กองทัพมาช่วยเหลือครอบครัวยากจน

เขต 7 ตั้งอยู่ใกล้เขตแปรรูปเพื่อการส่งออกและอยู่ห่างจากใจกลางนครโฮจิมินห์ไม่มากนัก เป็นที่ตั้งของหอพักของครอบครัวจำนวนมากที่ทำงานเป็นคนงานและทำงานอิสระ ในเวลาที่ผ่านมา เมื่อทางการนครฯปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด  ชีวิตของครอบครัวที่นี่ประสบอุปสรรคมากมายเพราะคนกลุ่มนี้ขาดรายได้ อาหารประทังชีวิตส่วนใหญ่ได้รับจากทางการปกครองท้องถิ่นและจากกลุ่มจิตอาสา ดังนั้น เมื่อกองทัพลงมาช่วยเหลือเพื่อนำเงินและข้าวปลาอาหารไปมอบให้แก่ประชาชนในทุกซอกทุกซอย ประชาชนต่างรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก นาง โด๋ ถิหลัว อายุ 65 ปี ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดท้ายบิ่ง ซึ่งกำลังเช่าบ้านในเขตเตินฮึงเผยว่า

“ครอบครัวดิฉันมาจากภาคเหนือ มาที่นี่ทำงานอิสระ ประสบความยากลำบากมาก การแพร่ระบาดทำให้ทำงานไม่ได้ ไม่มีรายได้มา 3 เดือนแล้ว เราได้รับผัก ผลไม้ และข้าวแล้ว แต่ตอนนี้ได้รับเงินสดเป็นครั้งแรก เราได้รับการดูแลเอาใจใส่จากกองทัพ พวกเรารักและเชื่อมั่นในกองทัพที่ทำเพื่อประชาชนในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดในครั้งนี้"

เช่นเดียวกับความรู้สึกดังกล่าว ครอบครัวที่มีสมาชิก 7 คนของนาย ฝ่าม ต้วน เกียดในท่าเรือเวินด่น เขต 4 รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมากเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพภาคที่ 7 มามอบถุงยังชีพ รวมทั้งสิ่งของที่จำเป็นและเงินสด 1 ล้านด่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น ชีวิตของครอบครัวนาย เกียด ลำบากมากเนื่องจากไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มจิตอาสา เช่นเดียวกับอีกหลายร้อยครอบครัวในพื้นที่ที่ได้รับถุงยังชีพจากกองทัพในโอกาสนี้ นาย ฝ่ามต๊วนเกียด รู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการร่วมมือกับชุมชนปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดที่เข้มงวดมากขึ้นต่อไป

“โรคแพร่ระบาดเป็นเวลานานจนไม่มีอาหารและเงินเพื่อดำรงชีวิต ห้องพักนี้เจ้าของบ้านได้ยกเว้นค่าเช่า 1 เดือน และค่าไฟและค่าน้ำก็ค้างชำระเช่นกัน อันที่จริง ตอนนี้ผมรู้สึกมีความสุขและมั่นใจมากขึ้น เพราะในเวลานี้ ถ้าหากไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐและการช่วยเหลือของกองทัพ ก็คงไม่สามารถฟันฝ่าช่วงเวลาที่ลำบากนี้ไปได้”

กองทัพเตรียมสิ่งของช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อมอบให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่ทหารกว่า 4,200 นายจากหน่วยทหารต่างๆของกองทัพภาคที่ 7 กองทัพภาคที่ 9 แพทย์และพยาบาลหลายร้อยนายจากหน่วยเสนารักษ์ของกระทรวงกลาโหมถูกระดมไปให้การช่วยเหลือนครโฮจิมินห์  นอกจากการสนับสนุนด้านการขนส่งอาหารและของจำเป็นให้แก่เขตชุมชนอย่างเข้มแข็งแล้ว กองทัพยังมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ดูแลเรื่องความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและช่วยเหลือประชาชน พันโท เหงียนเฟือกจุงโห่ว รองหัวหน้าฝ่ายการเมือง 302 กองทัพภาคที่ 7 ได้ยืนยันว่า

“ตามข้อกำหนดของแต่ละเขตและแขวง ทุกวันเรามีหน้าที่ประจำที่ต้องปฏิบัติ นอกจากนี้ เรายังส่งเจ้าหหน้าที่ไปรับและส่งของที่จำเป็นจากเขตและแขวงไปให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ เรายังมีหน่วยแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือการตรวจหาเชื้อในท้องถิ่น”

การเข้าร่วมและการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีของกองทัพในศูนย์กลางการแพร่ระบาดในนครโฮจิมินห์กำลังเพิ่มความมั่นใจและความแข็งแกร่งเพื่อให้ทางการปกครองท้องถิ่นและประชาชนที่นี่ยืนหยัดต่อสู้ พยายามปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมสถานการณ์และมุ่งสู่การขจัดการแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็ว.