“พลเอกหวอเงวียนย้าป สถิตอยู่ในดวงใจของประชาชนเวียดนามตลอดกาล”
(VOVworld)-ในช่วงหลายวันก่อนแม้จะยังไม่ถึงวันประกอบพิธีเคารพศพและไว้อาลัยท่านอย่างเป็นทางการก็ตามแต่ประชาชนทุกชั้นชนทุกเพศทุกวัยนับพันคนก็ได้มายืนเข้าแถวยาวเป็นกิโลเมตรตั้งแต่หน้าสุสานประธานโฮจิมินห์ไปจนถึงบ้านเลขที่ 30 ถนนหว่างเหยี่ยวเพื่อเข้าเคารพศพและอำลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย
(VOVworld)-ข่าวพลเอกหวอเงวียนย้าปถึงแก่อสัญกรรมได้สร้างความเศร้าสลดใจให้แก่ปวงชนชาวเวียดนามทั่วประเทศที่ต้องสูญเสียนายพลผู้ยิ่งใหญ่และปรีชาสามารถของชาติและก็เป็นหนึ่งใน10นายพลที่ยอดเยี่ยมของโลก ในช่วงหลายวันก่อนแม้จะยังไม่ถึงวันประกอบพิธีเคารพศพและไว้อาลัยท่านอย่างเป็นทางการก็ตามแต่ประชาชนทุกชั้นชนทุกเพศทุกวัยนับพันคนก็ได้มายืนเข้าแถวยาวเป็นกิโลเมตรตั้งแต่หน้าสุสานประธานโฮจิมินห์ไปจนถึงบ้านเลขที่ 30 ถนนหว่างเหยี่ยวเพื่อเข้าเคารพศพและอำลาท่านเป็นครั้งสุดท้ายด้วยใบหน้าเศร้าหมองและน้ำตานองหน้าซึ่งเป็นภาพที่เสทือนใจยิ่งนัก อันความเคารพรักนั้นเราสามารถรับรู้ได้จากบทความเรื่อง “ พลเอกหวอเงวียนย้าป สถิตอยู่ในดวงใจของประชาชนเวียดนามตลอดกาล”ของนักข่าว เลเฟือง
|
ตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 10 ตุลาคมจำนวนผู้คนที่เข้าเคารพศพพลเอกหวอเงวียนย้าปที่บ้านพักส่วนตัวได้เพิ่มมากขึ้นเป็นหมื่นเป็นแสนโดยมีทั้งชาวฮานอยและชาวจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศในมือถือช่อดอกไม้ ภาพท่านนายพลหรือป้ายอักษรความว่า “สุดอาลัยอาวรณ์พลเอกหวอเงวียนย้าป” เพื่อเข้าอำลานายพลที่ยิ่งใหญ่และปรีชาสามราถของชาติครั้งสุดท้ายด้วยดวงใจที่ร่ำไห้จนแทบแตกสลายของแต่ละคนนั้นไม่มีคำพูดใดสามารถบรรยายได้หมดถึงความเคารพรักและศรัทธาของพวกเขาที่มีต่อท่าน นางเหงียนหงอกเท็วที่แต่งชุดของชนเผ่าไทยมาจากจังหวัดเดียนเบียน ผืนแผ่นดินแห่งสมรภูมิที่ผูกพันธ์กับความทรงจำของพลเอกหวอเงวียนย้าป กล่าวว่า “ ดิฉันแต่งชุดพื้นเมืองของชนเผ่าไทยมาเคารพศพท่านโดยหวังให้ท่านพลเอกหวอเงวียนย้าป คิดถึงลูกหลานชาวเดียนเบียน ผืนแผ่นดินแห่งสมรภูมิที่ผูกพันธ์กับความทรงจำของท่านเสมออีกทั้งอยากให้ท่านได้รับรู้ว่าถึงแม้จะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ท่านยังคงสถิตอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป”
นายหว่างเดียบ บ้านพักอยู่ที่ถนน ห่างบุ๋น นครฮานอย ได้แสดงความรักของตนที่มีต่อท่านนายพลด้วยการแจกเข็มกลัดที่ระลึกภาพของพลเอกหวอเงวียนย๊าบให้แก่ผู้คนที่ยืนเรียงแถวเข้าเคารพศพท่านและบอกว่า“ เมื่อได้ข่าวท่านเสียชีวิตแล้วผมรู้สึกเสียใจมาก จึงค้นหาภาพของท่านในอินเตอร์เน็ต 2 ภาพนำมาเป็นตัวอย่างทำเข็มกลัดที่ระลึกแล้วเอามาแจกให้ทุกคนที่ยืนรอที่นี่เพื่อเข้าเคารพศพท่าน”
.jpg)
|
ในชุดเสื้อสีเขียวของกลุ่มอาสาสมัครวัยรุ่นชาวแคนาดาที่อดทนยืนเข้าแถวนานถึง 3 ชั่วโมงเพื่อเข้าเคารพศพนายพลย้าป นาย มาททิว กิ๊บสัน บอกถึงความรู้สึกของตนว่า“ พวกเรามาที่นี่เพื่อแสดงความเคารพรักต่อท่านนายพลที่ปรีชาสามารถของชาติเวียดนาม พวกเราประทับใจมากในความเคารพรักของประชาชนเวียดนามที่มีต่อพลเอกหวอเงวียนย๊าบจากการยืนเข้าแถวรอเคารพศพท่าน น่าประทับใจจริงๆ ”
ส่วนคุณเลืองถิยุง เดินทางมาจากจังหวัด ลาวกายที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้ารูปถ่ายของพลเอกหวอเงวียนย้าป ได้กล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ ต่อจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลุงอีกแล้วเห็นแต่รูปเท่านั้น ลุงจากพวกเรา จากโลกนี้ไปแล้ว หลายปีมาแล้วที่ได้ข่าวว่าท่านป่วยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล พวกเราชาวจังหวัดลาวกายเป็นห่วงสุขภาพของท่านมากและคิดถึงท่านเสมอ”
ในหมู่ทหารเรื่องราวและความทรงจำต่างๆเกี่ยวกับนายพลหวอเงวียนย้าปได้มีการเล่าสืบต่อกันอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เหล่าทหารหาญจะเรียกท่านนายพลด้วยความเคารพรักว่า นายพลย้าป ลุงย้าป ท่านย้าป หรือ คุณวัน พันเอกดังเงียมเยียม กล่าวว่า “ผมมีโอกาสได้ร่วมทำงานกับลุงย๊าบ 2 ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องเขียนหนังสือประวัติศาสตร์ ครั้งแรกเป็นหนังสืออนุสรณ์200 ปีการรบหงอกโห่ย- ด๋งดา ครั้งที่ 2 เป็นหนังสือเกี่ยวกับการต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาของกองทัพนครหลวง ท่านเป็นผู้นำที่ถ่อมตัว รับฟังความคิดเห็นและปรึกษาหารืออย่างเป็นกันเองกับทหารใต้บังคับบัญชา พวกเรานับถือท่านเป็นเสมือนพี่ใหญ่ในกองทัพประชาชนเวียดนามพวกเราจะยึดถือเป็นแบบอย่างคุณธรรมและความปรีชาสามารถของท่านเพื่อปฏิบัติตามตลอดไป ลุงย้าบเป็นผู้ที่มีความอดทนมาก ถ้าไม่มีความอดทนของท่านไหนเลยจะมีวันที่สดใสดังทุกวันนี้”
.jpg)
|
นายเลเตี๋ยนหยุง อดีตทหารผ่านศึก สมรภูมิเดียนเบียนฟู ผู้ที่โชคดีมีโอกาสได้พบท่านเมื่อห้าปีก่อนที่เดียนเบียนฟู กล่าวว่า “พวกเราดีใจกันมากๆไม่นึกเลยว่าจะมีโอกาสได้พบและถ่ายรูปกับท่านยามชรา ท่านไม่เพียงแต่เป็นผู้นำที่เก่งกาจเท่านั้นหากยังมีความรักต่อลูกน้องเหมือนพี่ใหญ่และเพื่อนร่วมรบด้วย”
ในช่วงห้าวันก่อนการจัดพิธีศพของพลเอกหวอเงวียนย้าปตามแบบรัฐพิธี บ้านพักส่วนตัวของท่านเปิดให้ประชาชนได้เข้าอำลาท่านเป็นครั้งสุดท้ายแม้ในใจมิวายรำพึงว่าท่านยังอยู่กับพวกเราท่านยังไม่จากพวกเราไป./.
Le Phuong/VOV5