แต่ละตู้ยาว20เมตร กว้าง3เมตร น้ำหนัก25ตัน บรรจุได้200คน (Newzing)

ระบบรถรางไฟฟ้าขึ้นเขาเหมื่องฮวาช่วงจากสถานีซาปาสู่สถานีกระเช้าเพื่อขึ้นยอดเขาฟานซีปันโดยกลุ่มซันกรุ๊ปเป็นผู้ลงทุนมีความยาวประมาณ2กิโลเมตร เริ่มจากสถานีที่โรงแรม Mgallery ไปถึงสถานีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นฟานซีปัน ความเร็ว10เมตรต่อวินาที สามารถขนส่งผู้โดยสารได้2พันคนต่อชั่วโมง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการขึ้นไปพิชิตยอดเขาฟานซีปันโดยใช้เวลาไปที่สถานีกระเช้าแค่6นาทีแทนที่ต้องใช้เวลาประมาณ20นาทีด้วยการนั่งรถยนต์ไปตามทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว นายเหงวียนห่งฟุก ผู้ขับรถรางไฟฟ้าเผยว่า“รถรางนี้ได้ออกแบบตามมาตรฐานยุโรปดังนั้นจึงมีความปลอดภัยเต็มร้อย ถ้าหากระหว่างทางเกิดไฟดับระบบก็จะหยุดกลางทางเพื่อรอการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าใหม่ประมาณ1-3นาทีก็วิ่งต่อไปได้”

สถานีรถรางไฟฟ้า (newzings)

รถรางนี้มีสองตู้ โดยบริษัท Garaventa ของสวิสเซอร์แลนด์ออกแบบและผลิต แต่ละตู้ยาว20เมตร กว้าง3เมตร น้ำหนัก25ตัน บรรจุได้200คน โดยมีลักษณะแบบรถรางไฟฟ้าโบราณสไตย์ยุโรปด้วยการติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง พัดลมเพดานและรายละเอียดต่างๆที่ปิดทองทำให้ดูหรูหรามาก สองด้านเป็นกระจกใสเพื่อให้ผู้ที่นั่งข้างในสามารถชมวิวได้อย่างเต็มตา เช่นป่าเขาที่มีความเป็นธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมของสถานีมีทางขึ้นเป็นสไตล์ฝรั่งเศสที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังทั่วโลก Bill Bensley ด้วยหลังคาทรงโค้ง เพดานสูงพร้อมลวดลายตกแต่งที่ออกแนวคลาสสิก รถรางไฟฟ้าวิ่งผ่าน2อุโมงค์และ4สะพานสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติระหว่างสองข้างทาง นำท่านนั่งกระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นสู่ฟานซิปัน ยอดเขาสูงสุดของเวียดนามและในภูมิภาคอินโดจีน จนได้รับการกล่าวขานว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” บนความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,143 เมตร มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงอย่างยิ่ง สภาพป่าก็ยังคงมีความสมบูรณ์และสวยสดงดงาม ผ่านหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยต่างๆที่เงียบสงบด้วยบ้านไม้ยกพื้นที่ผุดโผล่กลางม่านหมอกเบาบางตลอดวัน ข้ามผ่านเทือกเขาหว่างเลียนเซินเพื่อชมวิวแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมเชิงจิตวิญญาญบนยอดเขาฟานซีปัน เช่นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ อลังการที่สุดของเวียดนาม กิมเซินบ๋าวทั้งตึอ เป็นที่ประดิษฐานพระพุธทรูปหลายองค์ รวมทั้งเดินตามเส้นทางแห่งพระอรหันต์จำนวน 18 องค์ที่หล่อด้วยทองแดง รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ความเขียวขจีของทุ่งนาขั้นบันไดตามภูเขาหลายๆลูกในหมู่บ้านที่เรียกได้ว่าสวยงามยิ่งราวกับสวรรค์บนดิน อากาศก็เย็นสบาย

นายเหงวียนต๊วนหุ่ง นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการรถรางไฟฟ้ากล่าวว่า“ผมเห็นว่าการบริการรถรางไฟฟ้านี้ช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกมากขึ้นประหยัดเวลาเดินทางแถมยังได้มีโอกาสชมวิวหุบเขาเหมื่องฮวาและหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยก๊าตก๊าต ช่วงที่หมอกจางฟ้าใสสามารถมองเห็นยอดฟานซีปันอยูไกลๆรวมทั้งกระเช้าไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่วิ่งขึ้นลงพานักท่องเที่ยวพิชิดยอดเขาด้วย น่าประทับใจมาก”

เมืองซาปา “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม” เมืองแห่งการสโลว์ไลฟ์ เมืองที่เดินเล่นได้ทั้งวัน ตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืนเพื่อสัมผัสกับสีสันแห่งวัฒนธรรมเขตเขา มาแล้วจะหลงรักแน่นอน ไม่ว่าจะเดินช้อปปิ้ง หรือเดินเล่นตามแหล่งธรรมชาติ ซาปาจึงเป็นเมืองที่เหมาะกับทุกฤดูกาลก็ว่าได้ ถ้าท่านสนใจอยากดื่มด่ำบรรยากาศจริงๆก็อย่าลืมจองทัวร์มาเลย.