เวียดนามพึ่งตนเองในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

(VOVWORLD) - เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการผลิตชุดตรวจหาเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจหาเชื้อ และขณะนี้ เวียดนามกำลังปฏิบัติส่วนงานที่ยิ่งใหญ่และสำคัญเป็นอย่างมาก นั่นคือการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่วิจัยและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญเวียดนามและทำการทดลองในชาวเวียดนาม ซึ่งจะมีส่วนร่วมที่สำคัญในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในเวียดนาม
เวียดนามพึ่งตนเองในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 - ảnh 1อาสาสมัครลงทะเบียนทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (ncov.moh.gov.vn)

ในจำนวนอาสาสมัคร 200 คนที่เข้าร่วมการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครั้งแรกที่พัฒนาและวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์เวียดนาม มีอาสาสมัคร 3 คนได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่สำคัญของหน่วยงานสาธารณสุข อีกทั้ง แสดงให้เห็นถึงความสามารถนการพึ่งตนเองในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ของเวียดนามเพื่อปกป้องประชาชนจากหนึ่งในโรคระบาดที่รุนแรงในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ กระบวนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโดยทั่วไปต้องใช้เวลาประมาณ 7-12 ปี แต่ในกรณีฉุกเฉิน เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในทั่วโลก จากการได้รับคำปรึกษาขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศและการชี้นำจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กระบวนการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเวียดนามได้รับการพิจารณาให้ปรับลดขั้นตอนทางราชการต่างๆ ส่วนข้อมูลและขั้นตอนด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด นาย เหงียนโงกวาง รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการฝึกอบรมของกระทรวงสาธารณสุขได้เผยว่า

“สำหรับการวิจัยผลิตและพัฒนาวัคซีน พวกเราได้เปิดใช้งานระบบทั้งหมด รวมทั้งผู้ผลิต 4 ราย จนถึงขณะนี้ Nanorgen เป็นหนึ่งในสี่ผู้ผลิตที่ได้เสร็จสิ้นการทำตัวอย่างพรีคลินิกและได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขให้ดำเนินการทางคลินิกระยะที่ 1 จนถึงขณะนี้ การวิจัย ทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 ของวัคซีน NanoCovax เป็นไปตามกำหนดเวลา อาสาสมัครที่เข้าร่วมระยะที่ 1 ได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีเพื่อให้พวกเราสามารถติดตามและปรับปรุงวัคซีนให้มีความสมบูรณ์เพื่อฉีดโดสที่ 2 ต่อไปก่อนที่จะเข้าสู่การทดสอบทางคลินิกระยะที่ 2”

วัคซีนของทาง NanoCovax ได้มีการปรับปรุงเอกสารวิจัยในห้องปฏิบัติการให้มีความสมบูรณ์ การทดสอบระดับพรีคลินิก การทดสอบในสัตว์ การประเมินความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันในสัตว์ได้รับการตรวจสอบประเมินจากสภาจริยธรรมทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขและได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ทำการทดลองในมนุษย์ กระบวนการทดสอบวัคซีนของเวียดนามค้ำประกันมาตรฐานเช่นเดียวกับการวิจัยวัคซีนในต่างประเทศ นี่เป็นนิมิตหมายที่สำคัญ เป็นเกียรติ ความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ เวียดนามได้เตรียมการอย่างรอบคอบสำหรับโครงการใหญ่ โดยเฉพาะต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น ทุกขั้นตอนจึงคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

เวียดนามพึ่งตนเองในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 - ảnh 2แพทย์ฉีดวัคซีนให้แก่อาสาสมัคร (VGP)

ตามร่างโครงการวิจัยของสภาจริยธรรมทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ประเมินและอนุมัติ ระยะที่ 1 ในการทดลองวัคซีน NanoCovax ระดับคลินิกมีอาสาสมัคร 60 คนที่ได้รับวัคซีน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ20คน โดยกลุ่มแรกจะได้รับวัคซีนในระดับ 25 ไมโครกรัม กลุ่มที่ 2 ได้รับ 50 ไมโครกรัมและกลุ่มที่ 3 ได้รับ 75 ไมโครกรัมเพื่อประเมินระดับการฉีดวัคซีนที่ปลอดภัย เมื่อทราบระดับวัคซีนที่ต้องฉีดแล้ว ในการทดสอบระยะที่ 2 จะประเมินความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนระยะที่ 3 ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์แห่งชาติก่อนที่จะได้รับการทดลองในขั้นตอนต่อไป สำหรับอาสาสมัคร พวกเขาจำเป็นต้องได้รับคำอธิบายและคำแนะนำอย่างชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่และความรับผิดชอบเมื่อเข้าร่วมการทดลอง อีกทั้งต้องค้ำประกันว่า สุขภาพของอาสาสมัครเป็นปกติ นาย เหงียนโงกวาง ได้ย้ำว่า

“กระทรวงสาธารณสุขและทีมวิจัยจะค้ำประกันความปลอดภัยสำหรับอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดสอบผ่านมาตรการคัดกรอง ทดสอบ ติดตามและแผนการสำรองสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ อาสาสมัครจะได้รับการตรวจสุขภาพ การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายต่างๆตามตามกฎระเบียบในปัจจุบันเพื่อค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะความปลอดภัยของอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองทางคลินีก”

เป็นที่ชัดเจนว่า วัคซีนเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญและมีประสิทธิภาพที่จะช่วยยุติการแพร่ระบาด  แต่ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขก็ยังคงเตือนว่า ประชาชนไม่ควรเพิกเฉยต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในปัจจุบันตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุข โดยเฉพาะ การปฏิบัติตามมาตรการ 5 ข้อคือสวมหน้ากากอนามัย – ล้างมือ – เว้นระยะห่าง – ไม่ชุมนุมและมีการแจ้งข้อมูลสุขภาพเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาด นอกจากนนี้ การตรวจหาเชื้อในเชิงรุก การแบ่งเขต การแยกตัวและการระบุแหล่งแพร่ระบาดก็เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดอย่างทันท่วงที

“พวกเราขอยืนยันว่า วัคซีนเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อป้องกัน แต่ประชาชนต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขด้วย ซึ่งจะทำให้การป้องกันการแพร่ระบาดมีประสิทธิภาพสูง”

ถึงแม้กระบวนการทดสอบในมนุษย์จะเพิ่งเริ่มต้นและยังคงมีความท้าทายมากมายรออยู่ แต่การทดลองวัคซีนครั้งแรกในเวียดนามเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมีวิทยาศาสต์ มีความรับผิดชอบ ความเป็นมนุษย์ ความคล่องตัว ความเชื่อมมั่นในการพึ่งพาตนเอง การแข่งกับเวลาและการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของเวียดนามในปกป้องประชาชนจากหนึ่งในการแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด