(VOVWORLD) -ความพยายามเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการปะทะในฉนวนกาซากำลังอยู่ในภาวะชะงักงันหลังจากที่การพบปะระดับสูงในหลายวันที่ผ่านมาไม่สามารถบรรลุผลงานใดๆ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตะวันตกกับโลกอาหรับ พร้อมทั้งทำให้ประชาคมโลกต้องเน้นป้องกันวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
นาย ฟัตตาห์ อัลซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์กล่าวปราศรัยต่อการประชุม (Photo:Khaled Desouki/AFP/Getty Images) |
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการจัดการพบปะระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขการปะทะในฉนวนกาซา โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ได้มีการจัดการพบปะระหว่างผู้นำประเทศอาหรับ ยุโรป สหรัฐและองค์การระหว่างประเทศและหลังจากนั้น 1 วันคือการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างผู้นำของประเทศตะวันตก ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลีและแคนาดา แต่การพบปะดังกล่าวไม่สามารถบรรลุมาตรการใดๆเพื่อแก้ไขการปะทะในฉนวนกาซา
ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตะวันตกกับโลกอาหรับ
ในการประกาศหลังการประชุมสุดยอดสันติภาพไคโรเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นาย Ahmed Fahmy โฆษกของประธานาธิบดีอียิปต์เผยว่า ผลงานใหญ่ที่สุดที่ประชุมนี้ได้บรรลุคือการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศต่างๆ แต่บรรดาผู้สังเกตการณ์เห็นว่า นี่คือวิธีการพูดเพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นจริงคือการประชุมได้ประสบความล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
จุดยืนของบรรดาประเทศอาหรับและฝ่ายตะวันตกเกี่ยวกับความผันผวนในฉนวนกาซายังมีความแตกต่างกัน โดยฝ่ายตะวันตกอยากระบุการประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสใส่ดินแดนของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมและการรับรองสิทธิการปกป้องตนเองของอิสราเอลในแถลงการณ์ร่วมของการประชุม ส่วนบรรดาประเทศอาหรับอยากให้ฝ่ายตะวันตกมีการประณามในลักษณะเดียวกันต่อการที่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ปาเลสไตน์เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในฉนวนกาซาและการปิดล้อมฉนวนกาซา ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุความตกลงภายหลังการหารือเป็นเวลาหลายชั่วโมง
บรรดาผู้สังเกตการณ์เห็นว่า แม้ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ต่างมีความประสงค์ที่จะฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เพื่อแก้ไขต้นเหตุของการปะทะแต่ในช่วงนี้ ประเทศต่างๆได้สนับสนุนการที่รัฐบาลอิสราเอลปฏิบัติยุทธนาการทางทหารในฉนวนกาซาเพื่อทำลายกลุ่มฮามาส โดยในแถลงการณ์ร่วมภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมหลังการประชุมสุดยอดสันติภาพ ณ กรุงไคโร 1 วัน บรรดาผู้นำประเทศสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนีและแคนาดาสนับสนุนสิทธิการปกป้องตนเองของอิสราเอลและเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆปฏิบัติตามกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์และไม่กล่าวถึงข้อตกลงการหยุดยิงทันที
บรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า วิธีการเข้าถึงของฝ่ายตะวันตกอาจเพิ่มความแตกแยกและความขัดแย้งกับโลกอาหรับ ปัจจุบัน ประเทศอาหรับมีความวิตกกังวลต่อผลกระทบจากการปะทะในฉนวนกาซาและไม่ยอมเสียสละผลประโยชน์ของตนถ้าหากฝ่ายตะวันตกไม่ยอมรับมาตรการโดยรวม เช่น อียิปต์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทเป็นศูนย์กลางในความพยายามทางการทูตในภูมิภาคตะวันออกกลางในปัจจุบัน ในการประชุม ณ กรุงไคโร นาย ฟัตตาห์ อัลซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ได้ประกาศว่า ไม่ยอมรับแผนการในการรับชาวปาเลสไตน์นับแสนคนในฉนวนกาซาที่ถูกบังคับให้อพยพถึงคาบสมุทรไซนายของประเทศนี้
“ผมอยากพูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความปรารถนาของชาวอียิปต์คือมาตรการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์ไม่สามารถปฏิบัติผ่านการแลกกับผลประโยชน์ของอียิปต์”
นาย Josep Borrell ตัวแทนระดับสูงเกี่ยวกับนโยบายด้านความมั่นคงและการต่างประเทศของอียู (Photo:Julien Warnand/EPA) |
การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด
ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การบรรลุคำสั่งหยุดยิงทันทีไม่สามารถปฏิบัติได้ ประชาคมโลกต้องเน้นป้องกันวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาในความพยายามทางการทูต
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมกับบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป ณ เมืองลักเซมเบิร์ก เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นาย Josep Borrell ตัวแทนระดับสูงเกี่ยวกับนโยบายด้านความมั่นคงและการต่างประเทศของอียูประกาศว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือการธำรงกิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ในช่วงที่ไม่เกิดการปะทะ มีรถบรรทุกขนส่งอาหาร น้ำสะอาดและยากว่า 100 คันต่อวันไปยังฉนวนกาซา
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรียกร้องให้จัดกิจกรรมด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ผมคิดว่า จำเป็นต้องยุติการปะทะเนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรม และอนุญาตให้ขบวนรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซาเพื่อช่วยเหลือประชาชน ”
กิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นหนึ่งในประเด็นหลักในการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างนาย โจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกับนาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ภายหลังการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะค้ำประกันให้ขบวนรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา จนถึงวันที่ 23 ตุลาคม ขบวนรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือมนุษยธรรม 34 คันได้เดินทางเข้าฉนวนกาซาผ่านด่านชายแดน Rafah ของอียิปต์ แต่อย่างไรก็ดี สำนักงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติเห็นว่า สิ่งของช่วยเหลือมนุษยธรรมตอบสนองความต้องการของประชาชนในเขตนี้ได้เพียงร้อยละ 4 เท่านั้น นอกจากนี้ สหประชาชาติยังเรียกร้องให้อิสราเอลอนุญาตให้ขนส่งเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยเหลือสถานพยาบาลในฉนวนกาซา
ในสัปดาห์นี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับคำเรียกร้องระงับการปะทะด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมตามข้อเสนอของนาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ จนถึงขณะนี้ ภายหลังกว่า 2 สัปดาห์ที่เกิดการปะทะในฉนวนกาซา ร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการปะทะนี้ได้สร้างการถกเถียงและความขัดแย้งระหว่างบรรดาประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ.