36 สายจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ในโรงตีเหล็กแคบๆ และนั่งท่ามกลางเครื่องไม้เครื่องมือที่ทำจากเหล็ก คุณเหงียนเฟืองหุ่งได้พูดคุยอย่างสนุกสนานกับผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม จนดูไม่ออกว่า เขากำลังทำงานหนักมาก “ผมมีความภาคภูมิใจมาก โดยมักจะพูดเล่นว่า ผมไม่ต้องมีหนังสือเดินทางแต่ก็สามารถไปเที่ยวได้ทั่วโลก เพราะว่า นักท่องเที่ยวมักจะถ่ายรูปผมแล้วนำไปโชว์ให้เพื่อนๆและญาติมิตรดูว่า ในกรุงฮานอยมีช่างตีเหล็กคนเดียวที่ยังคงตีเหล็กด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมอยู่ หรือในสายการบินต่างๆ พวกเขาได้ประชาสัมพันธ์ว่า ผมเป็นช่างตีเหล็ก ผมไม่ใช่พ่อค้า อาชีพไหนๆก็สำคัญ ส่วนผมเองก็มีความภาคภูมิใจว่า เป็นช่างตีเหล็กที่มีฝีมือดี ไม่ควรอาย แต่คนรุ่นใหม่ไม่คิดอย่างนั้น ลูกผมก็เช่นกัน เขาไม่ชอบให้ผมทำอาชีพนี้แต่ผมบอกว่า แต่ละคนจะมีอาชีพแตกต่างกัน ผมไม่บังคับให้ลูกๆทำอาชีพนี้แต่ต้องประกอบอาชีพที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตและครอบครัว”
ผมมีความภาคภูมิใจว่า เป็นช่างตีเหล็กที่มีฝีมือดี
(Photo laodong.com.vn) |
ในตลอดสิบปีที่ผ่านมา ช่างตีเหล็กเหงียนเฟืองหุ่งมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของถนนหล่อแหร่น มีคนเดินผ่านมาแล้วผ่านไป มีร้านเปิดใหม่และก็จะมีร้านปิดกิจการ คุณหุ่งยังคงทำงานอยู่ในโรงตีเหล็กของเขาเหมือนเดิม ดูเหมือนว่า เขาไม่สนใจชีวิต บางคนถามว่า ทำไมยังคงทำงานหนักมาก แต่คุณหุ่งก็ตอบด้วยรอยยิ้ม “น่าเสียดายว่า ปัจจุบันนี้ ผู้คนวิ่งตามการค้ามากเกินไป ไม่สนใจต่อการพัฒนาอาชีพหัตถกรรม ผมไม่เคยได้ยินว่า จะมีการประกวดฝีมือช่างตีเหล็ก ดังนั้นผมก็ปรารถนาว่า ผู้ที่มีอำนาจจะสามารถช่วยให้คนรุ่นใหม่มีแนวความคิดเกี่ยวกับอาชีพนี้อย่างถูกต้อง อย่าละเลยให้อาชีพนี้สูญหายไปเพราะการฟื้นฟูเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก”
การพูดคุยกันได้หยุดลงชั่วคราวเพราะมีลูกค้าที่ถือบานพับประตูมาหาคุณหุ่ง ซึ่งดูเหมือนว่า พวกเขาสนิทกันมาก ลูกค้าคนนั้นบอกว่า เขาเป็นลูกค้าประจำของคุณหุ่งนานมาแล้วเพราะว่าคุณหุ่งมักจะรับซ่อมผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนหลายอย่าง อีกทั้งมีความเป็นกันเองด้วย สิ่งที่ทำด้วยมือมักจะมีคุณค่ามากกว่าทำด้วยเครื่องจักร ถ้าหากคุณหุ่งไม่ทำอาชีพนี้อีก เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปจ้างทำที่ไหนได้
แม้ฮานอยจะเปลี่ยนไปทุกๆวัน แต่เราก็ยังคงมองเห็นคุณค่าจากอดีตได้และหวังว่าในอนาคต ถนนหล่อแหร่นจะยังคงเป็นถนนที่มีชื่อเสียงเพราะการตีเหล็กของคุณเหงียนเฟืองหุ่งต่อไป ไม่ใช่แค่ถนนสายธรรมดาสายหนึ่งในกรุงฮานอย.
Hoa Ha - To Tuan - VOV5