อาจารย์ อภิชาติ พูลบัวไข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม

บ้านโนนกอกมีพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร โดยตลอดสองข้างทางมีผลิตภัณฑ์ handmade มากมายหลายแบบให้เหลือชม เช่น ใยไหมหลากหลายสีสัน ผ้าพันคอและผ้าพื้นเมืองที่มีลวดลายสวยงาม ในหมู่บ้านแบ่งเป็นหลายโซน เช่น โซนต้อนรับแขกและแนะนำผลิตภัณฑ์ โซนทอผ้า โซนย้อมสี เป็นต้น โดยเฉพาะในโซนจัดแสดง มีผ้าขีด ผ้าไหมจำนวนมากกำลังตากแห้งและรีดเพื่อเตรียมส่งมอบให้แก่ลูกค้า อาจารย์ อภิชาติ พูลบัวไข ในชุดพื้นเมืองที่เป็นผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านนี้เองได้มายืนต้อนรับพวกเราที่ทางเข้าพร้อมรอยยิ้ม หลังจากที่แนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆของบ้าน อาจารย์ อภิชาติ พูลบัวไข ได้ชักชวนให้พวกเราลองทำผ้ามัดย้อมให้แก่ตัวเองสักชิ้น โดยได้แจกผ้าสีขาวให้ทุกคนแล้วสอนวิธีการมัดให้ได้ลวดลายที่สวยงามหลังการย้อมสี ซึ่งนี่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้ถึงความแตกต่างระหว่างการย้อมสีแบบธรรมชาติกับการย้อมสีอุตสาหกรรม

ผ้าพันคอที่มัดเสร็จแล้วจะนำไปย้อมสี โดยวิธีย้อมมีสองวิธี คือย้อมร้อนและย้อมเย็น ถ้าหากย้อมเย็น จะนำกลีบบัวแดงมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปปั่นให้ได้ได้น้ำสีชมพู ส่วนใยไหมก่อนที่จะย้อมก็ต้องตากแห้ง แล้วนำมาแช่ในน้ำสีที่คั้นจากบัวแดง ส่วนวิธีการย้อมร้อนคือต้องซักใยไหมหรือผ้าก่อนที่จะย้อม น้ำสีย้อมผ้าก็ต้องต้มให้เดือดก่อนย้อม “บัวที่เรานำมาจะย้อมไหม เอาสีของบัวมาย้อมเส้นไหม เอาก้านกับดอกบัวแต่จะได้คนละสี ก้านจะได้สีเทา ดอกบัวจะได้สีทองหรือสีเหลืองอ่อน”

สำหรับรายละเอียดการทำน้ำสีย้อมผ้า อาจารย์ อภิชาติอธิบายเพิ่มเติมว่า ก่อนอื่นต้องหั่น สับ ตัดก้านให้เป็นก้อนๆ แล้วเอาไปลงกระทะต้มประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ตักเอากากที่เราต้มไปแล้วออก แล้วกลองน้ำสีให้สะอาดแล้วก่อนนำไปย้อม

ป้าถาวร คุณเสนา และป้าสีจำนงค์ กำลังยืนย้อมผ้าร้อน ที่เหงื่อออกมาเต็มหน้าได้บอกเกี่ยวกับเทคนิกการย้อมผ้าให้ได้ลวดลายที่สวยงามว่า “เราแช่น้ำแล้วก็เตรียมย้อม ถ้าชอบสีใหนก็ใช้ เรามีสีสายและสีดอกค่ะ สายจะออกเป็นสีเงิน ดอกจะออกเป็นสีทอง ลายสวยก็อยู่ที่กับคุณมัด เราต้องแช่น้ำบัวให้ขัน ไม่มีสารอะไร มีแต่น้ำบัวกับน้ำ ”

หลังจากซักด้วยน้ำสะอาดก็จะทำการคลายมัดแล้วจะได้ผ้าพันคอที่มีลวดลายสวยงาม ซึ่งแต่ละฝืนจะมีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน คุณ ทูถวี นักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ถือผ้าพันคอที่ทำเองเผยว่า               “ดิฉันไม่คิดเลยว่า จากการมัดผ้าที่ง่ายๆในขั้นตอนแรกนั้น ผ้าพันคอของเราจะมีลวดลายที่สวยงามอย่างนี้ ดูเหมือนเมฆ สีอ่อนสวยมาก น่าประทับใจจริงๆ”

นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับผลิตภัณฑ์ของบ้านโนนกอก

ในระหว่างที่รอตากผ้าให้แห้ง นักท่องเที่ยวจะได้ลองทานอาหารต่างๆที่ทำจากบัวแดง เช่น ขนมและชาบัวแดง แล้วฟังอาจารย์ อภิชาติ พูลบัวไข อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกลักษณ์และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นี่ โดยเฉพาะบ้านโนนกอกสามารถผลิตผ้าพันคอและผ้าชนิดต่างๆที่มีสีสันหลากหลาย ทั้งสีพื้นเมืองและสีสันตามสมัยนิยมตามใบสั่งซื้อจากตลาด นอกจากนี้ เพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ ก็มีการ livestream ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook และ Lines               “การตลาดของเรามีสามแบบ แรกก็คือจำหน่ายที่กลุ่มหรือที่หมู่บ้าน สองก็คือ มีพ่อค้าส่ง เราส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง เพื่อที่จะนำผ้าไปจำหน่าย แล้วก็สามจากสื่อออนไลน์ จะมีทั้งไลฟ์สด เพจ Facebook ก็มี ส่วนรายได้ 4 ปีเราทำได้คราวๆ ร้อยกว่าล้าน อย่างในล่าสุด ยกตัวอย่างไลฟ์สดเดือนที่แล้วก็เกือบ 2 ล้าน ”

ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ได้เดินทางไปทั่วโลกพร้อมกับนักท่องเที่ยว ซึ่งช่วยให้เพื่อนมิตรชาวต่างชาติรู้จักจังหวัดอุดรธานีที่ไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์ที่สวยงามเท่านั้น หากยังมีผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านอีกด้วย.