(VOVworld)-ฮานอยมีย่านถนนโบราณ36สายและถนนแต่ละสายจะผูกพันธ์กับอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นแม้จะมาที่นี่เป็นครั้งแรกแล้วยังไม่ทันสังเกตุป้ายชื่อถนนนักท่องเที่ยวก็สามารถเดาออกว่านี่คือถนนอะไรเมื่อเห็นสินค้าที่ขายหรือเสียงกิจกรรมต่างๆในถนนนั้นๆ สำหรับถนนห่างบาก ในอดีตเป็นหมู่บ้านทำเครื่องเงินและถือเป็นย่านที่ร่ำรวยที่สุดของกรุงทังลอง จนถึงทุกวันนี้แม้อาคารบ้านเรือนและร้านค้าจะมีความคึกคักกว่าก่อนแต่ผู้คนที่อาศัยในเขตนี้ยังคงอนุรักษ์อาชีพที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ค่อนข้างสมบูรณ์

ถนนห่างบาก ตั้งอยู่กลางย่านโบราณในเขตหว่านเกี๊ยมกรุงฮานอย แม้ผ่านความผันผวนของกาลเวลามาหลายศตวรรษแต่ถนนสายนี้ยังคงความงามแบบสุขุมพร้อมวิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบดั้งเดิม โดยส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านก่ออิฐหลังคามุงกระเบื้องสีแดง รวมทั้งวิหารศาลเจ้าที่บูชาบรรพชนผู้สร้างอาชีพพื้นเมืองที่นี่ที่ตั้งอยู่กลางเขตชุมชน อย่างเช่นวิหารกิมเงิน ซึ่งเป็นกิจการในยุคหลังราชวงเลช่วงปี1428-1527 ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาร่องรอยต่างๆเกี่ยวกับอาชีพการทำเครื่องเงินเครื่องทองในกรุงทังลอง โดยข้อมูลที่ระบุได้แสดงให้เห็นว่าชุมชนที่นี้คือรุ่นที่ได้สืบทอดอาชีพจากกลุ่มช่างทำเครื่องเงินเครื่องทองกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งหลักปักฐานในพื้นที่แห่งนี้และที่น่าสนใจคือครอบครัวต่างๆในแถบนนี้ยังคงมีการติดต่อสัมพันธ์กับวงตระกูลเครือญาติในท้องถิ่นและหมู่บ้านที่มีการประกอบอาชีพทำเครื่องเงินโบราณ นาย ฝามฮวิยูง หนึ่งในผู้ที่อาศัยในเขตนี้มานานปีเผยว่า“ช่วงศตวรรษที่15-16 มีขุนนางลิวซวนติ๊น ชาวบ้านเจาเคจ.หายเยืองได้รับมอบหมายให้ทำเครื่องเงินเขาก็เลยพาช่างเงินที่มีฝีมือจากหมู่บ้านของเขาและจากที่อื่นเช่นหมู่บ้านด่งเซินจ.ท้ายบิ่งห์และหมู่บ้านดิ๋งกงมาตั้งกลุ่มที่นี่เพื่อประกอบอาชีพทำเครื่องเงิน”

ปัจจุบันนี้ ถนนห่างบากที่ยาวเพียง0.5กิโลเมตรแต่มีร้านขายเครื่องเงินและประกอบอาชีพทำเครื่องเงินเป็นร้อยร้าน ซึ่งนอกจากการใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยในการผลิตแล้วที่นี่ก็ยังมีร้านที่ใช้เทคนิกดั้งเดิมคือทำด้วยมือล้วนๆอย่างเช่นช่างศิลป์เหงวียนชี้แถ่งที่ร้านห่งเจาเลขที่83ถนนห่างบาก เขาเผยว่า“นี่เป็นอาชีพที่เราสืบทอดกันมาหลายรุ่นแล้ว ซึ่งถือเป็นมรดกที่มีค่ามาก นอกจากนั้นเมื่อประกอบอาชีพนี้แล้วก็ต้องรักและหลงไหล ปัจจุบันหลายคนอาจยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอาชีพหัตถกรรมและหัตถกรรมกึ่งอุตสาหกรรม ที่ถนนสายนี้มีร้านขายเครื่องเงินจำนวนมากแต่มีของหลายอย่างที่ดูเหมือนกันหมดไม่มีจุดเด่นเพราะเขาทำด้วยเครื่อง ส่วนเราทำทุกอย่างด้วยฝีมือจึงมีเอกลักษณ์และยังสามารถทำรายได้จากอาชีพนี้ได้ดี”

ไม่เพียงแต่ได้อนุรักษ์อาชีพที่มีคุณค่าของบรรพบุรุษไว้ได้เท่านั้นหากชาวห่างบากยังคงสามารถธำรงวิถีชีวิตแบบเดิมไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยหลายครอบครัวแม้จะทำมาค้าขึ้นมีเงินทองเหลือใช้แต่ชีวิตก็ยังเป็นไปแบบเรียบง่ายให้ความสำคัญต่อศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของตน ให้ความช่วยเหลือคนอื่นอย่างเต็มใจ โดยเฉพาะเมื่อเอ่ยถึงย่านห่างบากก็มีคำที่เล่าสู่กันมาว่า “สาวย่านห่างบาก”ซึ่งหมายถึงการยกย่องชื่นชมว่าสาวย่านห่างบากนี้งามทั้งกายและใจ เก่งในการค้าขายและดูแลครอบครัวให้มีความสุข ปัจจุบันนี้ในขณะที่หลายครอบครัวได้ใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่ที่ให้เวลาในการอยู่ร่วมกันน้อยมากเพราะหลายเหตุผล แต่ในย่านถนนห่างบากนี้ยังคงมีหลายครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันหลายรุ่นและยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมไว้ได้ นางหว่างถิเค อายุเกือบ80ปี อาศัยในย่านนี้ได้กล่าวว่า“ครอบครัวของเรารวมหลายรุ่นได้อยู่ใกล้กันแถวนี้ ซึ่งในบ้านยังคงเก็บรักษาสิ่งของต่างๆที่เป็นอนุสรณ์ของบรรพบุรุษ รวมถึงบรรยากาศการใช้ชีวิตและการปฏิบัติต่อกันของคนในครอบครัวที่สนิทอบอุ่นและสนุกสนานมาก แม้ทุกวันนี้สมาชิกในครอบครัวจะเพิ่มขึ้นมากทำให้พื้นที่อาศัยแคบลงแต่เราก็ยังคงสงวนพื้นที่ส่วนหนึ่งใช้เป็นห้องบูชาบรรพชนตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

ในยามค่ำคืนถนนสายนี้ดูเหมือนสว่างไสวกว่าถนนอื่นๆเพราะแสงสะท้อนแสงจากเครื่องเงินที่วางโชว์ตามตู้กระจกที่ตั้งไว้ตรงหน้าร้าน นอกจากนี้แล้วเมื่อสังคมพัฒนาความต้องการเพิ่มมากขึ้นก็มีร้านขายของอื่นๆปรากฎขึ้นไม่ว่าจะเป็นร้านขายเสื้อผ้า ภาพวาด บริษัททัวร์ หรือบาร์ที่คึกคักด้วยนักท่องเที่ยวต่างๆชาติในทุกค่ำคืน ซึ่งแม้บรรยากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากแต่โดยรวมแล้ว ถนนห่างบาก ยังคงรักษาบรรยากาศของย่านค้าขายดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี ช่วยสร้างเป็นแรงดึงดูดใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเมื่อมีโอกาสมาเที่ยวย่านโบราณฮานอย.