ชาวเวียดนามในอาเซียนและความคาดหวังในปีใหม่ 2023
Hoàng Hải/VOV5 -  
(VOVWORLD) - มีชาวเวียดนามจำนวนมากที่กำลังอาศัยในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และไทย ซึ่งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีชาวเวียดนามดีเด่นหลายคนไม่เพียงแค่มีส่วนช่วยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศเจ้าบ้าน แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมแห่งมิตรภาพในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศและผู้คนเวียดนามสู่เพื่อนมิตรในภูมิภาค และในห้วงเวลาต้อนรับปีใหม่ปีแมว 2023 แห่งวสันตฤดู ขอเชิญท่านผู้ฟังพบปะกับชาวเวียดนามดีเด่นที่กำลังอาศัยในกลุ่มประเทศอาเซียนและรับฟังเกี่ยวกับความคาดหวังของพวกเขาในปีใหม่ 2023
“ปัจจุบัน ร้าน VT Namnueng ในจังหวัดอุดรธานีมีคนงานประมาณ 500 คน แต่ถ้ารวมคนงานในทุกจังหวัดจะมีกว่า 1,000 คน โดยทางร้านก็ได้สร้างงานทำให้แก่ชาวบ้านในจังหวัดอุดรธานีและพื้นที่โดยรอบ เช่น ปลูกผัก ปลูกกล้วย มะเฟือง แล้วจะรับซื้อเพื่อทำการแปรรูป สำหรับการประกอบธุรกิจในเวลาข้างหน้า ผมหวังว่าจะสามารถเปิดสาขาเพิ่มในประเทศเวียดนามแล้วจะส่งออกสินค้าจากเวียดนามไปยังต่างประเทศ ณ ตอนนี้ ผมกำลังหาคู่ค้าที่จะร่วมกันทำ หลังจากที่ต้องเลื่อนเวลาออกไปเนื่องจากวิกฤตโควิด-19”
ร้าน VT Namnueng |
นี่เป็นยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาย โห่วันเลิม หรือคุณทอง กุลธัญวัฒน์ เจ้าของเครือร้านอาหารปอเปี๊ยะ VT แหนมเนือง ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศไทย ซึ่งนาย โห่วันเลิม แม้ได้เกิดและเติบโตในประเทศไทย แต่มีใจรักในอาหารเวียดนามเป็นพิเศษ พร้อมได้รับรู้สูตรลับที่ตกทอดจากคุณปู่ ซึ่งเป็นพ่อครัวของราชวงศ์เหงียน ช่วยให้นายเลิมสามารถนำแหนมเนืองของกรุงเก่าเว้กลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมชมชอบจากทั้งชาวบ้านและพระราชวงศ์ของไทย ปัจจุบัน สาขาหลักของ VT แหนมเนือง ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี และมีสาขาย่อยใน 39 จังหวัดทั่วไทย พร้อมได้มีการส่งออกไปยังสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง และในฐานะเป็นประธานสมาคมนักธุรกิจไทย-เวียดนาม นายเลิมได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อการส่งเสริมกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางการค้าต่างๆ ระหว่างไทยกับเวียดนาม
“ในปี 2023 ผมหวังว่า บรรดาผู้นำของพรรคและรัฐจะมีการสนับสนุนมากขึ้นเพื่อนำสินค้าเวียดนามส่งออกไปยังประเทศไทย เพราะปัจจุบัน มีสินค้าไทยที่ได้ส่งออกไปยังเวียดนามเยอะมากแล้ว ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีสินค้าของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้ส่งออกไปยังไทยมากขึ้น โดยสมาคมนักธุรกิจไทย-เวียดนามพร้อมที่จะนำสินค้าเวียดนามไปขายให้แก่คนไทยและคนเวียดนาม”
คุณหมอ เลบ๊าหุ่ง ตรวจสุขภาพให้แก่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา (ภาพจาก nhandan.vn) |
ส่วนคุณหมอ เลบ๊าหุ่ง ชาวเวียดนามที่กำลังอาศัยในกัมพูชา แม่ไม่ได้เกิดและเติบโตในประเทศนี้ แต่เขายังคงตัดสินใจประกอบธุรกิจในดินแดนแห่งนี้หลังจากที่ได้ไปช่วยตรวจสุขภาพให้แก่คนรู้จักเมื่อ 16 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้น คุณหมอ เลบ๊าหุ่ง เห็นว่า โอกาสในการเข้าถึงการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีของทั้งชาวกัมพูชาและชาวเวียดนามที่อาศัยในกัมพูชายังมีน้อยมาก ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจฝ่าฟันอุปสรรคและความเสี่ยงทุกอย่าง เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาล Chak Angre ในกรุงพนมเปญ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลแห่งนี้ได้นำความสุขให้แก่ผู้ป่วยหลายพันคน รวมถึงผู้ป่วยที่ไม่สามารถชำระค่ารักษาพยาบาลได้ ภายหลังวิกฤตโควิด-19 คุณหมอ เลบ๊าหุ่ง มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้โรงพยาบาล Chak Angre มีความเป็นมืออาชีพและทันสมัยมากขึ้น เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของทั้งชาวกัมพูชาและชาวเวียดนามในพื้นที่ให้ดีขึ้น
“ในปีหน้า อย่างแรกคือ ปรับปรุงและอัพเกรดเครื่องมือแพทย์ เช่น ระบบเอกซเรย์ และระบบการทดสอบตามมาตรฐานของโรงพยาบาล Pasteur ในนครโฮจิมินห์ ส่วนอันที่สองคือ จ้างที่ปรึกษาครั้งที่สองเพื่อสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการต่างๆ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาความเชี่ยวชาญพิเศษที่เป็นจุดแข็งของพวกเรา สำหรับเรื่องคุณภาพ ต้องมีการคัดเลือกบุคลากรอย่างเคร่งครัด โดยต้องระบุงานที่แพทย์และพยาบาลต้องทำได้ ซึ่งตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ปัจจุบัน จำนวนเจ้าหน้าที่ชาวกัมพูชาในโรงพยาบาลมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 83 ซึ่งส่วนใหญ่ได้ศึกษาในเวียดนาม เช่น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ท้ายบิ่งห์หรือจ่าวิงห์”
โรงเหล็กหล่อ Khamhung Xaychalern (ภาพจาก vtc.vn) |
สำหรับชาวลาวและชุมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศลาว ต่างได้รู้จักคุณหุ่ง “เหล็กหล่อ” ซึ่งเป็นฉายานามของนาย ฝ่ามวันหุ่ง หรือนาย Khamhung Xaychalern ผู้จัดการโรงเหล็กหล่อ Khamhung Xaychalern ซึ่งเป็นโรงเหล็กหล่อที่ใหญ่ที่สุดในลาวและมีผู้แทนจำหน่ายขนาดใหญ่รวม 14 รายทั่วประเทศ หลังได้ปลดจากทหารกองประจำการ นายหุ่ง ซึ่งเป็นคนจังหวัดท้ายบิ่งห์ ได้เดินทางไปประเทศลาวและประกอบอาชีพหลายอย่างก่อนที่เริ่มดำเนินธุรกิจเหล็กเมื่อปี 2001 ถึงแม้ได้เป็นมหาเศรษฐีในอุตสาหกรรมเหล็กแล้ว แต่นักธุรกิจชาวเวียดนาม ฝ่ามวันหุ่ง ยังคงมีความประสงค์ที่จะมีส่วนช่วยมากขึ้นให้แก่ประเทศลาว รวมถึงการสร้างชุมชนชาวเวียดนามในลาวให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นสะพานเชื่อมแห่งความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษ และความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างเวียดนามกับลาว
“เมื่อเดินทางกลับเวียดนาม ผมเห็นว่า มีการเปลี่ยแปลงหลายอย่าง เช่น มีตึกสูงที่ผุดขึ้น รวมถนนหนทางและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มีการพัฒนามากกว่าสมัยก่อน ส่วนการเดินทางก็สะดวกสะบายมากขึ้น เวียดนามและลาวเป็นสองประเทศที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ในยามสงคราม และในยามสงบสุข เมื่อเวียดนามได้มีการพัฒนาขนาดนี้ พวกเราชาวเวียดนามที่อาศัยในลาวก็หวังว่า ทั้งสองพรรคและรัฐจะให้การสนับสนุนเพื่อช่วยพัฒนาประเทศลาวตามเส้นทางสู่สังคมนิยมร่วมกับเวียดนามได้อย่างมั่นคง”
ทั้งนี้ ภูมิภาคอาเซียนยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในนโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม โดยความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับกลุ่มประเทศอาเซียนได้รับการเสริมสร้างในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับส่วนช่วยไม่น้อยจากชุมชนชาวเวียดนาม รวมถึงตัวอย่างชาวดีเด่น เช่น นาย โห่วันเลิม คุณหมอ เลบ๊าหุ่ง หรือนาย ฝ่ามวันหุ่ง ซึ่งพวกเขายังคงทุ่มเททำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำเพื่อสะท้อนคุณค่าและบุคลิกภาพที่ดีงามของชาวเวียดนามสู่สายตาเพื่อนมิตรในภูมิภาค.
Hoàng Hải/VOV5