( VOVworld )-เดือนตุลาคมยามฤดูไม้ผลัดใบ ดอกบักวีตบานสะพรั่งในทั่วบริเวณเนินเขาของจังหวัดเขตเขาตอนบนห่ายางของประเทศเวียดนาม ทำให้ผืนดินห่ายางดูเหมือนได้สวมเสื้อใหม่ ทุ่งดอกบักวีตอวดสีชมพูอ่อนยามอรุณรุ่งตามสองข้างทาง อันเป็นการเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม

ชาวม้งที่อาศัยที่จังหวัดห่ายางเล่าถึงที่มาของดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตที่มีความผูกพันกับชีวิตของชาวม้งมาหลายชั่วคน  สมัยก่อนโน้น ที่นี่ขาดแคลนอาหาร ประชาชนหิวโหย ชาวม้งต้องไปหาอาหารและข้าวเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ พอมาถึงร่องเขาได้พบดอกไม้ชนิดหนึ่งขึ้นอย่างหนาแน่น  ต้นดอกไม้ชนิดนี้มีใบรูปสามเหลี่ยมหลบหลีกใต้ดอกไม้ เมื่อลองทานเมล็ดก็เห็นว่าอร่อยเหมือนข้าวโพดและข้าว  ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านได้ใช้เมล็ดดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตเป็นธัญญาหารแทนข้าวโพดและข้าว  ดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตอยู่ในตระกูลข้าวเพราะมีการออกหน่อเหมือนจากจมูกข้าวหรือจมูกข้าวโพดจึงเรียกว่าแหมก  ส่วนใบไม้มีรูปสามเหลี่ยม หมายถึงตามยาก ทั้งนี้เป็นที่มาของชื่อตามยากแหมกหรือดอกบักวีตชาวบ้านมักจะทำขนมจากแป้งของลูกตามยากแหมกหรือผสมกับข้าวโพดเพื่อทำเหล้าพื้นเมืองที่มีรสชาติอร่อย  ตั้งแต่นั้นมา ดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีต
จึงผูกพันกับชีวิตของชาวเขาห่ายางรุ่นแล้วรุ่นเล่า

เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณจังหวัดห่ายาง  เนินเขาหินได้กลายเป็นพรมที่ปูด้วยดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตซึ่งสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกให้แก่ที่นี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวถ้ามาแล้วก็อยากจะได้อยู่ต่อนานๆ  สีชมพูอ่อนของดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตปกคลุมบริเวณพื้นที่ ๔ อำเภอได้แก่กว่านบ๋า เอียนมินห์ แหม่วหวากและด่งวัน  คุณมายเฮือง ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากฮานอยเปิดเผยว่า  เธอรู้จักแต่เนินเขาหิน หอธงหลุงกู๊ คฤหาสน์ของตระกูลเวือง ยอดเขาหมาปี๊แหล่งที่มหัศจรรย์และเส้นทางแห่งความสุข แต่เมื่อมาที่นี่เธอรู้สึกประทับใจกับความสวยงามของดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีต คุณมายเฮืองกล่าวว่า  “ ดิฉันรู้สึกประทับใจและเคารพศรัทธาต่อคนที่นี่ บรรยากาศโดยรอบมีแต่เทือกเขาหินสลับกันพื้นที่ปลูกข้าวโพด แต่ชาวบ้านได้ฟันฝ่าความยากจนและความลำบากเพื่อความอยู่รอด ส่วนดอกไม้ตามยากแหมกได้รับการปลูกในพื้นที่ราบระหว่างภูเขาหิน โดยด้านหนึ่งเป็นภูเขาหินและอีกด้านหนึ่งเป็นทุ่งดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตซึ่งเป็นภาพที่สวยงามเหนือคำบรรยาย ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ธรรมชาติจะไม่อำนวยแต่สิ่งมีชีวิตยังคงอยู่ ณ ที่นี่ ”

เมื่อก่อนนี้ ดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตบานสะพรั่งตามหุบเขาและเชิงเขาแต่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากนัก แต่เมื่อภาพถ่ายดอกไม้ดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตจากตากล้องและผู้สื่อข่าวถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางทางองค์การสื่อสารมวลชนหรือทางเฟสบุ๊ค ดอกไม้ชนิดนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักแพร่หลายและวัยรุ่นพากันไปห่ายางเพื่อถ่ายรูป

เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวห่ายาง  ทางจังหวัดได้รณรงค์ชาวบ้านขยายพื้นที่ปลูกดอกดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตเพิ่มขึ้น  ทุกวันนี้ ทุ่งดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตถูกตัดแต่งเป็นรูปต่างๆเช่น รูปดาว รูปหัวใจ สามเหลี่ยมและรูปคลื่นดูสวยงามมากขึ้นอันเป็นการหน่วงเหนี่ยวหัวใจนักท่องเที่ยวให้กลับมาที่นี่อีก

ทางจังหวัดห่ายางจะจัดงานเทศกาลดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตขึ้นในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้สีสันสดสวยและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆอย่างน่าประทับใจ  นายเหงวียนวันต่าย ผู้อำนวยการบริษัทนำเที่ยว Viet Sence Travel เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวม  พวกเขาจะพากันมาชมดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณนายต่าย
กล่าวว่า  “ บริษัทนำเที่ยว Viet Sence Travel เดินหน้าในการจัดรายการท่องเที่ยวห่ายางและพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนพฤศจิกายนนี้  ลูกค้าซื้อรายการท่องเที่ยวห่ายางนับวันเพิ่มมากขึ้น และรายการท่องเที่ยวนี้ขายดีมาก  รายการท่องเที่ยวชมดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตเป็นไฮไลท์ของหน่วยงานการท่องเที่ยวห่ายาง  ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ห่ายางจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เป็นเครื่องหมายการค้าด้านการท่องเที่ยวเพราะมีทุ่งดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีต
สวยงามสุดลูกหูลูกตา ”

ห่ายางยามฤดูไม้ผลัดใบ เทือกเนินเขาหินสูง ดอกตามยากแหมกหรือดอกบักวีตอวดสีสันสดสวยและชมรมชาติพันธุ์ต่างๆที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลายและมีอัตลักษณ์กำลังเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส ซึ่งมาแล้วท่านก็อยากจะกลับมาอีกอย่างแน่นอน .