นับตั้งแต่ที่โควิด-19 แพร่ระบาดที่หมู่บ้าน แคหมั่น ผู้คนที่มาที่นี่น้อยลงส่วนใครที่มาซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนอะไร ทุกคนก็ปฏิบัติตามข้อกำหนด "5K"

จากถนนใหญ่ ผ่านลำธารเล็กๆ หมู่บ้าน แคหมั่น เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านอื่นๆ ของตำบล โด่นดาก อำเภอเขตเขา บาแจ๋ ในภาคตะวันออกของจังหวัดกว๋างนิงห์ นับตั้งแต่ที่โควิด-19 แพร่ระบาดที่นี่ แคหมั่น ผู้คนที่มาที่นี่น้อยลงส่วนใครที่มาซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนอะไร ทุกคนก็ปฏิบัติตามข้อกำหนด "5K" โดยเฉพาะคนในหมู่บ้านได้ปฏิบัติจนกลายเป็นความเคยชิน  นาย ชิ้วซ้างหวิ่ง เผยว่า เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาที่หมู่บ้าน ชาวบ้านจะใช้ความระมัดระวังเมื่อต้องพูดคุย เพราะข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดได้กลายเป็นกฎเกณฑ์ของหมู่บ้าน

“ตอนนี้ ถ้าหากรู้สึกหายใจลำบากก็ต้องดูแลและอยู่แต่ที่บ้าน หากมีอาการไอหรือไม่สบายต้องแจ้งสถานีอนามัยและทีมโควิดในชุมชนเพื่อป้องกันให้เกิดการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัว”

นาง ดั่งกิมเฟือง พร้อมลูกหลานที่พากันไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ยังคงสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกไปข้างนอก เหมือนไม่ลืมผ้าโพกศีรษะหลากสีของชนเผ่าเย้าในแทงฟ้าน

“ดิฉันเตือนเพื่อนบ้าน ลูกๆ หลานๆ ว่าถ้าออกข้างนอกต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และช่วยกันเตือนให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด”

นับเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในธรรมนูญหมู่บ้าน แคหมั่น  ปัจจุบัน บ้านของชนเผ่าเย้ากว่า 90 หลัง รวมชาวบ้านประมาณ 300 คนต่างรู้หลักการ “ความปลอดภัย 3 ข้อ” ได้แก่ บุคคลปลอดภัย ครอบครัวปลอดภัย ชุมชนปลอดภัย ผ่านข้อกำหนดง่ายๆ จำง่ายและปฏิบัติตามได้ง่าย เช่น "การปฏิบัติตามมาตรการ 5K" "การฉีดวัคซีน" "การดูแลตนเอง" หรือการแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเมื่อพบผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ ซึ่งหลักการเหล่านี้ต่างได้รับความเห็นพ้องจากชาวบ้านเพื่อเพิ่มเติมกฎเกณฑ์ของหมู่บ้าน  หมู่บ้านยังจัดตั้งกลุ่มครอบครัว 6 กลุ่มเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งกลุ่มนี้ยังมีส่วนช่วยเชื่อมโยงกลุ่มครอบครัวให้ใกล้ชิดกัน คัดเลือกผู้ที่ได้รับการนับถือ เช่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าองค์กรและทีมต่างๆ กลุ่มครอบครัวไม่เพียงแต่ติดตามการเคลื่อนไหวของคนในพื้นที่เท่านั้น หากยังสนับสนุนกัน ตั้งแต่การไปตลาดและซื้ออาหารในช่วงกักตัว ไปจนถึงการดูแลและเยี่ยมผู้ป่วย นาย เจี่ยวกวัยแถ่ง หัวหน้าคณะปฏิบัติงานด้านแนวร่วมปิตุภูมิของหมู่บ้านแคหมั่น ได้ทำหน้าที่พูดคุยและประชาสัมพันธ์กฎเกณฑ์ใหม่ให้ชาวบ้านได้ทราบ เพิ่มความตระหนักและความรับผิดชอบของชาวบ้านในการป้องกันโรคระบาด การตรวจสอบและดูแลชาวบ้านเพื่อมีมาตรการรับมืออย่างทันท่วงที นาย เจี่ยวกวัยแถ่ง ยืนยันว่า

“ต้องระบุให้เป็นกฎระเบียบของหมู่บ้าน เพื่อเผยแพร่สู่ประชาชนเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด ในการประชุมของพรรคสาขาหมู่บ้านก็ต้องระบุเนื้อหานี้ ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับโรคระบาด ตอนนี้ ในหมู่บ้าน ชาวบ้านทุกคนมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ เมื่อตัดสินใจแล้ว ทุกคนต้องปฏิบัติตามด้วยความสมัครใจ”

นาย หว่างหงอกเกวียน หัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์มวลชนของพรรคสาขาอำเภอ ประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามอำเภอบาแจ๋เผยว่า ด้วยลักษณะของพื้นที่ที่บ้านเรือนตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจาย ประชากรกว่าร้อยละ 80 เป็นชนกลุ่มน้อยดั่ง ทำให้วิธีการปฏิบัตินี้มีความหมายที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามและผู้ที่ได้รับการนับถือในหมู่บ้าน กฎเกณฑ์และข้อกำหนดใหม่ได้ค่อยๆเข้าสู่ชีวิต เพื่อให้คนทุกกลุ่มชาติพันธุ์สามารถส่งเสริมบทบาทของตน มีความสามัคคี เป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ นาย หว่างหงอกเกวียน ย้ำว่า

“การปฏิบัติเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเป็นผลมาจากการดูแลตัวเองของประชาชนและหมู่บ้าน จิตใจแห่งความรับผิดชอบของกลุ่มโควิดในชุมชน โดยเฉพาะ กลุ่มครอบครัว 391 กลุ่มที่จัดตั้งขึ้นในวันงานกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในเวลาที่ผ่านมา เราเห็นว่า กลุ่มนี้มีประสิทธิภาพมาก ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มครอบครัวและกลุ่มโควิดในชุมชนมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก จึงมีส่วนร่วมทำให้พื้นที่สีเขียว บาแจ๋ มีความปลอดภัย”

ไม่เพียงแต่แคหมั่น แต่ประชาชนในเขตชุมชนและหมู่บ้านกว่า 1,540 แห่งของจังหวัดกว๋างนิงห์ได้เห็นด้วยให้มีการ เพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคระบาดเข้าธรรมนูญหมู่บ้าน โดยในโอกาสวันกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2021 ได้มีการจัดตั้งและเปิดตัวกลุ่มครอบครัวป้องกันโควิด-19 ด้วยตนเองเกือบ 15,500 กลุ่มในจังหวัด ซึ่งเป็นกิจกรรมและวิธีการปฏิบัติใหม่ของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม จ.กว๋างนิงห์ เพื่อปรับตัวอย่างปลอดภัย ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่น./.