แม้เคยมีงานทำที่มั่นคงในสถานประกอบการภาครัฐแต่คุณเจิ่นทูหั่งก็ตัดสินใจลาออกเพื่อเปิดบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านอาหารปลอดสารพิษเมื่อปี 2009 โดยงานแรกคือการจำหน่ายข้าวกล่องให้แก่บริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าที่เขตหว่างมาย ต่อจากนั้นเธอได้ลงทุนประกอบธุรกิจด้านอาหารปลอดสารพิษเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค นางเจิ่นทูหั่งเผยว่า  “เรามีเจ้าหน้าที่ดูแลตรวจสอบทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ส่วนเกษตรกรคือลูกจ้างที่รับจ้างผลิตบนพื้นที่ดินเกษตรของตัวเอง เมื่อเห็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พวกเขาก็มีความมั่นใจในการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ เราพยายามปรับปลี่ยนจิตสำนึกในการผลิตและสร้างความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค”

นอกจากการเน้นประกอบธุรกิจ คุณเฉิ่นทูหั่งยังได้ร่วมมือกับศูนย์ฝึกสอนอาชีพของสหพันธ์สตรีฮานอยจัดการฝึกอบรมยกระดับทักษะความสามารถให้แก่พ่อครัวแม่ครัวในโรงเรียนและบริษัทเพื่อยกระดับคุณภาพของมื้ออาหาร โดยเฉพาะร่วมมือกับบริษัทอาหารวิงแองลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตที่อำเภอเถื่องติ๊น กรุงฮานอยเพื่อผลิตซาลาเปาและขนมนจากผักเพื่อจัดสรรให้แก่ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนและตัวแทนจำหน่ายในกรุงฮานอยและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งสร้างงานทำให้แก่แรงงานสตรีในเขตชนบท ถึงขณะนี้ ทางบริษัทสามารถจัดตั้งเครือข่ายแบบครบวงจรตั้งแต่การปลูกและเพาะเลี้ยงไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ส่วนในการรับจำหน่ายสินค้า ทางบริษัทก็ตั้งมาตรฐานให้แก่หุ้นส่วนคือ ต้องค้ำประกันคุณภาพและราคาของสินค้า นางเจิ่นทูหั่งกล่าวต่อไปว่า “พวกเราจะพัฒนารูปแบบนี้ต่อไป แล้วจะขยายไปยังนิคมอุตสาหกรรม เพราะปัจจุบันนี้ แรงงานในนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ไม่ได้บริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษ ดังนั้นดิฉันมีความปรารถนาจะนำอาหารปลอดสารพิษถึงโต๊ะอาหารของผู้บริโภคในราคาย่อมเยาและช่วยให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน ส่วนลูกค้าของเราได้ทานอาหารที่อร่อยและปลอดภัย”

หลังการประกอบธุรกิจเป็นเวลา 10 ปี ปัจจุบันนี้ บริษัทหุ้นส่วนนำเข้าและส่งออกสินค้าการเกษตรและอาหารเวียดนามได้กลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสหกรณ์และบริษัทที่ปลูกผักปลอดสารพิษกับโรงเรียน 20 แห่งในเขตหว่างมาย โดยเตรียมอาหารให้แก่ 2 หมื่นคนต่อวัน ยอดรายได้ของบริษัทคิดเป็นหลายแสนล้านด่งต่อปี จากผลสำเร็จในเบื้องต้นนี้ ทางบริษัทกำลังมีส่วนแบ่งที่มั่นคงมากขึ้นในตลาดและนางเจิ่นทูหั่งก็สามารถสานฝันให้เป็นจริงในการช่วยให้ประชาชนในเขตชนบทหลุดพ้นจากความยากจนและช่วยให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อาหารปลอดสารพิษได้สะดวกมากขึ้น.