นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมพิธีเปิดการรณรงค์การลงทะเบียนบริจาคอวัยวะ

ในพิธีเปิดการรณรงค์การลงทะเบียนบริจาคอวัยวะในโอกาสรำลึกวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งตรงกับวันที่ 19 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะและเรียกร้องให้ประชาชนบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย หลังจากที่ท่านนายกรัฐมนตรีออกคำเรียกร้อง 2 สัปดาห์ ทั่วประเทศมีผู้ลงทะเบียนบริจาคอวัยะเกือบ 1 หมื่นคน

ที่จังหวัดกว๋างนิง เจ้าหน้ที่สาธารณสุขกว่า 1,300 คนได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะ  นาย เจิ่นวันเจื่อง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ลงทะเลียนบริจาคอวัยวะได้เผยว่า

“ ผมเห็นว่า หลังจากที่ตายแต่ยังสามารถช่วยชีวิตคนอื่นได้ถือเป็นสิ่งที่ดี ผู้ป่วยหลายคนกำลังรอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ การบริจาคอวัยวะเป็นปฏิบัติการที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ”

ตัวอย่างและเรื่องราวต่างๆของผู้ที่บริจาคอวัยวะในทั่วประเทศได้รับการขยายผลและกระเถิบเข้าใกล้หัวใจทุกคน ซึ่งในนั้น มีญาติมิตรของผู้ป่วยสมองตาย ที่จังหวัดกว๋างนิง นาย เยืองกวางดงและนาง เหงวียนถิเหญินเศร้าใจเป็นอย่างมากเมื่อลูกชายสมองตายเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ  พวกเขาได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของลูกชายเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยคนอื่น นาย เยือกวางดง เผยว่า

“ผมมีความประสงค์ว่า ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะของลูกชายผมจะมีสุขภาพแข็งแรง ผมเห็นว่า การบริจาคอวัยวะเป็นสิ่งที่ควรทำ  สามารถช่วยชีวิตคนอื่นและอวัยวะของลูกผมยังคงมีประโยชน์”

นาย เยืองกวางดง ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของลูกชายเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยคนอื่น

การบริจาคอวัยวะเป็นปฏิบัติการที่ดีเพราะการปลูกถ่ายอวัยวะเป็นวิธีการรักษาสุดท้ายสำหรับผู้ป่วยกลุ่มอวัยวะล้มเหลวระยะสุดท้าย    ในเวลาที่ผ่านมา หลายคนได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะและส่วนหนึ่งของร่างกายของผู้ป่วยสมองตายเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย นาง หวิ่งถิหงอกจาง ประธานสภากาชาดอำเภอเมืองเฮืองถวี จังหวัดเถื่อเทียนเว้ ซึ่งเป็นเป็นหนึ่งในผู้เดินหน้าลงทะเบียนบริจาคอวัยวะในท้องถิ่นและเคยบริจาคโลหิต 84 ครั้ง บอกว่า ความเห็นอกเห็นใจและการใช้ชีวิตอย่างมีประโยชน์คือการช่วยเหลือคนอื่น ดังนั้น จึงต้องการบริจาคอวัยวะหลังจากที่ตายไปเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย

  “ ผู้บริจาคอวัยวะหลังจากเสียชีวิตหลายคนสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยคนอื่นได้ 7 คน   การบริจากกระจกตา 2 ข้างสามารถช่วยให้ผู้ป่วย 2 คนสามารถมองได้ ส่วนการบริจาคอวัยวะอื่นๆสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้หลายคน ซึ่งการคิดแบบนี้ทำให้ดิฉันลงทะเบียนบริจาคอวัยวะ”

การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นหนึ่งในผลสำเร็จที่สำคัญของวงการแพทย์โลกเพราะนี่เป็นวิธีเดียวเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยกลุ่มอวัยวะล้มเหลวระยะสุดท้าย นอกจากไตและตับที่สามารถบริจาคได้แล้ว ผู้บริจาคยังสามารถบริจาคอวัยวะอื่นๆ ได้หลังจากเสียชีวิต ปัจจุบัน ทักษะความสามารถในการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะของเวียดนามได้พัฒนาทัดเทียมระดับโลกจนสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้หลายคน ที่เมืองเว้ ภายหลัง 23 ปีนับตั้งแต่ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายไตเคสแรก ปัจจุบัน โรงพยาบาลส่วนกลางเว้ได้ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายอวัยะกว่า 1,800 เคส ในเวลาที่ผ่านมา การบริจาคอวัยวะในจังหวัดเถื่อเทียนเว้ได้รับการขานรับจากประชาชน นาย หว่างหวิงฟู้ รองประธานสภากาชาดจังหวัดเถื่อเทียนเว้เผยว่า ทางสภาฯได้กำหนดว่า การยกระดับจิตสำนึกของชุมชนเกี่ยวกับความหมายของการบริจาคอวัยวะเป็นหน้าที่ที่สำคัญ

  “สภากาชาดส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนเพื่อยกระดับจิตสำนึกเกี่ยวกับความหมายที่สำคัญของการลงทะเบียนบริจาคอวัยวะเพื่อให้พวกเขเข้าใจถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะที่นำชีวิตใหม่มาให้แก่ผู้ป่วยที่ยากจน”

จากขบวนการที่มีความหมายนี้ ผู้ป่วยหลายคนได้ชีวิตใหม่ และคนกลุ่มนี้ก็ได้ขยายผลเรื่องการบริจาคอวัยวะ  ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่ดี มีความเป็นมนุษย์และน่าชื่นชม.