(VOVWORLD) -ในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ร้านชาบ่าเวินได้กลายเป็นสถานที่ที่คุ้นเคยของผู้รักชาในฮานอย เมื่อมาที่นี่ ผู้รักชาไม่เพียงแต่สามารถหาซื้อชาหลายชนิดได้เท่านั้นหากยังมีโอกาสเข้าร่วมชั้นเรียนเกี่ยวกับชาของนาย เหงวียนซวนเฮี้ยน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร้านชาบ่าเวินอีกด้วย ผ่านชั้นเรียนนี้ นาย เฮี้ยนมีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมส่งเสริมความเข้าใจของชาวเวียดนามเกี่ยวกับเครื่องดื่มของประชาชาติและส่งเสริมวัฒนธรรมการดื่มชาของเวียดนาม
ชั้นเรียนเกี่ยวกับชาของนาย เฮี้ยน |
“ที่นี่มีกากของวัตถุดิบ 6 ชนิด คุณลองบอกให้ผมว่า ส่วนใหนเป็นกากของชา หลายคนจะคิดว่า นี่เป็นชา ส่วนนี่ไม่ใช่”
พวกเรากำลังเข้าร่วมชั้นเรียนเกี่ยวกับชาของนายซวนเฮี้ยนที่จัดขึ้นที่ร้านชาบ่าเวินในซอยเล็กๆบนถนนวันกาว เขตบาดิ่ง กรุงฮานอย ร้านชาบ่าเวินมีพื้นที่ 50 ตารางเมตร เมื่อเดินเข้าร้าน ลูกค้าจะรู้สึกผ่อนคลายเนื่องจากบรรยากาศในร้านที่เงียบสงบ มีเสียงเพลงบรรเลงและเสียงน้ำไหล มีกลิ่นของชาอบแห้ง มีภาพวาดพระมหากษัตริย์ เจิ่นเญินตงขนาดใหญ่บนฝาผนัง ด้านล่างของภาพวาดคือชั้นวางของที่ทำจากไม้ที่วางกาน้ำชาทำจากดินเผาและกล่องชาสีแดง นาย เหงวียนซวนเฮี้ยนอายุเกือบ 40 ปีใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าและกางเกงสีขาวกำลังแนะนำให้ผู้เรียน 9 -10 คนเกี่ยวกับวิธีการแยกแยะกากชา ชั้นเรียนเกี่ยวกับชามักจะมีขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของแต่ละเดือน ซึ่งผู้เรียนจะมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และตำนานของชา ประเภทของชา วิธีการเลือกชาที่เหมาะสำหรับตัวเองและการชงชา ซึ่งผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่
“เมื่อก่อนนี้ ดิฉันคิดว่า ใส่ใบชาในน้ำร้อนก็จะดื่มได้ แต่หลังจากที่เข้าร่วมชั้นเรียนเกี่ยวกับชาของนายเฮี้ยน ทำให้ดิฉันทราบว่า การชงชาที่อร่อยต้องปฏิบัติหลายขั้นตอน นาย เฮี้ยนเป็นผู้ที่ความหลงใหลชาและเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนรักและมีความเข้าใจเกี่ยวกับชามากขึ้น”
“ ผมเข้าร่วมชั้นเรียนนี้ตามคำเชิญชวนของเพื่อน ตอนแรก ผมคิดว่า จะเรียนเฉยๆแต่ผ่านการพูดคุยกับครูเฮี้ยน ผมเพิ่งรู้ว่า ความรู้ของตนเกี่ยวกับชายังน้อยมาก ตอนนี้ผมได้รู้แล้ว ดื่มชาประเภทไหนจะทำให้เรานอนไม่หลับหรือชาประเภทใหนช่วยให้หลับสบายขึ้น ”
นาย เหงวียนซวนเฮี๊ยนเกิดที่กรุงฮานอย เคยประกอบธุรกิจเครื่องจักรกลมาเป็นเวลา 4 ปีแต่เนื่องจากมีความหลงใหลชา เมื่อปี 2010 นาย เฮี้ยนจึงตัดสินใจยุติงานที่ทำและหันมาประกอบธุรกิจชา สำหรับนาย เฮี้ยน การศึกษาและเปิดร้านชาบ่าเหวินไม่เพียงแต่เพราะชอบดื่มชาเท่านั้นหากเพราะชามีความผูกพันกับตัวเขาในวัยเด็ก
“บ้านของผมใกล้บ้านของตายาย ตายายผมเปิดร้านขายของเล็กๆ บนโต๊ะชาที่อยู่ตรงกลางของบ้านมีชุดกาน้ำชาและพานหมาก ผู้สูงอายุในหมู่บ้านต่างแวะมาร้านของตายายเพื่อดื่มชาและกินหมากพลู ซึ่งภาพนี้ยังอยู่ในความทรงจำของผม เมื่อมาเยือนบ้านตายาย ผมชอบกินใบชาอบแห้ง ซึ่งผมยังไม่สามารถลืมรสชาดของชานั้นได้ ซึ่งกลายเป็นความทรงจำของผม นี่เป็นเหตุผลที่ผมสร้างเครื่องหมายการค้าชาบ่าเวิน”
ผลิตภัณฑ์ชาบ่าเวิน |
จากความตั้งใจในการประกอบธุรกิจชา นาย เฮี้ยนได้หาผู้ที่มีประสบการณ์ ศึกษาข้อมูลและผลงานวิจัยของบรรดานักวิจัย รวมทั้ง เอกสารเกี่ยวกับชาของนักวิจัยต่างชาติเพื่อถอดประสบการณ์ เขายังได้เดินทางไปยังเขตปลูกชาของเวียดนาม เช่น จังหวัดท้ายเงวียน เขตต่าสั่ว จังหวัดเซินลา จังหวัดเอียนบ๊าย ตำบลหมกโจว์ จังหวัดเซินลา เมืองดาลัด จังหวัดเลิมด่งเพื่อหาแหล่งชาที่มีค่า ร่วมมือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ปลูกชาในการใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกชาและค้ำประกันแหล่งชาที่มีคุณภาพ สำหรับนาย เฮี้ยน การสร้างเครื่องหมายการค้าชาบ่าเวินไม่ใช่แค่เรื่องรายได้เพียงอย่างเดียว
“เวียดนามมีเขตปลูกชาหลายแห่ง เวียดนามยังเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศที่มีต้นชาโบราณ นอกจากเวียดนาม ยังมีลาว จีน เมียนมาร์และไทย เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณส่งออกชามากที่สุดในโลก เมื่อเอ่ยถึงชา ทุกคนต่างกล่าวถึงชาของญี่ปุ่นและจีน เวียดนามก็มีวัฒนธรรมดื่มชามานานแล้ว ผ่านชั้นเรียนของผม ผมมีความประสงค์ว่า บรรดาผู้เรียนจะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อให้เพื่อนมิตรชาวต่างชาติมีความเข้าใจเกี่ยวกับชาของเวียดนาม วัฒนธรรมการดื่มชาจะสอนให้พวกเรารู้จักถึงความเป็นมนุษย์ ”
ตอนแรก การตัดสินใจสร้างเครื่องหมายการค้าชาบ่าเวินของนาย เฮี้ยนไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเนื่องจากพวกเขาเห็นว่า การเลิกทำงานที่สร้างรายได้ที่มั่นคงเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นการประกอบธุรกิจชาเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายนักเนื่องจากในตลาด มีชาหลายชนิดแต่นาย เฮี้ยนไม่ย่อท้อ ภายหลังเกือบนับสิบปี เครื่องหมายการค้าชาบ่าเวินของเขาสามารถครองส่วนแบ่งในตลาด ปัจจุบัน ชาบ่าเวินได้รับการส่งออกไปยังหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่นและจีนและสิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้รักชาสามารถซื้อชาที่อร่อยหายากที่ร้านชาบ่าเวินได้
“ในโลก มีชา 7 ประเภทได้แก่ชาขาว ชาเขียว ชาอูหลง ชาแดง ชาดำ ชาเหลืองและชาผูเอ่อร์ เครื่องหมายการค้าชาบ่าเวินมีชาทั้ง 7 ชนิดดังกล่าว อาทิเช่น ผมตั้งชื่อชาขาวที่ปลูกในเขตเตยกนหลิง จังหวัดห่ายางว่า แบกเวินและห่งเวิน ชาเขียวในตำบลหลุงฝิ่งจังหวัดห่ายางคือเซินเวิน ชาซานเตวี๊ยดในเขตต่าสั่ว จังหวัดห่ายางคือเทียนเวิน ชาเขียวในเขตเตยเกือง จังหวัดท้ายเงวียนคือบิ๊กเวิน ส่วนลองเวินเป็นชาอู่หลง เป็นต้น ยอดอ่อนชาขาวมีราคาแพงมากคือ 10 ล้านด่งต่อกิโลกรัม”
นอกจากการประกอบธุรกิจชาและเปิดชั้นเรียนเกี่ยวกับชาแล้ว นาย ซวนเฮี้ยนยังมีแผนการจัดทัวร์เยือนเขตปลูกต้นชาโบราณสำหรับผู้รักชา นาย เฮี้ยนยังร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆเพื่อให้ร้านชาบ่าเวินกลายเป็นจุดหมายปลายทางในทัวร์ท่องเที่ยวฮานอยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งนาย เฮี้ยนอยากแนะนำให้เพื่อนมิตชาวต่างชาติทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมการดื่มชาและเอกลักษณ์ของชาเวียดนามให้กว้างขวางมากขึ้น.