เยือนสวนนกกระสา “บั่งลัง” ที่นครเกิ่นเทอ
(VOVWORLD) -สวนนกกระสา “บั่งลัง” ห่างจากนครเกิ่นเทอประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นที่อยู่อาศัยของนกกระสาประมาณ 3 แสนตัว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ มีส่วนร่วมสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวให้แก่หน่วยงานการท่องเที่ยวนครเกิ่นเทอ
สวนนกกระสา “บั่งลัง” ที่จังหวัดเกิ่นเทอ |
เมื่อเดินข้ามสะพานไม้เก่าๆเพื่อเข้าไปในสวนนก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดพิเศษท่ามกลางเสียงร้องของนกกระสานับพันตัวที่กำลังเกาะอยู่บนยอดไม้ เวลา 5 โมงเย็นก็จะเห็นฝุงนกกระสาที่บินกลับรังเป็นกลุ่มรูปตัววีแล้วลงมาเกาะเต็มกิ่งไม้ คุณลุง เหงียนหงอกเถวี่ยน ที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า คุณลุง “ไบ๋ก่อ” ซึ่งหมายถึงคุณลุงไบ๋นกกระสา เจ้าของสวนนกกระสาเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 1983 มีนกกระยางควายฝูงหนึ่งมาอาศัยอยู่ในสวนสักระยะหนึ่งแล้วก็บินไปหมดแต่หลังจากนั้น 1 ปีพวกมันก็กลับมาพร้อมพาฝูงนกกระสาอื่นๆนับสิบสายพันธุ์มาอยู่ในสวนด้วย ซึ่งทำให้ทุกคนในครอบครัวแปลกใจแต่ด้วยความเป็นคนรักธรรมชาติ จึงคิดว่า ที่นกมาอยู่ในสวนเยอะก็เพราะพื้นที่นี้อุดมสมบูรณ์ จึงปรึกษากับครอบครัวในการอำนวยความสะดวกให้ฝุงนกมาอาศัยอย่างยาวนานโดยซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านเพื่อขยายสวน พร้อมทั้งปลูกต้นไม้ ขุดบ่อเลี้ยงปลาและเลี้ยงหอยเพื่อเป็นอาหารของนก ทำรั้วล้อมสวนเพื่อไม่ให้ใครเข้ามายิงนกและทำลายสวน แม้จะเป็นนกธรรมชาติแต่ดูเหมือนว่า ฝูงนกมีความผูกพันเป็นพิเศษกับคุณลุง เหงียนหงอกเถวี่ยน “พวกมันคุ้นเคยกับผมมาก หากแขกที่มาเที่ยวเดินไปใกล้ๆนก พวกมันจะกลัวและบินหนีไปแต่หากเป็นผม มันจะบินลงมากินอาหารและดื่มน้ำใกล้ผมโดยไม่กลัวเลย แม้กระทั่งคาบเอากิ่งไม้มาทำรังด้วย ส่วนคนอื่น แม้แต่ภรรยาของผมถ้ามาที่สวน มันก็กลัวและวิ่งรอบๆ สิ่งที่น่าแปลกคือ นกกระสามาอยู่ในสวนของผมเท่านั้น ส่วนสวนของเพื่อนบ้านที่ติดกันพวกมันไม่อยู่”
คุณลุง “ไบ๋ก่อ” |
ในตลอด 30 ปีที่อยู่ร่วมกับฝูงนกกระสา ชาวบ้านได้ถือคุณลุง “ไบ๋ก่อ” เป็นนักวิจัยเกี่ยวกับนกกระสาเพราะได้ศึกษามีความรู้ที่กว้างลึกและประสบการณ์มากมาย คาดว่า ในสวนของเขา มีนกกระสาสายพันธุ์ต่างๆประมาณ 3 แสนตัว เช่น นกกระสาตัวเล็กที่สุดที่มีน้ำหนักแค่ 150 กรัม นกปากช้อนที่มีน้ำหนักถึง 1.2 กิโลกรัม นกกระสาปากดำที่สามารถจับปลาได้อย่างคล่องแคล่ว นกกระสาปากเหลือง นกยางเขียวและนกกระยาง เป็นต้น ในฤดูผสมพันธุ์ คือตั้งแต่เดือน 8 ถึงเดือนอ้ายจันทรคติ นกกระสาจะบินกลับสวนบั่งลังเพื่อทำรังมากกว่าปกติ “นกกระสาจะมีฤดูวางไข่แตกต่างกัน นกกระสาหัวเหลืองวางไข่หลังตรุษเต๊ดประเพณี หลังจากนั้น 1 เดือนคือฤดูวางไข่ของนกกระยาง ถึงเดือน 9 และเดือน 10 เป็นฤดูวางไข่ของนกกาน้ำใหญ่ ซึ่งนกกระยางจะบินไปหมด เหลือแค่บางตัวที่อยู่เพื่อเฝ้ารัง ซึ่งนกทุกสายพันธุ์จะมีส่วนหนึ่งที่เฝ้ารังหลังจากฝูงบินจากไป ยกตัวอย่างเช่น หากในฝูงนกมี 1 พันตัว ก็จะมีนก 500 ตัวอยู่เฝ้ารัง ส่วนที่เหลือก็บินหนีหนาว”
นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศหลั่งไหลมาเที่ยวสวนนกของคุณลุง “ไบ๋ก่อ”
|
หากยืนบนหอสังเกตุการณ์ของครอบครัวคุณลุงไบ๋ นักท่องเที่ยวสามารถเห็นฝูงนกกระสาบินกลับรังได้อย่างใกล้ชิด “ในช่วงฤดูร้อน ผมพาครอบครัวและลูกมาเที่ยวสวนนกบั่งลังเพื่อช่วยให้ลูกมีความรู้เกี่ยวกับนกกระสา เพราะเขาเคยเห็นในหนังสือและทีวีเท่านั้น ยังไม่เห็นตัวเป็นๆ นอกจากนี้ นี่ยังเป็นโอกาสให้ลูกได้สัมผัสกับธรรมชาติ ซึ่งหาได้ยากในนครโฮจิมินห์”
“อะไรจะดีไปกว่าการได้มีโอกาสดูและฟังเสียงนกร้องเจื้อยแจว พร้อมสายลมที่พัดเย็นสบายและอากาศที่สดชื่นของเขตชนบท มันช่างแสนโรแมนติกและเงียบสงบ”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเที่ยวสวนนกบั่งลัง ผมเคยไปเที่ยวสวนนกที่จังหวัดด่งท๊าป แต่รู้สึกชอบที่นี่มากกว่า ผมเชื่อว่า สวนนกบั่งลังจะมีส่วนร่วมช่วยให้การท่องเที่ยวของนครเกิ่นเทอได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น”
ปัจจุบันนี้ บริษัทนำเที่ยวใหญ่ๆได้ระบุสวนนกบั่งลังในโปรแกรมทัวร์เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น ภาพครอบครัวนกกระสากำลังให้อาหารลูกและดูแลกันจะช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่ดีและมีความผูกพันใกล้ชิด ซึ่งมีส่วนร่วมรักษาความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศและอนุรักษ์นกอพยพในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง.
ในสวนมีนกกระสานับพันตัว
|
ภาพครอบครัวนกกระสากำลังให้อาหารลูกและดูแลกันจะช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด |
บริษัทนำเที่ยวใหญ่ๆได้ระบุสวนนกบั่งลังในโปรแกรมทัวร์
|