(VOVWORLD) - สำหรับชาวเวียดนามในต่างประเทศรุ่นที่ 2 และ 3 อาจไม่เข้าใจเกี่ยวกับประเทศเวียดนามมากนัก แต่การเดินทางกลับประเทศหลาย ๆ ครั้งได้นำไปสู่การตัดสินใจปักหลักอยู่เวียดนามเพื่อสร้างฐานะและพยายามเชื่อมโยงระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆทั่วโลก
คุณ Daniel Nguyễn Hoài Tiến (baoquocte.vn) |
78 ปี ได้ผ่านพ้นไปหลังการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 ซึ่งปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีชาวเวียดนามโพ้นทะเลรุ่นใหม่จำนวนมากที่มีความมุ่งมั่นและมีความคาดหวังเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อภารกิจการพัฒนาประเทศในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
คุณ Daniel Nguyễn Hoài Tiến อายุ 20ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนามได้เริ่มการพูดคุยผ่านการแนะนำชื่อเวียดนามของตนว่า “ชื่อเวียดนามของผมคือหว่ายเตี๊ยน โดย”หว่าย”หมายความว่า ความคาดหวังและ”เตี๊ยน”หมายความว่า ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งพ่อแม่ผมมีความคาดหวังว่า ผมจะมีอนาคตที่สดใสและก้าวไปข้างหน้าเสมอ”
หลังจากเดินทางกลับเวียดนามครั้งแรกเมื่อปี 2008 หว่ายเตี๊ยนได้มีความประสงค์ว่า จะมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการพัฒนาประเทศ โดยได้เดินทางไปศึกษาค้นคว้าหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือ รวมระยะทางหลายพันกิโลเมตรเพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านให้มีชีวิตที่มั่นคงมากขึ้น
“จากการศึกษาค้นคว้าประเพณี วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ แสดงให้เห็นว่า ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ซึ่งผมพยายามพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆเกี่ยวกับพันธุ์ข้าว ข้าวโพด งา และถั่ว เพื่อสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน สร้างแบรนด์สินค้าและประชาสัมพันธ์สินค้าเวียดนามในตลาดต่างๆทั่วโลก อย่างเช่น เหล้า Sông Cái “
ผลิตภัณฑ์เหล้าข้าวโพดของบริษัท Sông Cái Distillery ของคุณ Daniel Nguyễn ได้รับการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ประเทศจีน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ อีกทั้งได้รับรางวัลเหรียญเงินประเภทเครื่องดื่มระดับโลก ส่วนนิตยสาร Bloomberg ได้โหวตให้เหล้า Sông Cái เป็น 1 ใน 16 เหล้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกปี 2021
“ชื่อ Sông Cái หมายความว่า แม่น้ำหลวง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชนเผ่ากิงห์หรือกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ คนเวียดนามก็รักธรรมชาติเป็นอย่างมาก การพัฒนาแบรนด์เหล้า Sông Cái มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมบทบาทของชุมชนและมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์วิถีชุมชนสายน้ำของเวียดนาม”
คุณ Thảo Griffiths และนาย บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ |
ส่วนคุณ Thảo Griffiths ชาวเวียดนามในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชมรมนักธุรกิจเวียดนามและสหรัฐ โดยเคยทำงานให้แก่สมาคมทหารผ่านศึกสหรัฐในเวียดนามและเป็นผู้ประสานงานคนแรกให้แก่กิจกรรมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐในเวียดนาม เช่น การเก็บกู้กับระเบิดและการช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน และในฐานะเป็นผู้อำนวยการของเครือบริษัท Meta ของสหรัฐภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก คุณ Thảo Griffiths ได้เดินหน้าการเชื่อมโยงระหว่างสิงคโปร์ เวียดนามและสหรัฐในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล
“ดิฉันรับผิดชอบงานเชื่อมโยงด้านนวัตกรรมระหว่างสิงคโปร์ สหรัฐและเวียดนาม โดยทางบริษัท Meta กำลังร่วมมือกับกระทรวงวางแผนและการลงทุนและศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติในการจัดทำกิจกรรม Vietnam Innovation Challenge ซึ่งเริ่มได้รับการปฏิบัติเมื่อปี 2022 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆทางสังคมหรือนโยบายต่างๆในเวียดนาม”
ในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลที่เข้มแข็งในโลก การดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากประเทศที่พัฒนาเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนาม คุณ Thảo Griffiths ได้เผยต่อไปว่า
“ต้องเชื่อมโยงกับบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในเวียดนาม ซึ่งการที่บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนและเปิดสำนักงานตัวแทนในเวียดนามจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนาเทคโนโลยีของเวียดนามและเวียดนามจะมีส่วนร่วมในด้านนี้ต่อโลกมากขึ้น”
ทั้งนี้ ชาวเวียดนามโพ้นทะเลรุ่นใหม่อย่าง คุณ Daniel Nguyễn Hoài Tiến และคุณ Thảo Griffiths ได้สร้างแรงบันดาลใจและความคาดหวังเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามให้นับวันพัฒนาอย่างยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น.