เมื่อได้มาเยี่ยมชม โบสถ์ฟ้าดเยี่ยมผมมีความรู้สึกประทับใจอย่างมากในความวิริยะอุตสาหะของคนที่ มีใจแน่วแน่ศรัทธาที่จะสร้างสิ่งที่ยากลำบากให้ประสบผลสำเร็จแม้จะใช้เวลา ยาวนานขนาดไหน
|
โบสถ์คริสต์ฟ้าดเยี่ยม เป็นโบสถ์ที่สร้างจากหินทั้งหลัง เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 1875 เสร็จสมบูรณ์ในปี 1898 ตัวโบสถ์ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลฟ้าดเยี่ยม อำเภอกิมเซิน จังหวัดนิงบิ่งห์ ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศใต้ ประมาณ 120 กิโลเมตร โบสถ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เด่นแตกต่างไปจากโบสถ์คริสต์ทั่ว ไปที่มักจะสร้างเป็นศิลปะตะวันตกแบบโกธิค..มองจากภายนอกคนส่วนใหญ่จะนึกว่า เป็นวัดพุทธหรือไม่ก็ศาลเจ้ามากกว่า..เพราะโบสถ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรม.. ตามแบบศิลปกรรมพื้นบ้านเวียตนาม ขณะนี้ทางการจังหวัดนิงบิ่งห์ร่วมกับนักวิชาการชาวญี่ปุ่นกำลังรวบรวมเอกสาร เพื่อที่จะยื่นต่อ องค์การยูเนสโก ขอขึ้นทะเบียนโบสถ์ฟ้าดเยี่ยม เป็นมรดกโลกเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมต่อไป..โบสถ์ฟ้าดเยี่ยม รอดพ้นจากระเบิดทำลายล้างจากศึกสงคราม ตัวโบสถ์และอาคารรายรอบ ยังมั่นคงแข็งแรงดี แฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนโบสถ์ จะมีบริการที่จอดรถและมัคคุเทศก์นำชมด้วย บริการฟรีโดยท่านบาทหลวงและอาสาสมัครที่มาช่วยงาน ถ้ามองแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะหลงคิดไปว่าที่นี้คือวัดทางพุทธศาสนาแห่งหนึ่งด้วย เหตุว่าตัวโบสถ์ถูกออกแบบ เป็นลักษณะวัดพุทธเวียตนาม มีซุ้มประตูสามช่องที่เรียกว่าตามกวาน หลังคาโค้งงอ ผู้ที่ริเริ่มก่อสร้างโบสถ์ฟ้าดเยี่ยม คือบาทหลวง เตริ่น หลุก ( Tran Luc ) ท่านเป็นบาทหลวงที่ดูแลสังฆมณทลฟ้าดเยี่ยม ในช่วงที่ท่านปกครองสังฆมณทลท่านได้สร้างเรือนภาวนาได้ 5 หลังล้วนทำจากหินทั้งหมด ตัวโบสถ์หลังใหญ่และหอระฆัง.. ช่วงเวลาที่สร้างโบสถ์แห่งนี้ยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยเช่น ปัจจุบัน ดังนั้นเวลาสร้างจึงต้องใช้ดินเหนียวปั้นขึ้นเป็นรูปแบบจำลองก่อน แล้วใช้แรงสัตว์ ช้าง และควาย ลากก้อนหินที่ตัดแต่งไว้แล้วมาเรียงเป็นรูปร่าง เสร็จแล้วคว้านหินแล้วตกแต่งเป็นตัวโบสถ์กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมี เอกลักษณ์โดดเด่น สิ่งสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนทึ่งมากที่สุดคือ ตัวโบสถ์และอาคารทั้งหมดใช้แรงงานคนและสัตว์ก่อสร้างไม่มีเครื่องมือทุ่น เเรงใดๆมาช่วย ไม่มีวัสดุ เหล็ก ซีเมนต์ใดๆ ใช้วัสดุจากธรรมชาติล้วนๆ หอระฆังของโบสถ์ก็สวยงามมีระฆังใบใหญ่แขวนไว้ เสียงของระฆังก้องกังวาลไปไกลถึง 10 กิโลเมตร เนื่องในวาระที่โบสถ์ฟ้าดเยี่ยมมีอายุครบ 100 ปีเมื่อปี 1998 สมาคมคริสตชนเวียตนามได้เชิญชวนให้ชาวคริสต์ในสังฆมลฑลฟ้าดเยี่ยมจงยึดมั่น ในหลักคำสอนของพระเจ้า เป็นคนดีของสังคม ช่วยกันปกป้องดูแลโบสถ์ฟ้าดเยี่ยมซึ่งเป็นเพชรเม็ดงามของศาสนาคริสต์ใน เวียตนามให้ดำรงอยู่ไปนานๆมีโอกาสฉลองอายุ 200 ปีและตลอดไป..ในปัจจุบันโบสถ์ฟาดเยี่ยมยังเป็นที่ฝังร่างของบาทหลวงผู้มี วัตรปฏิบัติดีเป็นที่เคารพนับถือของเหล่าคริสตชนด้วย..
เมื่อได้มาเยี่ยมชม โบสถ์ฟ้าดเยี่ยมผมมีความรู้สึกประทับใจอย่างมากในความวิริยะอุตสาหะของคนที่ มีใจแน่วแน่ศรัทธาที่จะสร้างสิ่งที่ยากลำบากให้ประสบผลสำเร็จแม้จะใช้เวลา ยาวนานขนาดไหน ทำให้ชนเวียตนามรุ่นหลังได้ชื่นชมกับสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นระดับ โลก ความประทับใจต่อมาคือสถานที่แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัวสวยงาม เป็นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างคริสต์ศาสนากับพุทธศาสนา เหมือนกับที่เมืองไทยมีวัดนิเวศธรรมประวัติ ที่เป็นวัดพุทธแต่รูปทรงภายนอกเป็นโบสถ์คริสต์..ส่วนโบสถ์ฟ้าดเยี่ยมเป็น โบสถ์คริสต์แต่รูปทรงเป็นวัดพุทธ..
อรรถพล อุดร