ในทุกๆปี คณะกรรมการแห่งรัฐว่าด้วยชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศจะจัดรายการ “วสันตฤดูในบ้านเกิด” ในช่วงตรุษเต๊ดประเพณีเพื่อต้อนรับชาวเวียดนามโพ้นทะเลที่กลับมาเยี่ยมเยือนประเทศ ปี 2015 นับเป็นครั้งแรกที่รายการดังกล่าวได้จัดขึ้นที่นครโฮจิมินห์โดยมีชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในหลายประเทศนับพันคนเข้าร่วมอย่างกระตือรือร้น ดอกเตอร์นายแพทย์ฝามเทียนฮึง นายกสมาคมแพทย์แผนโบราณเวียดนามในประเทศรัสเซียเผยว่า เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เขาก็รู้สึกซาบซึ้งมากขึ้นในความหมายของคำว่า “รากเหง้า” “ชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในหลายประเทศทั่วโลกล้วนมีความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมสร้างสรรค์บ้านเกิดให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ผมคิดว่า ชาวเวียดนามโพ้นทะเลทุกคนต่างมีความปรารถนาว่า กิจกรรมนี้จะได้รับการดำเนินต่อไปเรื่อยๆเพื่อเปิดโอกาสให้พวกเราศึกษาประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของเวียดนาม”

ส่วนคุณหมากวันต๊วน ชาวจังหวัดไฮฟอง ที่ไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนีตั้งแต่ช่วงปี 1980 ได้เผยว่า เมื่อได้กลับประเทศในช่วงปีใหม่ประเพณี เขารู้สึกอบอุ่นใจมากภายหลังได้ใช้ชีวิตไกลบ้านเกิดมานาน 34 ปีเพราะการฉลองตรุษเต๊ดในต่างประเทศไม่เหมือนกับการฉลองตรุษเต๊ดในบ้านเกิด และได้แต่งกวีสั้นๆเพื่อแสดงความในใจของตนเองและพี่น้องชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ“บ้านคนอื่นไม่ใช่บ้านเรา ไม่มีดอกท้อไม่มีจักจั่น มีความลำบากยากเข็ญนานัปการ มีเราคนเดียวท่ามกลางหิมะตก กัวเฮือง บ้านเกิดที่มีความรักยิ่งเมื่อไหร่จะได้กลับมา”

สำหรับคุณตื้อลิง อดีตผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเลิมตี่นีที่ไซง่อนหรือนครโฮจิมินห์ในปัจจุบันเล่าว่า แม้เธอได้อาศัยในประเทศสหรัฐมาหลายปีแต่ยังคงคิดถึงบ้านเกิดอยู่เสมอ แม้การซื้ออาหารหรือวัตถุดิบปรุงอาหารเวียดนามในช่วงตรุษเต๊ดเดี๋ยวนี้ง่ายแล้วแต่ความรู้สึกและบรรยากาศการต้อนรับตรุษเต๊ดที่อบอุ่นจะไม่เหมือนในบ้านเกิด ดังนั้นตรุษเต๊ดในปีนี้ถือว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับเธอเพราะไม่เพียงแต่ได้ฉลองเทศกาลกับญาติพี่น้องเท่านั้น หากยังได้เข้าร่วมรายการฉลองปีใหม่ของคณะกรรมการฯที่จัดให้แก่ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ “บุตรของดิฉันไม่ให้กลับ เพราะกังวลเกี่ยวกับสุขภาพที่ไม่แข็งแรงของดิฉัน แต่เวียดนามคือภูมิลำเนาของดิฉัน ดิฉันจะต้องกลับมาเยือนให้ได้ ซึ่งรู้สึกตึ้นตันใจมาก”

ความสุขของผู้แทนทุกคนที่ได้เข้าร่วมงานฉลองตรุษเต๊ดในบ้านเกิดนั้นเหลือที่จะกล่าวและความสุขนั้นก็เพิ่มเป็นทวีคุณเมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ของประเทศเวียดนาม โดยอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2014 ได้บรรลุมากว่าที่คาดหวังและปี 2015 ที่เวียนมาก็ได้นำโอกาสที่ดีมากมายมาพัฒนาประเทศต่อไป นี่ถือเป็นพลังขับเคลื่อนให้พวกเขาลงทุนและมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการพัฒนาของประเทศ นายโจนาทาน แหงเหงียน ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศฟิลิปปินส์ ประธานคณะกรรมการบริหารของกลุ่มบริษัทระหว่างแปซิฟิกหรือไอพีพีแสดงความคิดเห็นว่า “ผมคิดว่า ผมยังมีร่างกายแข็งแรงพอหาเงินได้ ส่วนคนจนต้องการเงินจำนวนนี้มากกว่าผม ดังนั้นผมมักจะลงพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญเพื่อช่วยเหลือประชาชน อย่างเช่น โครงการกุศล “ให้เด็กได้ไปโรงเรียน” ผมได้ลงพื้นที่จังหวัดและนครของเวียดนาม 60 แห่งเพื่อให้การช่วยเหลือเด็กเหล่านี้และเห็นว่า นี่คือสิ่งที่จำเป็นและเราต้องมีความรับผิดชอบให้การช่วยเหลือพวกเขา”

นี่คือน้ำใจของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศต่อประเทศและคนเวียดนาม ซึ่งความสุขที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศการต้อนรับปีใหม่ประเพณีในบ้านเกิดถือเป็นการโน้มน้าวใจให้พวกเขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศชาติเมื่อต้อนรับวสันต์ใหม่พร้อมกับประชาชนภายในประเทศนับสิบล้านคนด้วยความเชื่อมั่นว่า ประเทศจะนับวันเจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็งมากขึ้น./.