ตั้งแต่ปี 2020 รัฐบาลได้มีโครงการเป้าหมายแห่งชาติสำหรับเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา

ครอบครัวนาง หล่อถิยา เป็นครอบครัวยากจนในตำบลกวางเจี่ยว อำเภอเหมื่องลาด โดยได้รับการช่วยเหลือด้านพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์จากโครงการแก้ปัญหาความยากจนในท้องถิ่น ซึ่งหลังการปฏิบัติโครงการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ครอบครัวนาง หล่อถิยา มีฝูงสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยง หลายร้อยตัวและมีสวนผลไม้ที่สร้างรายได้ปีละหลายสิบล้านด่ง

“ทางการท้องถิ่นได้ช่วยเหลือเงินทุน พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ รวมถึงแนะนำเทคนิคการเพาะปลูกและเพาะเลี้ยงสัตว์ให้แก่ครอบครัวดิฉัน”

ส่วนในการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติสำหรับเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา จังหวัดแทงฮว้าได้เลือกครอบครัวตัวอย่างในการปฏิบัติโครงการฯและขยายผลรูปแบบที่ดี นาย ห่าวันถวี รองเลขาธิการพรรคสาขาอำเภอกวานฮว้า ได้เผยว่า ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่แนวความคิดและวิธีการปฏิบัติโครงการฯ โดยเน้นประชาสัมพันธ์ตัวอย่างเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคฯให้ชาวบ้านปฏิบัติตาม

“ก่อนหน้านี้ มีแต่กิจกรรมช่วยเหลือในรูปให้เปล่าเท่านั้น แต่ตอนนี้ ประชาชนต้องเข้าร่วมโครงการต่างๆอย่างจริงจังและมีโครงการลงทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและการผลิตอย่างยั่งยืนในท้องถิ่น”

ตั้งแต่ปี 2020 สภาแห่งชาติได้อนุมัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติสำหรับเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขาและเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้อนุมัติแผนจัดสรรงบประมาณสำหรับปฏิบัติโครงการนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พรรคและรัฐบาลให้ความสนใจเป็นพิเศษและสานต่อนโยบายด้านชาติพันธุ์เพื่อช่วยเหลือตำบลที่ยากจนกว่า 3 พัน 4 ร้อยแห่งของ 51 จังหวัดในเขตตะวันตกภาคใต้ เขตที่ราบสูงเตยเงวียนและเขตตะวันตกเฉียงเหนือ นาย เห่าอาเหล่ง รัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมการชาติพันธุ์ได้เผยว่า“ในการปฏิบัติโครงการนี้ มีการประสานงานระหว่างกระทรวงและหน่วยงาน 10 แห่ง มีโครงการที่สำคัญ 10 โครงการ โครงการย่อย 14 โครงการ หน้าที่ 36 ข้อและมีการผสานนโยบายต่างๆที่ยังมีผลบังคับใช้ ซึ่งต้องจัดทำเอกสารแนะนำการปฏิบัติโครงการฯอย่างรอบคอบเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พรรคฯและรัฐดำเนินนโยบายสำหรับเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขาอย่างพร้อมเพรียงและกว้างขวาง”

นาย เห่าอาเหล่ง รัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมการชาติพันธุ์

ถึงแม้จะมีปัญหาการขาดดุลงบประมาณ แต่สภาแห่งชาติและรัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณและแหล่งพลังต่างๆให้แก่การแก้ปัญหาความยากจนขึ้นเป็น 2 เท่า อีกทั้งชี้นำการปฏิบัตินโยบายในด้านนี้อย่างสมบูรณ์ พยายามปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนและรอบด้านในหลายมิติและการป้องกันไม่ให้กลับไปยากจนอีกครั้ง อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีฐานะยากจนในการเข้าถึงบริการทางสังคมขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะในเขตชนบท เขตเขา ทะเลและเกาะแก่งเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ค้ำประกันสวัสดิการสังคมและลดอัตราครอบครัวที่ยากจน ซึ่งโครงการต่างๆของรัฐ การเข้าร่วมของแนวร่วมปิตุภูมิ องค์การและผู้มีใจกุศลในการช่วยเหลือผู้ที่มีฐานะยากจนได้ทำให้อัตราครอบครัวที่ยากจนในทั่วประเทศลดลงเฉลี่ยร้อยละ 1.43 ต่อปี ตำบลกว่า 650 แห่งและหมู่บ้าน 1 พัน 2 ร้อยแห่งหลุดพ้นจากความยากจนพิเศษ มีการก่อสร้างบ้านสามัคคี 1 แสน 7 หมื่นหลัง ประชาชนชนกลุ่มน้อยและครอบครัวที่ยากจนทั้งหมดมีบัตรประกันสุขภาพ

นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติวงเงิน 62 ล้านล้านด่งเพื่อแก้ไขผลเสียหายและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มอบข้าวหลายพันตันและเงินจากงบประมาณแผ่นดินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคกลาง ซึ่งเป็นความพยายามของพรรคและรัฐเวียดนามในการปฏิบัติสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิในการดำรงชีวิต การดูแลสุขภาพและการทำมาหากินของประชาชน.