พัฒนาแหล่งบุคลากรของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม

(VOVWORLD) -ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมจนถึงปี 2030 ได้กำหนดเทคโนโลยีการผลิตไมโครคอนโทรลเลอร์และชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักสำหรับการกำหนดแนวทางการพัฒนาในทศวรรษที่จะถึง โดยตั้งเป้าไว้ว่า รายรับจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนามจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้าน -3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030    ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ  เพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ เวียดนามต้องการวิศวกรอย่างน้อย 5 หมื่นคนในปี 2030 เพิ่มขึ้น 10 เท่าเมื่อเทียบกับตัวเลขในปัจจุบัน เพื่อถูกระบุในแผนที่เซมิคอนดักเตอร์โลก ดังนั้น การพัฒนาแหล่งบุคลากรให้แก่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ
 
 
พัฒนาแหล่งบุคลากรของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม	 - ảnh 1นาย เจิ่นจูงติ๊ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ (Photo: เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเกิ่นเทอ)

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นับวันมีบทบาทที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก โดยรายรับจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อยู่ที่กว่า 5 แสน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023 และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนสถานะในตลาดหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และการแข่งขันระหว่างประเทศใหญ่ๆ เวียดนามได้รับการประเมินว่า เป็นประเทศที่มีโอกาสและปัจจัยที่จำเป็นเพื่อพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และมีศักยภาพยกระดับสถานะในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก

จากโอกาสใหญ่นี้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติโครงการพัฒนาแหล่งบุคลากรของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จนถึงปี 2030 แนวทางจนถึงปี 2050 นาย ด่าวจ่องโด ตัวแทนของกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมได้เผยว่า 

“รัฐบาลมีแนวทางพัฒนาศูนย์ 3 แห่งใน 3 ภาคเพื่อเอื้อให้แก่มหาวิทยาลัยในภาคต่างๆเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่  ซึ่งในระยะแรก โรงเรียน 45 แห่งที่ได้รับการคัดเลือกไม่เพียงแต่ฝึกอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อตอบสนองความต้องการของภายในประเทศเท่านั้นหากยังมีทักษะความสามารถที่เทียบเท่ากับภูมิภาคและโลกอีกด้วย”

จนถึงขณะนี้ เวียดนามมีสถานประกอบการประมาณ 50 แห่งที่ประกอบธุรกิจด้านการออกแบบไมโครชิป ซึ่งส่วนใหญ่คือสถานประกอบการเอฟดีไอที่ประกอบธุรกิจด้านเซมิคอนดักเตอร์จากประเทศและดินแดนต่างๆ เช่น สหรัฐ สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ประเทศจีนและเนเธอแลนด์ โดยมีวิศวกรเกือบ 5 พันคน ส่วนบริษัทต่างๆภายในประเทศ เช่น เวียดเทล เอฟพีที และ VNChip ก็ได้เข้าร่วมตลาด คาดว่า ในปีนี้ รายรับจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนามจะอยู่ที่กว่า 6.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อเข้าร่วมขั้นตอนต่างๆของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างกว้างลึก  นอกจากความช่วยเหลือของรัฐบาลแล้ว สถานประกอบการเวียดนามได้เน้นพัฒนาแหล่งบุคลากรเพื่อไม่พลาดโอกาสในด้านนี้ โดยมหาวิทยาลัยและสถานประกอบการประสานงานกันเพื่อพัฒนาวิศวกรระดับสูง  นาย เจิ่นจูงติ๊ง อธิการบดี มหาวิทยาลัยเกิ่นเทอได้เผยว่า

“พวกเราพร้อมเชิญสถานประกอบการมาร่วมกับทางโรงเรียนฝึกอบรม นักศึกษาสามารถเรียนตามหลักสูตรของโรงเรียนและโปรแกรมของสถานประกอบการ เมื่อเรียนจบ พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว”

พัฒนาแหล่งบุคลากรของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม	 - ảnh 2มหาวิทยาลัยและสถานประกอบการประสานงานกันเพื่อพัฒนาวิศวกรระดับสูง (Photo: TTXVN)

ศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้เปิดการฝึกอบรมต่างๆ โดยสามารถฝึกอบรมวิศวกรด้านไมโครชิปและเซมิคอนดักเตอร์ประมาณ 500 -600 คนต่อปี มอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาและวิศวกรที่มีทักษะความสามารถ ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการชื่นชมจากสถานประกอบการเท่านั้น หากยังเป็นนิมิตหมายในความพยายามฝึกอบรมแหล่งบุคลากรด้านการออกแบบไมโครชิป เป็นก้าวเดินที่สำคัญในกระบวนการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีของชาวเวียดนามในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นาย จิ่งคักเห่ว ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท Qorvo เวียดนามได้ยืนยันว่า

“โครงการดังกล่าวได้เกาะติดความต้องการของสถานประกอบการ ซึ่งวิศวกรที่ได้รับการฝึกอบรม สามารถทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศอย่างรวดเร็ว

เพื่อมีแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงที่สามารถตอบสนองความต้องการของเครือบริษัทชั้นนำของโลก สร้างสรรค์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ เวียดนามให้ความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยกำหนดว่า เพื่อประสบความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ต้องเดินพร้อมกัน ร่วมกันสร้างสรรค์ห่วงโซ่มูลค่าที่มั่นคง ดอกเตอร์ เจิ่นเท้เซิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมเวียดนาม-สาธาณรัฐเกาหลีได้เผยว่า 

“ความร่วมมือระหว่างประเทศในการฝึกอบรมมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ พวกเราจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและพบปะกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในด้านนี้ นอกจากนโยบายของรัฐบาลและทางการท้องถิ่นแล้ว ทางมหาวิทยาลัยฯยังให้ความช่วยเหลือค่าเล่าเรียน เอื้อให้แก่นักศึกษาในการศึกษาในด้านนี้”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามมีจุดแข็งเกี่ยวกับแหล่งบุคลากรที่มีทักษะความสามารถด้าน STEAM  นี่เป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานในการผลิตและออกแบบชิปเซมิคอนดักเตอร์เวียดนามเน้นพัฒนาแหล่งบุคลากรในด้านการออกแบบและผลิตไมโครชิป พัฒนาสถานประกอบการที่ประกอบธุรกิจในด้านผลิตไมโครชิป  อิเล็กทรอนิกส์ มุ่งสู่การปฏิบัติเป้าหมายจนถึงปี 2050 เวียดนามมีแหล่งบุคคลากรที่มีทักษะความสามารถสูง  เข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด