(VOVworld) –  ท่านผู้ฟังคะ ตระกูลหมั่วชนเผ่าม้งเป็นตระกูลที่มีเกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติในเขตเขาสิ่นโห่ จังหวัดลายโจว์ ทางเขตตะวันตกเฉียงเหนือเวียดนาม ลูกหลานของตระกูลหมั่วสืบทอดเกียรติประวัติของบรรพบุรุษกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าเพื่อมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ

เมืองสิ่นโห่(Photo:laichau.tourizm.vn)

เช่นเดียวกับชุมชนชาวม้งในอำเภอสิ่นโห่ ตระกูลหมั่วมีความผูกพันกับเขตเขาสูงมาหลายร้อยปี ก่อนการปฏิวัติซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเนื่องจากการกดขี่ขูดรีดของนักล่าเมืองขึ้นและพวกศักดินา จนบรรดาผู้ชายในตระกูลหมั่วต่างลุกขึ้นเพื่อเข้าร่วมการปฏิวัติ เดินตามพรรคขับไล่ศัตรูผู้รุกรานเพื่อพิทักษ์รักษาหมู่บ้าน นายฟู้วันงวานหัวหน้าเขตชุมชนหมายเลข๒ เมืองสิ่นโห่ให้ข้อสังเกตุว่า“คนตระกูลหมั่วเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามแนวทาง นโยบายของพรรค และกฎหมายของรัฐ พวกเขาให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันและมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน” หลังวันปลดปล่อยสิ่นโห่เมื่อปี๑๙๕๔ ตระกูลหมั่วมีกว่า๓๐ครอบครัว และมี๑๐คนเข้าเป็นทหารรับใช้การปฏิวัติเวียดนามและลาว รวมทั้งวีรชนกองกำลังติดอาวุธหมั่วอาป๊าวที่เข้าร่วมการปฏิวัติตั้งแต่อายุน้อยและเคยดำรงตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักรบปฏิวัติเวียดนาม ผู้บัญชาการหรือทหารปลดปล่อย ณ สมรภูมิลาว และได้สร้างวีรกรรมมากมายให้แก่การปฏิวัติจนได้รับการประกาศสดุดีเป็นวีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชนและได้รับเกียรติเข้าพบประธานโฮจิมินห์สองครั้ง ปัจจุบัน แม้จะมีอายุมากแล้วแต่สำหรับนายหมั่วอาป๊าว ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาทำการเคลื่อนไหวปฏิวัติยังย้ำเตือนให้ตัวเขาและลูกหลานส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งวีรภาพต่อไป“ตอนไปสร้างฐานปฏิวัติที่ประเทศลาว ผมถูกโจรป่าจับและทารุณกรรมอย่างเหี้ยมโหดป่าเถื่อน ตามโอวาทของประธานโฮจิมินห์ ผมยังคงมีจิตใจเด็ดเดี่ยว และพยายามศึกษาและสู้รบเพื่อพิทักษ์รักษาปิตุภูมิอยู่เสมอ”   จากการปฏิบัติตามตัวอย่างของวีรชนหมั่วอาป๊าว นายหมั่วอาตั๋วซึ่งเป็นหลานคนหนึ่งของตระกูลหมั่วได้ร่วมกับพี่น้องคนอื่นๆได้เดินตามการปฏิวัติ เป็นทหารบ้านต่อต้านโจรป่าในอำเภอสิ่นโห่ ต่อจากนั้นก็เข้าประจำการเป็นทหาร และกลายเป็นทหารอาสาเวียดนามในสมรภูมิต่างๆ และได้สร้างวีรกรรมอย่างใหญ่หลวงจนได้รับมอบเหรียญอิสริยาภรณ์อันสูงส่งจากพรรคและรัฐ  ภายหลังปลดประจำการ เขาดำรงตำแหน่งต่างๆ เช่น นายอำเภอสิ่นโห่และนายกสมาคมทหารผ่านศึกอำเภอ แต่ไม่ว่าในตำแหน่งใด นายหมั่วอาตั๋วยังคงปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างลุล่วงไปด้วยดีและสั่งสอนลูกหลานให้ส่งเสริมเกียรติประวัติของตระกูลหมั่ว มีความสามัคคีเพื่อสร้างสรรค์ถิ่นเกิด นายหมั่วอาตั๋วกล่าวว่า“ก่อนการปฏิวัติ นักล่าเมืองขึ้นและพวกศักดินาจับตัวผู้ชายจำนวนมากเพื่อใช้แรงงาน ผมลุกขึ้นเดินตามการปฏิวัติและเห็นว่า ต้องยืนหยัดพิทักษ์รักษาถิ่นเกิดและประเทศ หมั่วอาป๊าวเป็นอาของผม ผมศึกษาตามตัวอย่างของท่านที่มีความอดทน และเด็ดเดี่ยว ผมสั่งสอนให้ลูกหลานให้ส่งเสริมเกียรติประวัติอันดีงามนั้นอยู่เสมอ”   นับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงแห่งการปฏิวัติปี๑๙๔๕ มีคนตระกูลหมั่วนับสิบคนที่ได้เป็นเจ้าหน้าที่บริหารระดับอำเภอและตำบลและ ปัจจุบันมีลูกหลานกว่า๓๐คนที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆ  นอกจากนี้ ตระกูลหมั่วยังเดินหน้าในการสร้างสรรค์วิถีชีวิตที่มีวัฒนธรรมและรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติ คุณหมั่วถิ่มาย หลานของนายหมั่วอาตั๋วกล่าวว่า“ดิฉันเป็นหลานของปู่หมั่วอาตั๋ว ดิฉันรู้สึกมีความศรัทธาต่อคุณปู่ที่มีความรักต่อประชาชนที่ถูกกดขี่ขูดรีดผ่านเรื่องเล่าในครอบครัวเกี่ยวกับสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกรานสองครั้ง ท่านได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีงามที่สุดให้แก่ถิ่นเกิด เป็นเจ้าหน้าที่บริหารที่ได้รับความนับถือและเป็บแบบอย่างเพื่อให้ลูกหลานในตระกูลหมั่วศึกษาและปฏิบัติตาม”  จากส่วนร่วมของตน ตระกูลหมั่วจึงได้รับหนังสือชมเชยจากพรรค รัฐ ทางการปกครองทุกระดับที่จังหวัดลายโจว์ ความประพฤติที่มีความหมายของตระกูลหมั่วที่มีเกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติเป็นตัวอย่างเพื่อให้ประชาชนสิ่นโห่ปฏิบัติตามในการสร้างสรรค์และพัฒนาถิ่นเกิด./.