ชาวเผ่ากายองเตรียมผักเพื่อให้การช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติที่กำลังรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

ในหลายวันที่ผ่านมา ครอบครัวของนางโห่ถิด๊อน ชาวเผ่ากายอง ในหมู่บ้านแคจื๋อ ตำบลเขตเขาจ่าเวิน อำเภอเขตเขานามจ่ามีต้องตื่นแต่เช้า ลูกสองคนของนางโห่ถิด๊อนที่กำลังเรียน ป.5และ ม.1ก็ตื่นแต่เช้าและตามแม่ไปเก็บผักและฟักทองที่ไร่  บ้านของนางโห่ถิด๊อนอยู่ห่างจากไร่ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งพวกเขาต้องเดินเข้าป่าทั้งวัน นางโห่ถิด๊อนเผยว่า ชาวบ้านแคจื๋อเคยได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนที่อาศัยในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ ดังนั้นเธอจึงส่งผักผลไม้ไปช่วยเหลือประชาชนในเขตที่เกิดการแพร่ระบาด

“ครอบครัวที่นี่ต่างประสบอุปสรรคและไม่มีเงิน แต่พวกเราก็ปลูกผักและผลไม้จึงส่งผักและผลไม้ไปช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเพื่อฟันฝ่าการแพร่ระบาด”

ชาวบ้านแคจื๋อ ตำบลเขตเขาจ่าเวิน อำเภอนามจ่ามียังคงไม่ลืมความสูญเสียจากเหตุน้ำท่วมเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนและได้รับบาดเจ็บ 13 คน ในช่วงนั้น ชาวกว๋างนามและดานังได้ส่งสิ่งของช่วยเหลือและช่วยชาวบ้านสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ปัจจุบัน แคจื๋อได้กลายเป็นตัวอย่างของหมู่บ้านตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตเขานามจ่ามี เส้นทางเจื่องเซินตะวันออกได้รับการก่อสร้างผ่านหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมเหมือนเมื่อก่อน นาย โห่วันเหวียน ประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลจ่าเวิน อำเภอนามจ่ามีได้เผยว่า แต่ละครอบครัวในตำบลแคจื๋อได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน มูลค่า 70 ล้านด่งจากประชาชนที่อาศัยในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเพื่อก่อสร้างบ้านใหม่ 

“เมื่อปลายปี 2017 พายุโซนร้อนหมายเลข 12 ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่ประชาชนในตำบลจ่าเวิน ผู้ที่มีใจกุศลได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสิ่งของที่จำเป็น เช่น ข้าว เกลือและบะหมี่แก่ชาวบ้านทุกๆสัปดาห์และปัจจุบัน ชาวบ้านแแคจื๋อก็พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมการช่วยเหลือประชาชนในเขตที่เกิดการแพร่ระบาด  ใครมีผักก็ส่งผัก ใครมีบวบก็ส่งบวบไปช่วยเหลือ”

ภาพของเด็กชนเผ่ากายองอายุ 7 –8ขวบในตำบลจ่าเติ๋บเดินเข้าป่าหาหน่อไม้เพื่อแบ่งเบาภาระการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19ได้สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่หลายๆคน นาง เหงวียนถิเหวะ ประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามสาขาอำเภอนามจ่ามี จังหวัดกว๋างนามได้เผยว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆในอำเภอนามจ่ามีประสบอุปสรรคมากมาย โดยนอกเวลาเรียนเด็กๆต้องเข้าป่าช่วยพ่อแม่เก็บผัก  แม้ครอบครัวมีลูกหลายคน อาหารไม่พอกินแต่ประชาชนไม่เคยลืมผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือพวกเขา

ในการณรงค์ให้ความช่วยเหลือประชาชนในเขตที่เกิดการแพร่ระบาด  ประชาชนอำเภอนามจ่ามีได้บริจาคผักกว่า 30 ตัน

“ชาวบ้านส่งเสริมจิตใจแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกัน พวกเราไม่เคยคิดว่า จะสามารถบริจาคผักได้เยอะขนาดนั้น ชาวบ้านบอกว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในเขตที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ ซึ่งน้ำใจของชาวบ้านทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ”

เพื่อขนส่งผักของชาวบ้านให้แก่ประชาชนในเขตที่เกิดการแพร่ระบาด กลุ่มเยาวชนอาสาในนครดานังได้รับหน้าที่ขนส่งไปยังเขตแยกตัว โรงพยาบาล สถานีอนามัยและครอบครัวที่ยากจนตามความปรารถนาของชาวบ้าน  นาย เจิ่นดังวิง ผู้ประสานงานของกลุ่มเยาวชนอาสารับมือการแพร่ระบาดในนครดานังได้เผยว่า เมื่อไปขนผักจากอำเภอนามจ่ามี  พวกเขาก็นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปมอบให้ประชาชนที่นี่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เมื่อเร็วๆนี้ ทางกลุ่มฯสามารถรณรงค์รับบริจาคเงินได้ 100 ล้านด่งและข้าว 5 ตันจากผู้ที่มีใจกุศลเข้ากองทุนเพื่อผู้ยากจนนามจ่ามีเมื่อรถขนส่งผักและผลไม้จากอำเภอนามจ่ามีมาถึงเขตที่เกิดการแพร่ระบาดในนครดานังและจังหวัดกว๋างนาม   ชาวอำเภอเขตเขาก็เตรียมสำรองอาหารเพื่อรับมือภัยธรรมชาติ  ส่วนผู้ที่มีใจกุศลกำลังเตรียมสิ่งของช่วยเหลือที่จำเป็นให้แก่ประชาชนในเขตเขา ใครๆก็มีความประสงค์ว่า จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 ได้โดยเร็วเพื่อจะได้เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในอำเภอนามจ่ามีรับมือภัยธรรมชาติ.