เรื่องราวของผู้สื่อข่าววีโอวี ๒ คนที่มีชื่อว่าภูผาและแม่น้ำ

( VOV )- นับเป็นปีที่ ๒ ติดต่อกันที่ทีมผู้สื่อข่าวสำนักงานตัวแทนสถานีวิทยุกระจายเสียงเวียดนามประจำภาคกลางประเทศได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทรายการกระจายเสียงในการประกวดรางวัลหนังสือพิมพ์ระดับชาติครั้งที่ ๘ ปี ๒๐๑๓  ผลงานที่ได้รับรางวัลคือ รายการกระจายเสียงหลายตอน “ ช่องโหว่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจากการต่อสู้แย่งชิงน้ำในภาคกลาง ” ของผู้เขียนและจัดทำรายการคือ คุณเลฟุก เลห่ายเซินและฟานแทงห่า 


( VOV )- นับเป็นปีที่ ๒ ติดต่อกันที่ทีมผู้สื่อข่าวสำนักงานตัวแทนสถานีวิทยุกระจายเสียงเวียดนามประจำภาคกลางประเทศได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทรายการกระจายเสียงในการประกวดรางวัลหนังสือพิมพ์ระดับชาติครั้งที่ ๘ ปี ๒๐๑๓  ผลงานที่ได้รับรางวัลคือ รายการกระจายเสียงหลายตอน “ ช่องโหว่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจากการต่อสู้แย่งชิงน้ำในภาคกลาง ” ของผู้เขียนและจัดทำรายการคือ คุณเลฟุก เลห่ายเซินและฟานแทงห่า  ในโอกาสวันหนังสือพิมพ์ปฏิวัติเวียดนามครบรอบ ๘๙ ปี ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๑ มิถุนายน ขอเชิญท่านฟังสารคดีเรื่อง “ เรื่องราวการของผู้สื่อข่าววีโอวี ๒ คนที่มีชื่อว่า ภูผาและแม่น้ำ ”


เลี้ยสวยมาก เร็วเข้า เร็วเข้า ไม่ทัน ไม่ทันอีกแล้ว

น้ำเสียงที่คึกคักนี้ของนายเลห่ายเซินผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำภาคกลางเป็นที่คุ้นหูของบรรดาคุณผู้ฟังซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของรายการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลล์โลกหรือเวิลด์คัฟของสถานีวิทยุเวียดนาม แต่เสียงที่ท่านกำลังรับฟังอยู่นี้เป็นน้ำเสียงที่แสดงทั้งความกังวลและความเครียดมากขณะที่เขากำลังบันทึกภาพเรือขนาดใหญ่ของจีนกำลังพุ่งชนเรือประมงของเวียดนาม   นายห่ายเซินทำคลิปวีดิทัศน์นี้ตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมเมื่ออยู่บนเรือประมง ณ บริเวณทะเลหว่างซาหรือพาราเซลเพื่อถ่ายทำและรายงานข่าวเกี่ยวกับการที่จีนตั้งแทนขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม  นายเลห่ายเซินคุยกับพวกเราถึงจิตใจหาญกล้าและไหวพริบของชาวประมงภาคกลางในการออกทะเลพร้อมกับกองกำลังบังคับใช้กฎหมายของเวียดนามทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศเหนือทะเลและเกาะแก่ง นายเลห่ายเซินกล่าว

ขณะนั้นผมอยู่บนเรือลำหนึ่งของชาวประมงกลางทะเลหว่างซาหรือพาราเซลและได้พบเห็นเรือจีนกระแทกและพุ่งชนเรือของชาวประมงภาคกลางทำให้เรารู้สึกเสียวมาก เพราะเรือของเราเป็นเรือเล็กต้องต่อสู้กับเรือลำใหญ่ที่ไม่ใช่เรือของชาวประมงจีนหากเป็นการแปลงเป็นเรือประมงเพื่อโจมตีเรือประมงเวียดนาม ดังนั้นพวกเรากลั้นความหวาดเสียวไม่อยู่จนต้องตะโกนร้อง  เนื่องจากเป็นห่วงชีวิตของชาวประมงของเราเมื่อถูกเรือจีนพุ่งชนกระแทกแรง ขณะนั้นเสียงของผมเต็มไปด้วยน้ำตา

เรื่องราวของผู้สื่อข่าววีโอวี ๒ คนที่มีชื่อว่าภูผาและแม่น้ำ - ảnh 1
นายเลห่ายเซินกำลังสัมภาษณ์
การออกทะเลบนเรือประมงของนายเลห่ายเซินไม่นัดวันกลับ อุปกรณ์ที่ติดตัวเขาในการทำข่าวนั้นได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง กล้องถ่ายรูปและกล้องวีดิทัศน์ แต่ไม่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง wifiหรือระบบ๓จีเพื่อส่งข่าวและบทความซึ่งเป็นช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่ผู้สื่อข่าวที่น่าจดจำของนายเลห่ายเซิน  อย่างไรก็ดีภายหลัง ๑ สัปดาห์ผลงานของนายห่ายเซินกับเพื่อนผู้สื่อข่าวร่วมเดินทางคือนายวินห์ทงและดิ่งห์เถี่ยวได้ปรากฎผ่านสื่อต่างๆของสถานีวิทยุเวียดนามเช่น รายการกระจายเสียง หนังสือพิมพ์ออนไลน์และสถานีโทรทัศน์วีโอวี

ผู้สื่อข่าวสำนักงานตัวแทนสถานีวิทยุเวียดนามประจำภาคกลางแต่ละคนมีความสามารถเฉพาะเช่น นายห่ายเซินเป็นคนไวต่อเหตุการณ์และมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ส่วนคุณแทงห่าเป็นคนรอบคอบและลึกซึ้งเพราะเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้  เมื่อฤดูพายุและน้ำหลากเวียนมาหรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้อนแรงเช่น จีนตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง ๙๘๑ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามอย่างผิดกฎหมย ทีมผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำภาคกลางจะอยู่ในความพร้อมที่จะเดินทางตลอด ๒๔ ชั่วโมง  การทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็จเหนื่อยด้วยความรับผิดชอบสูงส่งผลให้ผลงานของพวกเขาได้รับรางวัลที่ ๑ สองปีติดต่อกันในงานมหกรรมรายการกระจายเสียงทั่วประเทศและรางวัลหนังสือพิมพ์ระดับชาติ  และวันที่ ๒๑ มิถุนายนนี้ พวกเขาได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดรางวัลหนังสือพิมพ์ระดับชาติปี ๒๐๑๓ ด้วยผลงาน “ ช่องโหว่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจากการต่อสู้แย่งชิงน้ำในภาคกลาง ” ซึ่งเป็นบทสารคดีเชิงสืบสวนหลายบท ผู้สื่อข่าวฟานแทงห่าเปิดเผยว่า  “ ในภาคกลางเวียดนาม หลายปีที่ผ่านมาได้เกิดการแย่งชิงแหล่งน้ำระหว่างการใช้ผลิตไฟฟ้ากับน้ำบริโภคและการผลิต ระหว่างท้องถิ่นด้วยกัน ตลอดจนระหว่างกิจการไฟฟ้าพลังน้ำกับท่องถิ่นอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในฤดูแล้ง  พวกเราได้ไปค้นหาต้นเหตุของปัญหาและได้พบเห็นว่า สาเหตุของการแย่งชิงแหล่งน้ำในภาคกลางไม่ได้มาจากปัจจัยทางธรรมชาติ หากคนเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง

เรื่องราวของผู้สื่อข่าววีโอวี ๒ คนที่มีชื่อว่าภูผาและแม่น้ำ - ảnh 2
นายแทงห่าปฏิบัติหน้าที่ผู้สื่อข่าวในพื้นที่เกิดน้ำหลาก

ทีมผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำภาคกลางที่ต้องตากแดด ตากฝนและต้องรับมือกับพายุรุนแรงมาทุกปี พวกเขามีอายุประมาณ ๔๐ และปฎิบัติงานตามคติเตือนใจในการทำงานว่า การรายงานข่าวนั้นต้องทันเหตุการณ์ คมชัดลึกและถูกต้องเพื่อให้ผู้ฟัง ผู้อ่านและผู้ชมของสถานีฯที่เป็นชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศได้รับรู้ภาพที่ดีและถูกต้องเกี่ยวกับแผ่นดินและคนภาคกลางเวียดนาม คุณมินห์ฮัว ผู้สื่อข่าวหญิงที่ร่วมทำงานกับพวกเขา ๑๕ ปีกล่าวว่า  “ คุณห่ายเซินและแทงห่าทำงานอย่างมีความรับผิดชอบสูง  คุณห่ายเซินเป็นผู้สื่อข่าวคนแรกที่เดินทางไปยังทะเลหว่างซาหรือพาราเซลโดยเรือของชาวประมงเพื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับการที่จีนตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ในไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย  เมื่อกลับเข้าฝั่ง เขาได้เสนอบทความพร้อมภาพและคลิปวีดิทัศน์สู่ผู้ฟังและผู้ชมทั่วประเทศ  ส่วนคุณแทงห่ากับแฟนทำงานในสถานีเดียวกัน เมื่อต้องไปทำข่าวในช่วงพายุน้ำหลาก พวกเขาต้องฝากลูกให้ปู่ย่าตายาย  บางทีคุณแทงห่ามัวทำงานจนลืมไปรับลูกที่โรงเรียน

เรื่องราวของผู้สื่อข่าววีโอวี ๒ คนที่มีชื่อว่าภูผาและแม่น้ำ - ảnh 3
นายเลวันฟุกคนแรกจากขวามอบเงินบริจาคให้แก่ชาวประมง

ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามประจำภาคกลางแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นายห่ายเซินและนายแทงห่าต่างพร้อมที่จะไปทำข่าวในทุกพื้นที่เพื่อรายงานข่าวอย่างทันการณ์ทางสื่อมัลดิมีเดียของสถานี”ให้แก่ผู้ฟัง ผู้อ่านและผู้ชม แต่เมื่อถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับการประกอบอาชีพสื่อมวลชนในรายการ “ พวกเราคุยเรื่องของพวกเรา ” ทั้งสองคนต่างรู้สึกอายเหมือนเจ้าสาวเพิ่งแต่งงานมาอยู่บ้านเจ้าบ่าว  ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายนักเพราะเขาสองคนชินกับการสัมภาษณ์คนอื่นหากไม่เคยถูกสัมภาษณ์ ./.






ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด