การเยือนของนายกรัฐมนตรีรัสเซียเป็นการสานต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเสริมสร้างและผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีในเวลาที่จะถึง เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศพบปะสังสรรค์ หารือและเห็นพ้องเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญและแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ในอนาคต กำหนดด้านความร่วมมือหลัก เช่น เศรษฐกิจ การค้า พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา วัฒนธรรม กลาโหมและความมั่นคง

ความไว้วางใจทางการเมืองได้รับการธำรง

ในประวัติศาสตร์ 75 ปีแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับรัสเซีย การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงระหว่างสองประเทศมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับแนวทางและเป้าหมายยุทธศาสตร์ใหญ่ของความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้นหากยังช่วยแก้ไขอุปสรรคในความสัมพันธ์ทวิภาคีผ่านความตั้งใจทางการเมืองและการชี้นำอย่างเคร่งครัดของผู้นำทั้งสองประเทศผ่านการเยือนต่างๆ

ในปีที่ผ่านมา การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงระหว่างสองประเทศได้รับการผลักดันผ่านการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน เมื่อเดือนมิถุนายน การเยือนรัสเซียและเข้าร่วมการประชุมผู้นำ BRICS ขยายวงของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เมื่อเดือนตุลาคม การเยือนรัสเซียของประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน เมื่อเดือนกันยายน การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ต่างๆระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ อาจกล่าวได้ว่า การพบปะระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศได้ส่งเสริมบทบาทการนำหน้าและกำหนดแนวทางความสัมพันธ์ทวิภาคี นาย ดั๋งมิงโทย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำรัสเซียได้ยืนยันว่า

“การเยือนนี้มีขึ้นประจวบกับโอกาสที่เวียดนามและรัสเซียรำลึกครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต นี่เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทบทวนผลความสัมพันธ์ทวิภาคีในตลอด 75 ปีที่ผ่านมา  หารือเกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือในสภาวการณ์ใหม่ ซึ่งการเยือนนี้เป็นกิจกรรมทวิภาคีแรกในปีนี้”

สารเกี่ยวกับการสานต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

            ไมตรีจิตมิตรภาพที่มีมาช้านาน ยั่งยืนและความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูงเป็นพื้นฐานของ 75 ปีแห่งความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับรัสเซีย ซึ่งนี่เป็นพื้นฐานเพื่อให้ทั้งสองประเทศร่วมกันก้าวรุดหน้าไป โดยในตลอดเกือบ 25 ปีที่ผ่านมา รัสเซียได้มีเหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆ ฟันฝ่าอุปสรรคและบรรลุเป้าหมายใหญ่ที่ได้วางไว้ สร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อพัฒนาต่อไป ในวาระใหม่ ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ได้ส่งสารที่ชัดเจนคือพัฒนาประเทศรัสเซียอย่างเข้มแข็ง มีบทบาทและสถานะที่สูงเด่นมากขึ้นในภูมิภาคและโลก ซึ่งรัสเซียยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจ เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายมุ่งสู่ทิศตะวันออกและมีความประสงค์ที่จะผลักดันความร่วมมือในทุกด้านกับเวียดนาม ส่วนเวียดนามกำลังเตรียมย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ ศักราชแห่งการผงาดของประชาชาติ  พยายามพัฒนาอย่างเข้มแข็ง มีความตั้งใจเพื่อพัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ในสภาวการณ์นี้ การธำรงและพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพเป็นทางเลือกของทั้งสองประเทศ

“ทั้งสองประเทศมีศักยภาพความร่วมมืออีกมาก โดยสามารถสนับสนุนกันได้ รัสเซียเป็นประเทศใหญ่ มีแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง มีระบบการศึกษาและฝึกอบรมที่ดี เวียดนามจะผลักดันการปฏิบัติแนวทาง “การศึกษาเป็นนโยบายที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ” ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านนี้จะเปิดโอกาสและศักยภาพใหม่ในเวลาที่จะถึง”

ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญนี้ ผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศเลือกผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ขยายความร่วมมืออย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพในทุกด้าน  พยายามยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าให้สมกับศักยภาพความสัมพันธ์ด้านการเมือง ซึ่งตอบสนองความปรารถนาและผลประโยชน์เกี่ยวกับการพัฒนาของทั้งสองประเทศในระยะใหม่ การเยือนนี้ยังเป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำการตรวจสอบ หารือและแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ในความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคี หารือเกี่ยวกับการปฏิบัติโครงการร่วมมือที่สำคัญระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม

ด้วยเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำระดับสูง การเยือนเวียดนามของนนายกรัฐมนตรีรัสเซีย  มิคาอิลมิชูสติน เป็นการสานต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ เป็นจุดเริ่มต้นของระยะแห่งการพัฒนาใหม่ของความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านเวียดนาม-รัสเซีย.