ผู้ที่นับถือศาสนคริสต์ในหมู่บ้าน เปล เมอ นู้ (Plei Mơ Nú) ใช้ชีวิตที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรม

หมู่บ้าน เปล เมอ นู้ มีกว่า 330 ครอบครัวซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ในวันพุธและวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์ ชาวบ้านจะมารวมตัวกันที่โบสถ์ เปล เมอ นู้ เพื่อประกอบศาสนกิจ แต่ชาวบ้านจะมาประกอบศาสนกิจมากที่สุดในวันอาทิตย์ กิจกรรมทางศาสนา เช่นคริสต์มาสและงานเทศกาลของสมาคมคริสต์ศาสนาล้วนแต่ปฏิบัติตามกฎหมาย ศิษยาภิบาล Blik ในโบส์ถ เปล เมอ นู้ ได้เผยว่า

 “คณะกรรมการด้านศาสนาจังหวัดยาลายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาคมคริสต์ศาสนาในท้องถิ่น ตำรวจในตำบลมาเยี่ยมเยือน อวยพรในโอกาสวันคริสต์มาส ผมมาที่นี่เมื่อปี 2014 ที่นี่มีความมั่นคง รัฐอำนวยความสะดวกให้แก่การประกอบศาสนกิจ ผมสอนคำสอนจากพระคัมภีร์ให้แก่ชาวบ้านคือต้องใช้ชีวิตที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรม ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบในการสร้างครอบครัวที่มีความผาสุก สร้างสรรค์ประเทศให้พัฒนาและไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี”

ตอนเช้าทุกวัน ในพิธีประกอบศาสนกิจ ชาวบ้านจะร้องเพลงสวดมนต์ ขอบคุณพระเจ้าที่บรรดาลสุขภาพที่ดีและสติปัญญาให้แก่พวกเขารับฟังพระคัมภีร์ หลังจากทำพิธีเสร็จ ชาวคริสต์ทุกคนรู้สึกสบายใจ มีกำลังใจเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและมีความหวังเกี่ยวกับชีวิตที่สดใสมากขึ้น นาง รีนา ชาวบ้าน เปล เมอ นู้ เล่าให้ฟังว่า

“ดิฉันไปโบสถ์สัปดาห์ละสองครั้ง วันพุธไปโบสถ์ตอนบ่าย วันจันทร์และวันเสาร์ฝึกร้องเพลง ตอนเช้าวันอาทิตย์มีคนไปโบสถ์มากที่สุดเพราะเป็นวันหยุด ดิฉันจำไว้ว่า วันอาทิตย์เป็นวันแห่งพระเจ้า วันพฤหัสบดีแห่งความเคารพพ่อแม่ ในพระคัมภีร์มีบัญญัติ 10 ประการ เช่นอย่าโกหก พูดความจริง อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่าโลภ อย่าเอาสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเอง เป็นต้น”

ชาวบ้านบริจาคข้าวให้คริสตจักรเพื่อช่วยเหลือผู้ยากจน

เมื่อชาวบ้านมีงานเช่นงานแต่งงาน งานศพ ศิษยาภิบาลจะไปเยี่ยมเยือนและทำพิธีให้ รวมถึงทำพิธีคลอดบุตร ส่วนใครที่ต้องการสารภาพบาปก็สามารถมาสารภาพกับศาสนาจารย์ ในหมู่บ้านผู้ที่มีฐานะดีก็พร้อมช่วยเหลือผู้ที่ประสบความยากลำบาก โดยมีประเพณีที่ดีงามและมีมนุษยธรรมในหมู่บ้าน เปล เมอ นู้ คือการบริจาคเงินและข้าวเมื่อไปโบสถ์เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากจนในหมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีสมณศักดิ์และชาวคริสต์จึงมีความใกล้ชิดกันมาก นาย เห นีม ชาวบ้านของหมู่บ้าน เปล เมอ นู้ ได้เผยว่า

“ที่หมู่บ้าน ทุกครั้งเมื่อหุงข้าว ทุกครอบครัวจะใส่ข้าวสารหนึ่งกำมือลงในไหและนำข้าวสารนี้ไปสมทบที่โบส์ถทุกสัปดาห์เพื่อให้โบส์ถนำไปแจกจ่ายให้แก่คนยากจน ส่วนเรื่องเงินนั้นก็ขึ้นอยู่กับจิตศรัทธาของแต่ละคนที่จะบริจาค สำหรับเงินบริจาคนี้ ทางคริสตจักรนำไปใช้ในการก่อสร้าง การปรับปรุงซ่อมแซมหรือใช้สำหรับวันงานสำคัญ ผมได้ให้ชาวบ้าน 5 - 6 คนยืมเงิน บางคนจ่ายคืนช้า ผมก็ไม่คิดดอกเบี้ย พวกเขามายืมเงินเพื่อซื้อแพะ หมูและรถมอเตอร์ไซค์”

เพื่อร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ชนบทใหม่ คนในหมู่บ้านได้ปลูกกาแฟ พริกไทยและข้าว นอกจากนั้น ยังเลี้ยงวัว สัตว์ปีกและปลา ขณะนี้ ชีวิตของชาวบ้านลำบากน้อยกว่าเมื่อก่อน และบางครอบครัวก็มีฐานะที่ดีขึ้น นาย Djơnh ชาวบ้า เปล เมอ นู้ ได้เผยว่า

“ชาวบ้าน เปล เมอนู้ มีชีวิตที่มั่นคง ชาวบ้านที่ทำงานอยู่ห่างไกลมีไม่กี่คน บางคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม จ่าดา ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 4 กม. ครอบครัวผมปลูกกาแฟในพื้นที่ 1 เฮกตาร์ มีต้นพริกไทยหลายร้อยต้น มีนาข้าวเกือบ 2 พันตารางเมตร มีรายได้เฉลี่ย 150 ล้านด่งต่อปี เมื่อหักค่าใช้จ่าย จะเหลือกำไร 50 ล้านด่ง”

ชาวบ้าน เปล เมอ นู้ ใช้ชีวิตที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ความเคารพรักพระเจ้า รักชาติ ประกอบศาสนกิจตามกฎหมาย ขยันหมั่นเพียรในการทำงานการผลิต ชีวิตที่สงบสุขกำลังเวียนมาในหมู่บ้านเปล เมอ นู้.