แหนมเนืองเวียดนามได้รับความนิยมจากชาวไทยจำนวนมาก

ที่เมืองไทยนั้นชื่อของนาย โห่วันเลิมไม่เป็นที่รู้จักซักเท่าไหร่ แต่ชื่อ แหนมเนืองVT ของนาย เลิม กลับเป็นที่รู้จักกันอย่างดี  นาย โห่วันเลิมมีชื่อไทยคือ ทอง กุลธัญวัฒน์ ซึ่งเป็นนายกสมาคมนักธุรกิจไทย-เวียดนามคนปัจจุบัน

แม้เราได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับคุณ โห่วันเลิม เจ้าของเครื่องหมายการค้าVT แหนมเนืองแล้ว แต่เมื่อมาถึงศูนย์อาหารที่มีพื้นที่กว่า  6 เฮกตาร์ในจังหวัดอุดรธานีที่มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างคับคั่ง เราก็ไม่สามารถนึกออกได้เลยว่า ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐแห่งนี้ ได้ริเริ่มจากการขายแหนมเนือง    นาย โห่วันเลิมเป็นลูกคนที่ 3 โดยคุณพ่อเป็นชาวเว้ ส่วนคุณแม่เป็นชาวกว๋างบิ่ง ครอบครัวเขาได้ย้ายมาอาศัยในประเทศไทยเมื่อปี 1945 ซึ่งฐานะในช่วงนั้นถือว่าลำบากมาก  แม้นายโห่วันเลิมเคยประกอบอาชีพเป็นช่างกลึง ซ่อมนาฬิกาและเย็บผ้า เป็นต้น แต่ในที่สุด นาย เลิมก็ยังคงเลือกประกอบธุรกิจด้านอาหารโดยได้ประกอบอาชีพขายแหนมเนืองเพราะเชื่อว่า นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมเวียดนามสู่โลก นาย โห่วันเลิมได้เผยว่า

“ตอนเป็นหนุ่ม ผมไม่เคยคิดว่า จะขายแหนมเนือง ผมอยากเป็นช่างกลึงไม่อยากขายแหนมเนือง ดังนั้น แม้พ่อแม่ผมทำแหนมเนืองขาย ผมก็ไม่สนแล้วไปทำงานเป็นช่างกลึง แต่ตอนนี้ ผมก็ใช้ประโยชน์จากงานกลึงในการผลิตเครื่องทำแหนมเนือง ”

นาย โห่วันเลิมกำลังขายสินค้าให้แก่ลูกค้า

เนื่องจากเป็นอาชีพของครอบครัว นาย โห่วันเลิมจึงรู้จักขั้นตอนการทำแหนมเนืองเป็นอย่างดี  จากประสบการณ์ในการประกอบอาชีพต่างๆ นาย เลิมตระหนักได้ดีว่า กุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จในการประกอบธุรกิจคือ คุณภาพและชื่อเสียง เขาให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อคุณภาพของแหนมเนือง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพของลูกค้า  ซึ่เขาจึงใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การแปรรูปไปจนถึงการสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมความรับผิดชอบในหมู่พนักงาน  คุณ ต่าไค พนักงานของร้านVT แหนมเนือง ได้เผยว่า

“สาเหตุที่ทำให้ดิฉันมีความผูกพันกับ VT แหนมเนือง ในตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมาก็คือสิ่งที่ VT  นำมาให้แก่ลูกค้า ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่เป็นคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความไว้วางใจเท่านั้นหากยังเป็นแนวทางการประกอบธุรกิจของเจ้าของที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของลูกค้าเป็นอันดับต้นๆ”

เพื่อค้ำประกันคุณภาพ นาย เลิมได้ให้ความสำคัญและมีความเคร่งครัดเป็นอย่างมากในการคัดเลือกวัตถุดิบ โดยใช้เนื้อหมูของบริษัทใหญ่ๆที่ได้มาตรฐานและได้ทำการปลูกผักสะอาดเองโดยไม่ใช้สารเคมี นอกจากนี้ นาย โห่วันเลิม ได้รับฟังความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อปรับปรุงน้ำจิ้มให้ถูกปากชาวไทย โดยยังคงรสชาดแบบของชาวเว้เอาไว้ด้วย คุณ บัวทอง ลูกค้าคนหนึ่งได้เผยว่า

“ผมมาที่นี่เพื่อทานแหนมเนือง VT และซื้อกลับบ้าน แม้อาหารไทยและเวียดนามแตกต่างกันแต่แหนมเนืองสามารถเชื่อมโยงรสชาดของอาหารทั้งสองประเทศได้อย่างดี เมื่อกินแหนมเนืองเวียดนาม ก็มีผักกินแกล้มด้วย ซึ่งดีต่อสุขภาพและน่ากินมากขึ้น”

จากเดิมที่มีร้านอาหารเล็กๆ ในปัจจุบัน VT แหนมเนือง มีสาขาในประเทศไทยกว่า 40 สาขาและผลิตแหนมเนืองนับสิบตันต่อวัน

แหนมเนืองไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้แก่ชาวเวียดนามในประเทศไทยเท่านั้นหากยังแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนามและได้รับความนิยมจากลูกค้า ทำให้คนไทยมีความเข้าใจมากขึ้นในความหลากหลายของอาหารเวียดนาม ส่วนสำหรับนาย เลิม แหนมเนือง ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยรู้จักอาหารเวียดนาม.