บิ่งเฟือก-แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจที่น้อยคนจะรู้จัก
Vinh Phong- VOV5 -  
(VOVWORLD) -จังหวัดบิ่งเฟือกอยู่ในเขตตะวันออกภาคใต้มีชื่อเสียงจากการมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและมีโบราณสถานที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก บิ่งเฟือกมีความสวยงามที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ
ความสวยงามของทุ่งหญ้าเบ่าแหลก |
ในการเดินทางมาเที่ยวจังหวัดบิ่งเฟือก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้รถประจำทางหรือขับมอเตอร์ไซด์เพื่อจะได้แวะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้อย่างสะดวก รวมทั้ง ความงดงามของป่ายางพาราและสวนมะม่วงหิมพานต์ที่อุดมสมบูรณ์ บิ่งเฟือกมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่านหลายสาย เช่น แม่น้ำด่งนาย แม่น้ำแบ๊ แม่น้ำไซ่ง่อน รวมทั้งมีทะเลสาบและน้ำตกต่างๆ เช่น น้ำตกดั๊กมาย น้ำตกวอยและทะเลสาบสวยกาม อุทยานแห่งชาติบุ่ยาหมิบ เตยก๊าดเตียนและภูเขาบ่าร้า เป็นต้น อุทยานแห่งชาติบุ่ยาเหมิบที่มีพื้นที่กว่า 2 หมื่น 6 พันเฮกตาร์ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพราะมีระบบพืชและสัตว์ที่หลากหลายของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังมีป่าเตยก๊าดเตียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติก๊าดเตียนอยู่ในอำเภอบู่ดังและด่งฟู้ของจังหวัดบิ่งเฟือก ซึ่งเป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลป่าโซนร้อนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น วัวแดง เป็ดก่า เป็นต้น
ในอำเภอบู่ดัง มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่น่าสนใจคือทุ่งหญ้าเบ่าแหลกในตำบลด่งนาย ที่นี่มีทุ่งหญ้า 20 แห่งและสระต่างๆที่สวยงามกลางป่าเขาธรรมาชาติในพื้นที่ 500 เฮกตาร์ เมื่อเดินผ่านทุ่งหญ้า นักท่องเที่ยวจะเห็นน้ำตกดึ๊ง น้ำตกปานทอง น้ำตกบุ่ซ่า เป็นต้น ในช่วงฤดูแล้ง ทุ่งหญ้าเบ่าแหลกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส่วนในช่วงฤดูฝน ทุ่งหญ้าเบ่าแหลกจะมีสีเขียวสดสวยงาม นายโด๋มิงจุง รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดบิ่งเฟือกได้เผยว่า
“จังหวัดบิ่งเฟือกตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะแก่การพัฒนาการท่องเที่ยวเพราะมีทั้งป่าเขาธรรมชาติ ภูเขา ทะเลสาบและน้ำตก เป็นประตูเข้าสู่นครโฮจิมินห์และจังหวัดเตยเงวียน ทางการจังหวัดฯเน้นพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ผสานกับการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ การค้นคว้าวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆและอาหารพื้นเมืองของจังหวัดบิ่งเฟือก พวกเรามีความประสงค์ที่จะมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดบิ่งเฟือก ในเวลาที่จะถึง หน่วยงานการท่องเที่ยวจะให้คำปรึกษาแก่พรรคสาขาและคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯในการประกาศใช้กลไกและนโยบายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว”
วัดเขมรอนัมนิกายเถรวาทในจังหวัดบิ่งเฟือก |
จังหวัดบิ่งเฟือกไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อเนื่องจากเป็นเขตปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์เท่านั้นหากยังเป็นแผ่นดินที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่อีกด้วย โดยที่นี่มีแหล่งโบราณคดีที่มีอายุ 2,000 ปี ซึ่งมีการขุดพบสิ่งของต่างๆ เช่น พิณหิน กำแพงดินเก่าและเครื่องเคลือบดินเผาสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ จังหวัดบิ่งเฟือกยังมีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่มีความผูกพันกับภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติ เช่น สวนยางพาราฟู้เหรี่ยง เรือนจำบ่าร้า ฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติของพรรคสาขากองบัญชาการกองกำลังติดอาวุธปลดปล่อยภาคใต้เวียดนาม โดยเฉพาะมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดบิ่งเฟือกนั่นก็คือโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ต่าเทียด ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองบัญชาการกองกำลังติดอาวุธปลดปล่อยภาคใต้เวียดนามในช่วงปี 1972-1975ในตำบลหลกแถ่ง อำเภอหลกนิง ฐานที่มั่นต่าเทียดได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1973 บนพื้นที่ 16 ตารางกิโลเมตและมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ต่างๆเกิดขึ้นที่นี่ เช่น การต้อนรับคณะผู้แทนระดับสูงของกรมการเมืองและกองเสนาธิการเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการสร้างสรรค์กองกำลังติดอาวุธและปฏิบัติแผนการสู้รบ เป็นต้น โดยเฉพาะ เมื่อปี 1975 ที่นี่ได้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดตั้งกองบัญชาการยุทธนาการโฮจิมินห์ ปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ
นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ได้รับการรับรองเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ระดับชาตินั่นคือสำนักงานรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลสาธารณรัฐภาคใต้เวียดนามหรือบ้านยาวเต๊ ซึ่งได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1911 ที่นี่เคยเป็นสำนักงานของบริษัทยางพาราแซดโซของฝรั่งเศส บ้านยาวเต๊เป็นสถานที่ที่ใช้ต้อนรับคณะผู้แทนทั้งภายในและต่างประเทศ เมื่อปี 1973 ณ บ้านยาวเต๊ ได้มีการจัดการประชุมทางทหาร 4 ฝ่ายได้แก่ คณะผู้แทนทหารของรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลสาธารณรัฐภาคใต้เวียดนาม ตัวแทนของกองทัพประชาชนเวียดนาม ตัวแทนของกองทัพสหรัฐและคณะผู้แทนทหารของเวียดนามก๋งหว่าเพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติข้อกำหนดที่ได้ลงนามในข้อตกลงปารีสภายใต้การสังเกตการณ์ของคณะกรรมการระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน บิ่งเฟือกมีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว 4 รูปแบบได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยววัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณและการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนวัดเขมรอนัมนิกายเถรวาทที่ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1931ในอำเภอหลกนิงหรือซอกบอมบอ อำเภอบู่ดัง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าเซอเตียงเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์การต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติของชนเผ่าเซอเตียง ดื่มด่ำบรรยากาศที่ครึกครื้นของเสียงฆ้อง ดื่มเหล้าอุ กินหมูย่าง ชมการระบำรำฟ้อนและนั่งล้อมวงฟังผู้ใหญ่บ้านเล่าเรื่องราวต่างๆ นาย ดว่านกวี๊ นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า
“นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จักแผ่นดินบิ่งเฟือกเพราะภาคการท่องเที่ยวยังไม่พัฒนา แต่จังหวัดบิ่งเฟืองมีความสวยงามแบบธรรมชาติและเรียบง่าย พวกเราอยากค้นคว้าสถานที่ท่องที่ยวหลายแห่ง เช่น ป่าก๊าดเตียนและหมู่บ้านของชนเผ่าต่างๆที่นี่”
จังหวัดบิ่งเฟือกเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าต่างๆ เช่น เมอนง เซอเตียง หมะ เป็นต้น ดังนั้น ที่นี่จึงมีเทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเทศกาลวิหารบ่าร้า เทศกาลฟ้าเบ่าและเทศกาลขอฝน เป็นต้น นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดบิ่งเฟือกจะมีโอกาสลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของชนเผ่าต่างๆ เช่น ดอดเมยเนื้อง ซึ่งเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในมื้ออาหารของชาวเผ่าเซอเตียง.
Vinh Phong- VOV5