ช่วยชีวิตผู้ป่วยเด็กด้วยลดขั้นตอนการรักษา

(VOVworld) - เมื่อเร็วๆนี้ โรงพยาบาลเด็กหมายเลข 1 ในนครโฮจิมินห์ ได้ประยุกต์ใช้กระบวนการ “ภาวะฉุกเฉินระดับสีแดง” หรือการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินในระดับสีแดง ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในเวียดนามที่ลดขั้นตอนต่างๆเพื่อสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที
(VOVworld) - เมื่อเร็วๆนี้ โรงพยาบาลเด็กหมายเลข 1 ในนครโฮจิมินห์ ได้ประยุกต์ใช้กระบวนการ “ภาวะฉุกเฉินระดับสีแดง” หรือการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินในระดับสีแดง ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในเวียดนามที่ลดขั้นตอนต่างๆเพื่อสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที
ช่วยชีวิตผู้ป่วยเด็กด้วยลดขั้นตอนการรักษา - ảnh 1
กระบวนการ“เตือนภัยระดับสีแดง”เป็นแนวทางใหม่ในเวียดนาม

เมื่อปี 2010 โรงพยาบาลเด็กหมายเลขหนึ่งได้เริ่มดำเนินกระบวนการภาวะฉุกเฉินระดับสีแดงแต่กระบวนการนี้เพิ่งได้กลายเป็นที่รู้จักเมื่อปี 2013 หลังจากที่สามารถช่วยชีวิตเด็กได้สองคนโดยเด็กทั้งสองคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาฉุกเฉินเนื่องจากร่างกายมีบาดแผลนับสิบจุดและหมดสติเนื่องจากเสียเลือดมาก ในขณะที่การรักษาเกือบสิ้นหวังที่แพทย์ของโรงพยาบาลนี้ได้ตัดสินใจใช้กระบวนการภาวะฉุกเฉินระดับสีแดงโดยยกเลิกการวินิฉัยเบื้องต้นและทำการผ่าตัดฉุกเฉินทันทีเป็นเวลา 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่ใช้กระบวนการรักษาดังกล่าว โรงพยาบาลฯได้สามารถช่วยชีวิตเด็กที่ต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉินได้ 10 คน นายแพทย์เหงียนแทงหุ่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯยืนยันว่า            “การปฏิบัติตามกระบวนการนี้สามารถช่วยชีวิตเด็กได้หลายคนเช่นกรณีของเด็กสองคนเมื่อปี 2013 ซึ่งอาจเสียชีวิตถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพราะการทำระเบียบการต่างๆอย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที แต่สำหรับภาวะฉุกเฉินระดับสีแดงจะใช้เวลาเพียงสอง – สามนาทีเท่านั้นโดยแพทย์และเจ้าหน้าที่สามารถทำการรักษาได้ทันที นี่คือความสำเร็จของหน่วยงานสาธารณสุขที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้หลายคน

ช่วยชีวิตผู้ป่วยเด็กด้วยลดขั้นตอนการรักษา - ảnh 2
เด็กสองคนได้ช่วยชีวิตเมื่อปี 2013เนื่องจากกระบวนการเตือนภัยระดับสีแดง

ในการปฏิบัติกระบวนการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินในระดับสีแดง การประสานงานระหว่างแพทย์กับเจ้าหน้าที่ทุกแผนกถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะในขณะที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน นับตั้งแต่นายแพทย์ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องยุติงานที่กำลังทำอยู่เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยศัลยแพทย์จะไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีส่วนแพทย์แผนกอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่เทคนิกการแพทย์ฝ่ายธนาคารเลือดและอายุรแพทย์ก็ต้องเข้าร่วมการผ่าตัด ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ใกล้บริเวณแผนกฉุกเฉินเพราะเวลาทุกนาทีมีค่าสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการรักษาเบื้องต้นหรือการส่งผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินต้องใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 5 นาที ส่วนแพทย์แผนกฉุกเฉินมีบทบาทสำคัญที่สุดในการใช้กระบวนการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินในระดับสีแดงเพราะต้องทำการรักษาในเบื้องต้นและต้องวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยเพื่อตัดสินใจว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินระดับสีแดงหรือไม่ นายแพทย์ดิงเติ๊นเฟือง รองคณบดีแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเด็กหมายเลข 1 เผยว่า โรงพยาบาลฯมีตารางมาตรฐานสำหรับกรณีที่จะประกาศกระบวนการภาวะฉุกเฉินระดับสีแดง

กระบวนการดังกล่าวเสนอโดยนายแพทย์ตังชี้เถือง รองผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสาธารณสุขนครโฮจิมินห์และอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กหมายเลข 1 และได้รับการปฏิบัติในโรงพยาบาลฯหลังจากที่เขาไปศึกษาใน Melbourne ประเทศออสเตรเลีย นายแพทย์ตังชี้เถืองเผยว่า  “ในบางกรณีถ้าหากให้การช่วยเหลือช้ากว่า 15 นาทีจะไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ ดังนั้นถ้าหากเราสามารถระดมแพทย์ที่มีประสบการณ์จำนวนมากก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ นี่คือประสบการณ์ของบรรดาประเทศที่กำลังพัฒนาและในประเทศเหล่านี้ได้มีการจัดตั้งทีมแพทย์ฉุกเฉิน ในเร็วๆนี้ สำนักงานสาธารณสุขนครโฮจิมินห์ก็จะจัดตั้งทีมแพทย์ฉุกเฉินเพื่อทำหน้าที่เหมือนการปฏิบัติกระบวนการภาวะฉุกเฉินระดับสีแดง”

กระบวนการภาวะฉุกเฉินระดับสีแดงได้สร้างประสิทธิภาพให้แก่การรักษาของโรงพยาบาลเด็กหมายเลข 1 ในนครโฮจิมินห์ ดังนั้นหน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามกำลังวิจัยเพื่อขยายผลการปฏิบัติกระบวนการดังกล่าวในโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด