ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกำลังวาดภาพตามคำแนะนำของครูเหยี่ยวลิง

ในกิจกรรม Tipsy Art วันนี้ มีผู้เข้าร่วมงาน 20 คน อายุตั้งแต่ 25 – 30ปี โดยพวกเขาถอดเสื้อกั้นหนาว สวมผ้ากันเปื้อนสีดำและนั่งที่โต๊ะที่จัดเป็น 2 แถวที่หันหน้าเข้ากัน มือขวาถือพู่กัน มือซ้ายถือจานสีและรับฟังคำแนะนำของคุณ เหยี่ยวลิง ครูสอนวาดภาพเพื่อวาดภาพดอกท้อบานในย่านเก่าแก่ของกรุงฮานอยในคืนฤดูใบไม้ผลิบนขาตั้งวาดรูปขนาด 40x50 เซนติเมตร

พวกเราจะใช้พู่กันหัวแบนใหญ่สุดเพื่อวาดภาพพื้นหลังด้วยสีน้ำเงินเข้มก่อน  ใช้สีดำและสีขาวผสมเข้ากันให้เป็นสีน้ำเงินเข้ม หรืออ่อนนิดหน่อยก็ได้ ก็ดูสวยดี แล้วระบายภาพพื้นหลังทั้งหมดนะคะ
ในขณะที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกำลังตั้งใจวาดภาพพื้นหลังตามคำแนะนำของครู เหยี่ยวลิง คุณทูจาง อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มกิจกรรม Tipsy Art กำลังยืนอยู่ที่มุมห้องเพื่อช่วยเติมสีให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน  คุณทูจางเคยเป็นที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนาการประกอบธุรกิจของเครือบริษัทใหญ่ในประเทศ ซึ่งเธอได้ทิ้งงานดังกล่าวเพื่อทุ่มเททั้งหมดแก่งานดังกล่าวที่เธอมีความหลงไหลมาตั้งแต่เรียนและทำงานในสหรัฐ  คุณทูจางเล่าว่า“หลังจบมัธยมตอนปลายในโรงเรียนอัมสเตอร์ดัมในเวียดนาม ดิฉันก็ไปเรียนสาขาวิชานโยบายสาธารณะที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐ แต่ดิฉันก็ชอบเรียนวิชาโทศิลปะ เช่น วาดภาพ ถ่ายวีดีโอและถ่ายรูป โดยเฉพาะบรรยากาศของการเรียนวาดภาพที่มีท้องฟ้าและเมฆสีขาว เสียงเพลงสดใสและวาดภาพตามความรู้สึกของตน  ซึ่งหลังจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ดิฉันทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาให้แก่บริษัทแห่งหนึ่งในเมืองบอสตันเป็นเวลา 1ปี  โดยในช่วงนั้น ดิฉันเห็นว่า มีกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ชาวอเมริกันร่วมวาดภาพที่ง่ายๆเป็นเวลาสั้นๆอย่างสนุกสนานโดยไม่ต้องเรียนในโรงเรียนและคิดว่า สามารถจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวในเวียดนาม โดยจะจัดกิจกรรมวาดภาพสีอะคริลิคเป็นเวลา 3 ชั่วโมงสำหรับผู้ที่ไม่เคยเรียนวาดภาพมาก่อน”
จากข้อคิดริเริ่มดังกล่าว คุณทูจางได้ประสานงานกับคุณเลหว่าง อายุ 26ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของบริษัทเดิมและเพื่อนอีก 1 คน รวมทั้งเชิญครู เหยี่ยวลิงมาสอนการวาดภาพให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม  คุณเลหว่างกล่าวถึงการตั้งชื่อกิจกรรมนี้ว่า“Tipsy ภาษาอังกฤษหมายความว่า ความเคลิบเคลิ้ม ซึ่งการตั้งชื่อกิจกรรม Tipsy Art นั้นบ่งบอกว่า พวกเราถือศิลปะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและสัมผัสด้วยตนเองได้อย่างสนุกสนาน ในทางกลับกัน การสร้างผลงานศิลปะ อย่างเช่นกิจกรรมการวาดภาพจะทำให้เกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนความรู้สึกหลังการดื่มเหล้านิดหนึ่ง  ซึ่งวัตถุประสงค์ของกิจรรมนี้คือเพื่อจุดประกายความรักศิลปะให้แก่ทุกคน”
เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Tipsy Art ผู้เข้าร่วมต้องจ่ายเงิน 3 แสน 4 หมื่นด่งหรือคิดเป็นประมาณ500บาท เท่ากับการเรียนวาดภาพทั่วไป 6 ครั้ง  โดยแต่ละคนจะได้รับพู่กัน จานสี แผ่นผ้า 1 ชุด เครื่องดื่ม 1อย่างและได้สัมผัสกับบรยากาศแห่งศิลปะ  คุณเลหว่างเผยต่อไปว่า“Tipsy Art เป็นกิจกรรมด้านศิลปะ ดังนั้นพวกเราจึงจะนำมาสร้างบรรยากาศแห่งการวาดภาพให้แก่ผู้เข้าร่วม โดยจะแสวงหาสถานที่จัดงานที่มีการตบแต่งอย่างสวยงามในใจกลางกรุงฮานอยเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้อย่างสะดวก”
เวลาผ่านพ้นไปจนถึงบ่าย 1 โมง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังคงตั้งใจวาดภาพดอกท้อและย่านเก่าแก่ของกรุงฮานอยให้แล้วเสร็จท่ามกลางเสียงเพลงแจ๊สของ นอราห์ โจนส์  ภาพวาดของแต่ละคนได้สะท้อนอารมณ์ที่แตกต่างกัน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมวาดภาพสีอะคริลิค ดีมากครับ วันนี้ ผมชอบภาพที่ผมวาดมาก กิจกรรมวันนี้ได้สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองเพราะผู้เข้าร่วมสามารถวาดภาพได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องกลัวว่า จะวาดภาพไม่ได้เนื่องจากไม่เคยเรียนมาก่อน”

“ดิฉันชอบวาดภาพมาก วันนี้ ดิฉันได้เรียนวิธีการผสมสี แต่สำหรับการใช้พู่กันกลมนั้น ก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรม Tipsy Art อีกต่อไปเพื่อฝึกวาดภาพเพิ่มอีก นี่เป็นกิจกรรมใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเยาวชน ทุกคนน่ารัก บรรยากาศดีมาก”
กิจกรรม Tipsy Art ได้เสร็จสิ้นลงหลังดำเนินไปกว่า 3 ชั่วโมง ส่วนผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างรู้สึกมีความสุขเนื่องจากสามารถสร้างผลงานศิลปะได้ด้วยตนเอง.