รูปปั้นประธานคิวบา ฟิเดล คาสโตในสวนสาธารณะฟิเดล เมืองดงห่า จังหวัดกว๋างจิ

เหงวียนถิเฮือง อาศัยในเมืองดงห่า ซึ่งโดนระเบิดและได้รับการช่วยชีวิตจากประธานประเทศคิวบา ฟิเดล คาสโตร กลายเป็นเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ในการเยือนจังหวัดกว๋างจิ เมื่อเดือนกันยายนปี 1973 โดยคุณเฮืองเล่าให้ฟังว่า เมื่อบ่ายวันที่ 16 กันยายนปี 1973 ตอนนั้นเธออายุ 17 ปี กำลังถมดินหลุมระเบิดริมฝั่งแม่น้ำเบ๊นหาย ร่วมกับเยาวชนอีกหลายคนในตำบลหวิงแถ่ง อำเภอหวิงลิงห์ ซึ่งในระหว่างการทำงาน เกิดเหตุระเบิดรุนแรงทำให้คุณเฮืองและอีก 5 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยขณะนั้น ประธานประเทศ ฟิเดล คาสโตร พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่คิวบาที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนและได้เดินทางถึงพื้นที่ดังกล่าว โดยประธาน ฟิเดล คาสโตร ได้สั่งให้รถในขบวนพาคุณเฮืองและผู้บาดเจ็บไปส่งยังโรงพยาบาลหวิงลิงห์ สำหรับคุณเฮืองที่เสียเลือดมาก ประธาน ฟิเดล ได้ส่งรถไปที่จังหวัดกว๋างบิ่งห์ เพื่อนำเลือดมาช่วยเหลือได้ทันเวลา หลังจากเข้ารักษาในโรงพยาบาลประมาณหนึ่งสัปดาห์ คุณเฮืองและกลุ่มผู้บาดเจ็บได้รับของขวัญจากประธาน ฟิเดล คาสโตร ส่วนคุณเฮือง ได้รับยาและอาหารเสริมเพิ่มเติม พร้อมนามบัตรที่มีชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของประธาน ฟิเดล คาสโตร ซึ่งเมื่อคุณเหงวียน ถิ เฮือง นึกถึงช่วงเวลาดังกล่าวก็ยังคงรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

“เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้นที่ฉันได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่จนถึงทุกวันนี้ ยังคงมีชีวิตอยู่ มีร่างกายที่แข็งแรง ได้แต่งงานและมีครอบครัว ท่าน ฟิเดล เปรียบเสมือนพ่อที่ให้กำเนิดฉันอีกครั้ง”

ไม่เพียงแค่ชาวหวิงลิงห์เท่านั้นที่ยังคงจดจำได้ดีเกี่ยวกับประธาน ฟิเดล คาสโตร แต่บรรดาเจ้าหน้าที่อำเภอ กามโหล่ ก็ยังคิดถึงเรื่องราวของประธานคิวบาที่ไม่เกรงกลัวระเบิดและกล้าไปที่สนามรบที่ยังคงคลุ้งไปด้วยกลิ่นดินปืน นายเยือง ตู๊ แอง อดีตเลขาธิการพรรคสาขาอำเภอกามโหล่ เล่าว่า ช่วงบ่ายวันที่ 14 กันยายน ปี 1973 บรรดาผู้นำของอำเภอต่างๆ ในจังหวัดกว๋างจิ ได้รับข้อมูลลับว่าจะมีการจัดงานประชุมที่อำเภอกามโหล่ในวันที่ 15 กันยายน แต่ในเวลาต่อมา ทุกคนก็ได้รับแจ้งว่า งานจะมีขึ้นที่ฐานทัพ 241 และมี “แขกรับเชิญพิเศษ”  บรรดาเจ้าหน้าที่ ทหาร คณะผู้แทนกองกำลัง และประชาชนจังหวัดกว๋างจิ เดินทางไปยังฐานทัพ 241 ซึ่งที่นี่เคยเป็นฐานปืนใหญ่ของสหรัฐในช่วงสงคราม และได้ให้การต้อนรับผู้นำ ฟิเดล คาสโตร  ณ ที่นี่ ประธาน ฟิเดล คาสโตร ได้กล่าวว่า เพื่อเวียดนาม คิวบาพร้อมที่จะสละเลือดเนื้อของตน” ซึ่งเป็นประโยคแห่งประวัติศาสตร์นี้มีส่วนช่วยกระชับมิตรภาพและความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่างเวียดนามกับคิวบา นายเยือง ตู๊ แอง เผยว่า

“การพบปะได้เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่พิเศษมาก เพราะฐานทัพของฝ่ายศัตรูอยู่ห่างจากที่นี่เพียงแค่ประมาณ 12 กิโลเมตร เมื่อท่าน ฟิเดล คาสโตร ชูธงปลดปล่อยภาคใต้ ประชาชน พี่น้องทหาร บรรดาเจ้าหน้าที่ตำบล อำเภอ และจังหวัด ต่างปรบมือกันอย่างไม่ขาดสาย”

“การที่มีผู้นำของประเทศหนึ่งในละตินอเมริกาเดินทางมายังจังหวัดกว๋างจิ ในช่วงที่สงครามดุเดือด ถือเป็นความรักและพลังใจอันยิ่งใหญ่สำหรับประชาชนชาวกว๋างจิ เพราะท่านไม่เคยมีความรู้สึกเกรงกลัวอันตราย ประธาน ฟิเดล ได้รับความเคารพจากประชาชนทั่วประเทศเวียดนาม รวมถึงประชาชนในภาคใต้”

เขตโบราณสถานแห่งชาติฐานทัพ 241 ในปัจจุบันคือหมู่บ้านเตินฟู้ ตำบลกามแถ่ง ที่มีทั้งสวนยางพารา ต้นเสม็ด และพริกไทย ส่วนเส้นทางจากทางหลวงหมายเลข 9 สู่ฐานทัพ 241 ได้รับการขยาย มีบ้านเรือนหลายหลังได้สร้างขึ้นบริเวณสองข้างทาง สร้างโฉมหน้าใหม่ให้แก่พื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงคราม ด้วยความพยายามของทางการปกครองส่วนท้องถิ่นและความขยันหมั่นเพียรของชาวบ้านที่นี่ นายเหงวียน แทง บั๊ก รองประธานคณะกรรมการอำเภอกามโหล่ เผยว่า

“ถึงแม้พื้นที่อำเภอกามโหล่ ยังคงมีความอัตรายหลังจากเพิ่งได้รับการปลดปล่อย แต่ประธาน ฟิเดล คาสโตร ก็ได้เดินทางมาเยือนฐานทัพ 241 ซึ่งมีความหมายในการให้กำลังใจและพลังใจในการต่อสู้ของบรรดาเจ้าหน้าที่ ทหาร และประชาชนอำเภอกามโหล่ จังหวัดกว๋างจิ และชาวเวียดนามทั่วประเทศ เพื่อคว้าชัยชนะและรวมประเทศเป็นเอกภาพในฤดูใบไม้ผลิปี 1975”

ทั้งนี้ แม้เวลาผ่านไปกว่าครึ่งศตวรรษ แต่ในหัวใจของชาวเวียดนาม ประธาน ฟิเดล คาสโตร ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิวีรกรรมแห่งการปฏิวัติและจิตใจแห่งการต่อสู้ พร้อมความปรารถนาอันดีสู่การมีอิสรภาพและมีความสุขของประชาชนที่ใฝ่สันติภาพในโลก./.