จังหวัดเอียนบ๊ายพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอาหารที่ปลอดสารพิษ

(VOVWORLD) -เพื่อตอบสนองความต้องการที่นับวันเพิ่มสูงขึ้นของตลาดเกี่ยวกับอาหารที่ปลอดสารพิษ สถานประกอบการ สหกรณ์และธุรกิจครัวเรือนในจังหวัดเอียนบ๊ายกำลังจัดทำและพัฒนารูปแบบการทำเกษตรแบบครบวงจรที่ปลอดสารพิษ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความปลอดภัยด้านอาหารเท่านั้น หากยังช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอีกด้วย
 
 
จังหวัดเอียนบ๊ายพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอาหารที่ปลอดสารพิษ - ảnh 1ส้มโอพันธุ์ขาหลิง มีผลที่สวยงามและคุณภาพดี 

ในหลายปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคทั้งภายในและนอกจังหวัดเอียนบ๊ายต่างนิยมส้มโอพันธุ์ขาหลิง ซึ่งมีผลที่สวยงามและคุณภาพดี โดยเฉพาะได้ถูกปลูกแบบอินทรีย์ตามมาตรฐาน VietGap ยกตัวอย่างเช่น ที่ตำบลฮ้านด่า ในพื้นที่ปลูกส้มโอเกือบ 180 เฮกตาร์ มีพื้นที่ปลูกแบบอินทรีย์เกือบครึ่งหนึ่ง นาย เหงียนมิงชิ้ง รองเลขาธิการพรรคสาขาตำบลฮ๊านด่า อำเภอเอียนบิ่งห์กล่าวว่า ในตอนแรกที่เปลี่ยนมาผลิตแบบอินทรีย์ ชาวบ้านก็ประสบความยากลำบากต่างๆ เนื่องจากยังขาดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและมาตรฐานการเกษตรแบบอินทรีย์ โดยเฉพาะบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับมาตรการนี้อีกด้วย แต่ทางการท้องถิ่นได้ปฏิบัติมาตรการแก้ไขต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เกษตรกร

“สำหรับส้มโอ เราเน้นปลูกในพื้นที่เล็กแต่มีคุณภาพสูง ทางตำบลฯ ได้ลงนามกับสถาบันวิจัยการเกษตรฮานอยให้ส่งสมาชิกของสถาบันฯลงพื้นที่สอนเกษตรกรปลูกส้มโอให้มีประสิทธิภาพ”

นาง เจิ่นถิทู ในหมู่บ้าน เกวี๊ยดเตี๊ยน ตำบล อีกาน อำเภอเจิ๊นเอียน ได้ทำอาชีพเลี้ยงไก่มากว่า 6 ปี ในตอนแรก เธอเลี้ยงไก่หลักร้อยตัวเท่านั้น แต่ปัจจุบัน เธอเลี้ยงไก่ประมาณ 3,000 ตัวต่อรุ่น การเข้าเป็นสมาชิกของสหกรณ์เกษตรเกวี๊ยดเตี๊ยนถือเป็นการสร้างหัวเลี้ยหัวต่อให้แก่ครอบครัวของเธอเนื่องจากได้รับการฝึกอบรมและปฏิบัติตามขั้นตอนที่เข้มงวดในการเลี้ยงไก่ตามมาตรฐาน VietGap ซึ่งช่วยลดจำนวนไก่ติดโรค รักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างฐานะที่มั่นคง เธอบอกว่า

“ก่อนอื่น เราต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะและอาหารเลี้ยงไก่ ซึ่งต้องใช้อาหารที่มีคุณภาพ มีเครื่องหมายสินค้าเพื่อให้ไก่เติบโตอย่างดี”  

จังหวัดเอียนบ๊ายพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอาหารที่ปลอดสารพิษ - ảnh 2ไก่เลี้ยงตามมาตรฐาน VietGap 

นาง นิงถิมาย ผู้อำนวยการสหกรณ์เกษตรเกวี๊ยดเตี๊ยนเผยว่า ปัจจุบันนี้ ในสหกรณ์มีธุรกิจครัวเรือน 7 แห่งที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน VietGap ซึ่งช่วยธำรงความมีเสถียรภาพและสร้างฐานะให้แก่เกษตรกร และนำไปสู่การพัฒนาวิธีการเพราะเลี้ยงอีกด้วย

“ไก่ที่ได้เลี้ยงตามมาตรฐาน VietGap เนื้ออร่อยมาก ซึ่งได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างมาก หวังว่า เราจะสามารถเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าของการผลิตวัตถุดิบและสินค้าแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่ามากขึ้น”

ถึงขณะนี้ ในจังหวัดเอียนบ๊ายมีผลิตภัณฑ์กว่า 180 รายการที่ผ่านมาตรฐานเข้มงวดเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า ขั้นตอนการปลูก การเลี้ยงและการแปรรูปที่ปลอดสารพิษและมีธุรกิจครัวเรือนกว่า 130 แห่งที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน VietGap และเกษตรอินทรีย์ ซึ่งความนิยมที่นับวันเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคก็ถือเป็นแนวโน้มที่จำเป็นของการพัฒนาการเกษตรแห่งสีเขียว ช่วยให้อุตสาหกรรมการเกษตรพัฒนาเพื่อได้รับโอกาสและฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด